ตอน บทที่ 416 บุกรุกโดยไม่ได้รับอนุญาต จาก ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 416 บุกรุกโดยไม่ได้รับอนุญาต คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายประวัติศาสตร์ ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน ที่เขียนโดย ฝูเชิง เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
ลู่ม่านถึงกับตกตะลึง พอหันไปมองไปมู่หรงเซี่ยอีกครั้ง ก็เห็นว่าแก้มของมู่หรงเซี่ยแดงปลั่ง
“อย่าพูดจาเหลวไหลสิ” ไม่ว่าจะเป็นหญิงสาวที่เข้มแข็งเพียงใด เมื่อพูดถึงการแต่งงานของตัวเอง ต่างก็ต้องหน้าแดงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ดูเหมือนว่า ในที่สุดเฉินจื่อคังคนนี้ก็ปีนป่ายขึ้นเกาะกิ่งสูงได้สำเร็จแล้วสินะ เมื่อมองดูสีหน้าของมู่หรงเซี่ย ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองดูเหมือนว่าน่าจะดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนมากจริง ๆ
“ลู่อันเหริน? ว่าอย่างไรล่ะ?” มู่หรงเซี่ยถามอีกครั้ง
ลู่ม่านรีบพยักหน้ารับ “คุณหนูกำลังจะแต่งงาน ข้าย่อมพร้อมช่วยแน่นอนอยู่แล้ว ถ้าตอนนี้ท่านพอจะมีเวลาว่าง พวกเราก็ไปที่ห้องส่วนตัวของร้านได้ ข้าจะช่วยเจ้าลองแต่งหน้าของจริงให้เอง แล้วให้สาวใช้ของคุณหนูมาเรียนรู้ไปด้วยกันเลย”
“วิเศษเลย! ไม่มีอะไรจะดีไปกว่านี้แล้ว!” มู่หรงเซี่ยพูดด้วยรอยยิ้ม
เหอเย่วเป็นลูกมือให้ ทั้งสี่คนตรงไปที่ห้องส่วนตัว
เมื่อก่อน ห้องส่วนตัวแห่งนี้จะใช้เป็นห้องที่ให้ฮูหยินทั้งหลายเข้ามาทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ แต่ตอนนี้ถูกเปิดให้ใช้ได้แบบสาธารณะแล้ว
หลังจากสั่งให้เหอเย่วเตรียมเครื่องมือทั้งหมดจนพร้อม ลู่ม่านก็เริ่มล้างหน้าให้มู่หรงเซี่ย"ก่อนจะเริ่มแต่งหน้า คุณหนูต้องล้างหน้าด้วยโฟมล้างหน้าของทางร้านเราให้สะอาดก่อน ถึงจะแต่งหน้าได้ง่ายและติดทน"
สาวใช้คนนั้นรีบจำไว้ทันที ลู่ม่านพูดขึ้นอีกว่า "ควรใช้ครีมตัวนั้นด้วย เพื่อที่เวลาทาแป้งจะช่วยให้แป้งไม่ไปติดกันเป็นกระจุกอยู่ที่เดียว อาศัยจังหวะที่ครีมนั้นยังมีความชุ่มชื้นอยู่ ให้รีบทาแป้งลงไปอย่างรวดเร็ว"
ลู่ม่านพูดไปพลาง มือก็ตบแป้งด้วยพัฟแต่งหน้าที่นางทำขึ้นเองลงไปแบบเร็ว ๆ ไปพลาง
จากนั้นก็ผละมือออกอย่างรวดเร็ว เกลี่ยแป้งที่ลงไว้แบบเร็ว ๆ ไปจนทั่วใบหน้าของมู่หรงเซี่ย หลังจากแต่งหน้าแบบนี้ จุดด่างดำคล้ำเสียที่เป็นตำหนิทั้งหลายบนใบหน้าของมู่หรงเซี่ย ก็ถูกปกปิดจนเรียบเนียนสนิทแล้ว
สาวใช้ที่อยู่ข้าง ๆ มองไปที่มู่หรงเซี่ยด้วยความมหัศจรรย์ใจ "คุณหนู ช่างน่าทึ่งจริง ๆ เจ้าค่ะ"
กระทั่งมู่หรงเซี่ยยังอดถอนหายใจไม่ได้ “ข้าถึงได้บอกอย่างไรล่ะ ว่าลู่อันเหรินเป็นคนที่แต่งหน้าเก่งที่สุดในอำเภอเฟิงหนานแล้ว ก่อนหน้านี้เคยเจอเจ้ามาตั้งหลายครั้ง ข้าก็สังเกตเห็นแล้วว่าเจ้าแต่งหน้าได้งดงามอย่างยิ่ง เรียกได้ว่าแทบจะมองไม่ออกเลยว่าแต่งหน้า!”
“ คุณหนูชมเกินไปแล้วล่ะ แค่เพราะปกติเวลาอยู่ที่บ้านข้าได้ทำบ่อย ๆ จนเรียนรู้กระทั่งเกิดเป็นประสบการณ์เท่านั้นเอง ” หลังจากลู่ม่านพูดจบ ก็เริ่มแต่งริมฝีปากให้มู่หรงเซี่ย เทคนิคการแต่งริมฝีปากของยุคก่อนราชวงศ์ถังนี้ ว่ากันตามจริงแล้วก็ค่อนข้างโด่งดังในยุคอนาคตพอสมควร ทั้งยังดูดีมาก ๆ ลู่ม่านไม่ได้ปรับเปลี่ยนอะไรเลย ตั้งใจใช้เทคนิคนี้ตรง ๆ ต่างกันแค่นางใช้นิ้วในการลงสีเท่านั้น ไม่ใช่การเม้มผ่านกระดาษ การทำแบบนี้จะช่วยให้ริมฝีปากดูอวบอิ่มเป็นมันเงาได้มากกว่า"
หลังจากแต่งเสร็จ ลู่ม่านก็ขอให้มู่หรงเซี่ยยืนขึ้น
มู่หรงเซี่ยรู้สึกมหัศจรรย์ใจจนเกินบรรยายแล้ว "ขอบคุณลู่อันเหรินมาก ๆ เลย"
“ไม่ต้องเกรงใจหรอก เป็นหน้าที่ของข้าอยู่แล้ว” ลู่ม่านพูดด้วยรอยยิ้ม “ข้าเองก็หวังว่าคุณหนูมู่หรงจะได้แต่งงานกับสามีที่ดีสมดังปรารถนา!”
มู่หรงเซี่ยเรียกให้สาวใช้มาเรียนรู้ทักษะนี้อีกครั้ง แล้วกวาดซื้อเครื่องสำอางที่ลู่ม่านเพิ่งใช้ไปเมื่อครู่มาจนหมด ก่อนจะพาสาวใช้กลับไป
เหอเย่วยิ้มพลางพูดว่า “พี่เสี่ยวม่าน ข้าว่าถ้าในอนาคต เมื่อไหร่ที่ธุรกิจในร้านเราเกิดไม่ดีขึ้นมา พี่ก็ออกไปช่วยคนอื่นแต่งหน้า ไม่แน่นะว่าเราอาจจะขายของออกไปได้อีกเยอะเลยเชียวล่ะ!”
ลู่ม่านถึงกับหลุดหัวเราะเลยทีเดียว “เสี่ยวเย่ว เจ้าอย่าพูดเล่นไป ความคิดนี้ของเจ้าไม่เลวเลยนะ” เพราะอันที่จริง นี่ก็เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดของคนในโลกยุคอนาคตจริง ๆ นั่นแหล่ะ
แต่ลู่ม่านกลับมีแนวคิดใหม่
“พวกเราไม่จำเป็นต้องทำการตลาดก็ได้ แต่ปรับรูปแบบการเข้าร่วมใช้บริการของร้านเรา เป็นสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าทุกคนที่ซื้อเครื่องสำอางในร้านของเรา จะได้รับสิทธิแต่งหน้าโดยไม่ต้องเสียเงินหนึ่งครั้ง”
เหอเย่วพยักหน้า “นี่เป็นวิธีการที่ดีมากวิธีหนึ่งเลยเจ้าค่ะ”
“เพราะฉะนั้นก็ขอฝากให้เจ้าดูแลด้วยล่ะ!” ลู่ม่านหัวเราะ “มันพอดีว่าเจ้าก็แต่งหน้าเป็นอยู่แล้ว สามสี่วันนี้เจ้าช่วยรับผิดชอบสอนบรรดาสาว ๆ ในร้านของเราด้วยล่ะ”
เหอเย่วพยักหน้ารับ “ได้เจ้าค่ะ ข้าจะได้ลองฝึกฝีมือของตัวเองไปด้วยเลย!”
