ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 42

สรุปบท บทที่ 42 ทำไมไม่เอา: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน

ตอน บทที่ 42 ทำไมไม่เอา จาก ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 42 ทำไมไม่เอา คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายประวัติศาสตร์ ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน ที่เขียนโดย ฝูเชิง เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

เหยาซื่อขมวดคิ้ว พร้อมพูดขึ้นว่า “หรือว่าคนพวกนั้นรู้ทุกอย่างหรือ?”

ลู่ม่านยังถือว่ามีสติ เมื่อวานพวกเขายังสามารถมองเห็นร่องรอยของพวกเขา คนพวกนั้นก็ต้องสามารถมองเห็นร่องรอยของพวกนาง

คิดได้เช่นนี้ นางถามเหยาซื่อขึ้นว่า “พี่เหยา เมื่อวานท่านบอกว่ายังเห็นที่ไหนอีก?”

เหยาซื่อชี้ไปทางทิศหนึ่ง แล้วพูดขึ้นว่า “อยู่ทางนั้น”

ลู่ม่านพยักหัว แล้วเดินไปทางทิศตรงกันข้าม ตั้งใจสร้างร่องรอยขึ้นมา เหอฮัวดูไม่ออกถึงความตั้งใจ แต่นางเป็นแฟนคลับตัวยงของลู่ม่าน ขอเพียงเป็นสิ่งที่ลู่ม่านทำ นางล้วนเห็นว่าถูกต้อง

เหยาซื่อมองเข้าใจแล้ว จึงหัวเราะพร้อมพูดขึ้นว่า “เสี่ยวม่าน เจ้าช่างฉลาดจริงๆ” พูดเสร็จ นางก็ไปช่วยด้วย

ทั้งสามคนสร้างเส้นทางปลอมขึ้นมา แล้วเดินทางไปยังทิศทางที่ถูกต้องอย่างระมัดระวัง

ดอกเก๊กฮวยป่าที่นี่มีเยอะยิ่งกว่า เพราะอยู่ใกล้ป่าลึกยิ่งกว่า คนสัญจรไปมาก็น้อยมาก ไม่ช้าทั้งสามคนก็เก็บได้เต็มกระบุง แล้วรีบกลับบ้าน

เฉินจื่ออานตากดอกเก๊กฮวยป่าที่นางเก็บมาได้แห้งหมดแล้ว รอเมื่อนางกลับมา เขาก็เก็บใส่ถุงเรียบร้อยหมดแล้ว แม้แต่รั้ว เขาก็ทำเสร็จแล้ว

ลู่ม่านกำลังอยากจะพูดอะไรสักอย่าง จู่ๆ เหยาซื่อก็วิ่งมาพูดขึ้นอย่างดีใจว่า “เสี่ยวม่าน เร็ว รีบไปบ้านข้า”

“ทำไมหรือ?”

“สำเร็จแล้ว เจ้าไปดูหน่อย”

ลู่ม่านค่อยคิดขึ้นมาได้ว่าวันนั้นได้ใช้ให้หวังเอ้อร์หนิวทำรถเข็น ในใจนางก็ดีใจ รีบวางกระบุงแล้วก็ตามไป

ภายในลานบ้านหวัง สิ่งของแปลกประหลาดอย่างหนึ่งดึงดูดความสนใจของเด็กแสนซนทั้งสามคน สิ่งของนั้น เหมือนอย่างกับเก้าอี้ แต่กลับมีล้อใหญ่ของข้าง

ลู่ม่านหันไปมองดู แล้วก็พูดขึ้นอย่างดีใจว่า “เป็นรูปแบบนี้แหละ”

หวังเอ้อร์หนิวกำลังทำการขัดรอบสุดท้าย เขาก็ดีใจมาก พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าคิดไม่ถึงว่า ข้าจะสามารถทำขึ้นมาได้ เจ้าดูสิว่าได้ไหม”

“ได้ ดีเยี่ยมมากเลย” ลู่ม่านยิ้มหัวเราะ แล้วนางก็ไปลองเข็นดู ล้อไม้ก็ลื่นเรียบดี ไม่ฝืดเลยสักนิด

“ข้าเอากลับบ้านไปให้จื่ออานลองดู พรุ่งนี้ค่อยมาจ่ายเงินได้ไหม?”

“จ่ายเงินอะไร? แค่ลงแรงไม่เท่าไหร่ เจ้าเอาไปเถอะ” เหยาซื่อพูดขึ้น

“แบบนั้นไม่ได้” ลู่ม่านโบกมือ พร้อมพูดขึ้นว่า “คนละเรื่องกัน พรุ่งนี้ข้าเอาเงินมาให้” พูดเสร็จ นางก็ไปแล้ว

กลับมาถึงบ้าน เฉินจื่ออานยังอยู่ในลานบ้าน กำลังคัดเลือกดอกเก๊กฮวยป่าที่นางเพิ่งเก็บกลับมา ลู่ม่านปิดตาของเขาก่อน พร้อมพูดขึ้นว่า “ทายดูสิ ข้าเป็นใคร?”

เฉินจื่ออานหยุดมือ ยิ้มหัวเราะอย่างรักใคร่ พร้อมพูดขึ้นว่า “เสี่ยวม่าน อย่าเล่น”

“เจ้าหลับตาก่อน ข้ามีของขวัญจะให้เจ้า”

“ของขวัญอะไร?” เฉินจื่ออานถามขึ้น

“เจ้าหลับตาก่อน” ลู่ม่านพูดขึ้น

เฉินจื่ออานจึงหลับตา มั่นใจว่าเขามองไม่เห็นแล้ว ลู่ม่านค่อยย่องไปเข็นรถเข็นตรงหน้าประตูเข้ามา

“มาแล้ว”

เฉินจื่ออานลืมตาขึ้น ตอนที่มองเห็นสิ่งของแล้วอึ้ง พร้อมพูดขึ้นว่า “นี่คือรถเข็น?”