หลังจากตัดสินใจแล้ว ลู่ม่านก็ไปคุยกับตงจื่อ ตงจื่อเคารพเทิดทูนลู่ม่านที่สุด ดังนั้น อะไรที่เป็นความคิดเห็นของนาง เขาจะไม่มีวันหักล้างอย่างเด็ดขาด หลังจากกำหนดเวลาว่าจะเริ่มเรียนในเช้าวันพรุ่งนี้ ลู่ม่านก็พาเหอเย่วออกไป
เฉินจื่ออานพยักหน้า “ได้ ข้าจะพยายามทำให้สุดความสามารถนะ”
วันรุ่งขึ้นก็เหมือนกับทุกวัน ลู่ม่านยืนยันที่จะไปส่งเฉินจื่ออานจนถึงหน้าสนามสอบ มองดูเขาเดินเข้าไป จากนั้นก็กลับไปเริ่มเตรียมอาหารตามลำพัง
เหอเย่วไปช่วยฝึกอบรมพนักงานที่ร้านม่านเซิงแล้ว จู่ ๆ ลู่ม่านก็รู้สึกว่าตัวเองเหงาขึ้นมานิดหน่อย สุดท้ายหลังจากคิดไปคิดมา ก็ตัดสินใจไปรอที่หน้าสนามสอบจนกว่าเฉินจื่ออานจะสอบเสร็จ เพื่อจะได้กลับบ้านด้วยกัน
เพียงชั่วพริบตา ก็เป็นวันสุดท้ายของการสอบช่วงฤดูใบไม้ผลิแล้ว
เช่นเดียวกับเมื่อวาน หลังจากที่ลู่ม่านทำอาหารเสร็จ ก็ไปรอเฉินจื่ออานที่หน้าสนามสอบคนเดียว เพียงไม่นานเสียงกระดิ่งสัญญาณก็ดังขึ้น แต่ลู่ม่านรออยู่ครู่ใหญ่ ๆ ก็ไม่มีใครออกมาเลย
ลู่ม่านรู้สึกงุนงงมาก เดินเข้าไปหาเจ้าหน้าที่คนหนึ่งซึ่งมีหน้าที่เฝ้าประตูหน้าโรงเรียนโดยเฉพาะ แล้วถามว่า “การสอบเอินเคอยังไม่เสร็จสิ้นอีกรึ? ทำไมถึงยังไม่มีใครออกมาเลยล่ะ?”
เจ้าหน้าที่มองลู่ม่านขึ้น ๆ ลง ๆ ก่อนจะพูดด้วยท่าทางเหลืออดว่า “เป็นผู้หญิงมาเอะอะโวยวายอะไรที่นี่? สถานที่แห่งนี้เป็นสนามสอบคัดเลือกฤดูใบไม้ผลินะ รีบกลับไปซะ”
ลู่ม่านขมวดคิ้วมุ่น “สามีของข้ามาเข้าสอบคัดเลือกช่วงฤดูใบไม้ผลิด้วย ข้ากำลังรอเขาอยู่”
เจ้าหน้าที่คนนั้นพูดขึ้นว่า "ข้างในมีเรื่องแล้ว มีผู้ต้องสงสัยว่าลอบเอาคำตอบเข้าไปในห้องสอบ ข้างในกำลังดำเนินการสอบสวนอยู่ วันนี้ไม่ว่าใครก็คงจะออกไปไม่ได้แล้วล่ะ"
ลู่ม่านเริ่มเกิดความรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาตงิด ๆ แล้ว
เมื่อเห็นว่านางเงียบไม่ตอบ เจ้าหน้าที่คนนั้นก็พูดขึ้นมาอีกว่า “ยังไม่ไปอีกรึ? ถ้ามาวุ่นวายจนส่งผลกระทบกับการสอบเอินเคอ ข้าจะจับเจ้าแล้วนะ!”
ลู่ม่านก็ไม่ยอมแสดงให้เห็นว่าตนด้อยกว่าเหมือนกัน “ข้าแค่รออยู่ข้างนอก ประการแรก ข้าไม่ได้ส่งเสียงเอะอะสร้างปัญหา ประการที่สอง ข้าไม่ได้บุกรุกเข้าไปโดยไม่ได้รับอนุญาต มันขัดขวางการสอบเอินเคออย่างไรไม่ทราบ?”
เจ้าหน้าที่คนนั้นถูกลู่ม่านยอกย้อนจนเกิดความรู้สึกไม่พอใจ ยกกระบองในมือขึ้นแล้วทำท่าจะฟาดเข้าใส่ลู่ม่าน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน
เป็นพอ.ที่กลับกรอก เป็นที่พึ่งไม่ได้เลย ยอกจะออกจากครอบครัวเลวๆนี่ไม่จริงอีก ภาระของนางเอก ถ่วงแข้งถ่วงขาจริงๆ...
เด็กไม่ตายเพราะแม่คลอดยากจะตายเพราะคนรับใช้ป้อนโจ๊กข้าวจนอิ่มตื้อ รอดได้คือดวงแข็งเว่อ...
อ่านไป งงไป ตัดสินประหาร หรืออภัยโทษ?...
หม่อมข้า? ใช้ MS Word ไม่ระวังเลย...
ตั้งแต่ต้นจนถึงตอน 337 แล้ว โดยภาพรวมพระเอกไม่ค่อยมีเสน่ห์ ไม่เฉียบแหลมเลย...
อะไรจะมีปมขนาดนั้น วุ่นวายตอกย้ำเหลือเกินเกี่ยวกับระบบศักดินา ทั้งที่มันเป็นคนละยุคสมัยกัน...
ตอน285-287 หายทำไงดี...
ตอนหายค่ะ 284แล้วกระโดดไป288เลยค่ะ...
บท 285-287 หายค่ะ 284แล้ว288เลย รบกวนด้วยค่ะ...
281-311 รบกวนด้วยค่ะ...