“เจ้าจำได้หรือ?” ลู่ม่านตกตะลึง นางเพียงแค่เคยพูดไปอย่างนั้นเอง เขากลับจำได้ด้วย

“สิ่งที่เจ้าเคยพูด ข้าจำได้ทุกอย่าง”

ถูกหยอกอย่างไม่ทันตั้งตัวอีกแล้ว ลู่ม่านยิ้มหัวเราะ พร้อมพูดขึ้นว่า “เฉินจื่ออาน เจ้าหยอกสาวแบบนี้ จะดีหรือ?”

“หยอกสาว?”

ตอนที่รู้ว่าได้เงินมาขนาดนี้ เหยาซื่อเบิกตาโตยิ่งกว่าตอนที่เหอฮัวตอนที่มาครั้งแรก

ต้องรู้ว่าที่ผ่านมาตลอดทั้งปีพวกเขาก็หาไม่ได้ขนาดนี้ ปกติ หวังเอ้อร์หนิวช่วยเป็นช่างไม้ให้กับคนอื่น เดือนหนึ่งสามร้อยเหวิน ตัวนางเองทำงานปักไม่เป็น ช่วยถักเชือกให้กับคนอื่น เดือนหนึ่งมากสุดก็ได้แค่สามสี่สิบเหวิน

นางคว้าจับมือลู่ม่านไว้อย่างตื่นเต้น พร้อมพูดขึ้นว่า “เสี่ยวม่าน ข้าไม่รู้จะขอบคุณเจ้ายังไง”

ลู่ม่านยิ้มหัวเราะ พร้อมพูดขึ้นว่า “ท่านจะต้องขอบคุณอะไรข้า? วันนั้นหากไม่มีพี่กับพี่เอ้อร์หนิว ไม่รู้ว่าจื่ออานจะเป็นยังไง ข้าก็แค่หมูไปไก่มา”

เหยาซื่อไม่เคยเรียนหนังสือ ไม่รู้ว่าหมูไปไก่มาแปลว่าอะไร แต่ฟังดูแล้วเป็นคำพูดที่ดี นางจึงพูดขึ้นอย่างดีใจว่า “น้องสาว ต่อไปหากมีอะไรจะให้ช่วย ขอให้บอก"

“ได้” ลู่ม่านหัวเราะพร้อมพูดขึ้น

ทั้งสองคนพูดไปด้วย เดินตรงไปยังหน้าประตูไปด้วย ตอนเพิ่งไปถึงหน้าประตู ก็ได้ยินเสียงเอะอะดังขึ้น

ลู่ม่านอึ้ง แล้วก็ได้ยินเสียงจ้าวซื่อพูดตะคอกอยู่ข้างใน

“ทำไม? รับของคนอื่น แล้วทำไมไม่รับของข้า?”

ด้านนอกประตูที่มาหาหมอกับคนผ่านไปมา ต่างมามุงดู พูดคุยกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้นข้างใน เหยาซื่อขมวดคิ้ว พร้อมพูดขึ้นว่า “พี่สะใภ้ใหญ่ของเจ้าไม่ใช่หรือ? ทำไมถึงมาเอะอะโวยวายที่นี่?”

ลู่ม่านหัวเราะเย้ยขึ้นมา พร้อมพูดขึ้นว่า “ยังจำคนที่ไปเก็บดอกเก๊กฮวยป่าของเราได้ไหม?”

“หรือว่าคือจ้าวซื่อหรือ?” คราวนี้เหยาซื่อก็เข้าใจแล้ว ในใจยังคงรู้สึกว่าจ้าวซื่อค่อนข้างขาดคุณธรรม เป็นครอบครัวเดียวกัน ยังตั้งใจทำลายรายได้ของคนอื่น แต่เพราะอยู่ต่อหน้าลู่ม่าน นางจึงไม่พูดอะไรมาก

ทั้งสองคนกำลังคุยกันอยู่ จ้าวซื่อมองเห็นลู่ม่าน จึงรีบลุกขึ้นมาจากพื้นกระโจนมาหานาง พร้อมพูดขึ้นว่า “น้องเสี่ยวม่าน เจ้ามาพอดีเลย เจ้ามาเป็นพยาน ครั้งก่อนเจ้าพูดว่า ดอกเก๊กฮวยป่าหนึ่งชั่งยี่สิบห้าเหวินไม่ใช่หรือ? ทำไมข้าเอามาขาย พวกเขาถึงไม่รับ?”

ลู่ม่านได้ยินเช่นนี้ จึงหันไปมองแวบหนึ่ง

มองดูดอกเก๊กฮวยป่าในกระสอบของพวกเขา ทั้งสกปรกและเลอะเทอะมาก ไม่เพียงมีใบ กระทั้งใบไม้ก็ปะปนไปด้วย เมื่อจับดู ยังไม่ได้ตากแห้งเลย

สภาพแบบนี้ จ้าวซื่อยังมีหน้ามาถาม ทำไมไม่เอาของนาง ลู่ม่านอ้าปาก กำลังจะพูดออกมา ท่านอู๋เดินเข้ามาท่ามกลางผู้คน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน