สรุปเนื้อหา บทที่ 43 ใครเป็นคนไร้เหตุผล – ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน โดย ฝูเชิง
บท บทที่ 43 ใครเป็นคนไร้เหตุผล ของ ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน ในหมวดนิยายประวัติศาสตร์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ฝูเชิง อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
ในมือของเขาถือถุงดอกเก๊กฮวยป่าไว้หนึ่งถุง เป็นถุงที่พวกลู่ม่านไปขายเมื่อกี้พอดี
“ในเมื่อแม่นางคนนี้อยากรู้ว่าทำไม ข้าก็จะบอกเจ้า” เขาพูดพร้อมกับแกะเชือกเปิดให้ทุกคนดู
กลิ่นหอมโชยฟุ้งออกมาทันที เมื่อมองดู ทั้งสะอาดทั้งสดชื่น เมื่อจับดู ดอกเก๊กฮวยป่าทุกดอกล้วนแห้งไม่ติดมือ
เขาเอาทั้งสองถุงวางเปรียบเทียบกัน พร้อมพูดขึ้นว่า “ทุกคนเห็นชัดเจนแล้วหรือยัง? ใช่ว่าพวกเราไม่รับยาสมุนไพร หากเป็นยาสมุนไพรที่ดี พวกเราล้วนรับซื้อ แต่หากใครคิดเอาเปรียบ ใส่ร้ายร้านยาฉืออานของเรา งั้นพวกเราก็จะไม่เกรงใจแล้วนะ”
พูดเสร็จแล้วเขาก็ไม่สนใจจ้าวซื่ออีก หันไปพูดกับเด็กเก็บยาว่า “เชิญแม่นางคนนี้ออกไป”
มีหรือที่จ้าวซื่อจะยอมง่ายๆ นางเดินไปข้างหน้าอีกครั้ง ขวางทางท่านอู๋ไว้
ครั้งนี้ สีหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม พร้อมพูดขึ้นว่า “ท่านอู๋ ท่านคงยังไม่รู้ แม่นางที่อยู่ข้างหลังท่านคนนี้ เป็นน้องสะใภ้ของข้า ข้าเป็นพี่สะใภ้ใหญ่ของนาง”
ได้ยินแบบนี้ ท่านอู๋หันไปมองลู่ม่านอย่างไม่อยากเชื่อ เห็นได้ชัดว่า เขาไม่อยากเชื่อว่าลู่ม่านจะมีพี่สะใภ้ใหญ่แบบนี้
ลู่ม่าน “........” นางลืมไปได้อย่างไร ความหน้าด้านปากจัดของจ้าวซื่อ? หลงไปติดกับนาง สะบัดยังไงก็สะบัดไม่ออก
เห็นท่านอู๋หยุด จ้าวซื่อนึกว่ามีความหวัง รีบพูดขึ้นว่า “ท่านอู๋ ครั้งนี้เพราะพวกเราไม่รู้ ท่านเห็นแก่ความยากลำบากของพวกเรา ช่วยรับไว้ด้วยเถอะ แต่ครั้งหน้าพวกเราจะระวัง”
ได้ยินแบบนี้ ท่านอู๋หันไปมองลู่ม่าน พร้อมถามขึ้นว่า “แม่นาง เจ้าเห็นว่าอย่างไร?”
ในใจจ้าวซื่อตกตะลึงเล็กน้อย ท่านอู๋คนนี้ถามความเห็นของลู่ม่าน ในใจนางแอบอิจฉา ใบหน้ากลับยิ้มแย้ม พร้อมพูดขึ้นว่า “น้องเสี่ยวม่าน เจ้าช่วยข้าด้วยเถอะ”
เหยาซื่อรีบเอื้อมมือไปดังแขนเสื้อลู่ม่าน ในใจนางคิดเพียงว่าลู่ม่านเพิ่งมา ไม่รู้จักนิสัยใจคอของพี่สะใภ้ใหญ่ จ้าวซื่อเป็นคนอันธพาลคดโกงคนหนึ่งมาตลอด คนในครอบครัวของนางก็ยิ่งเลวร้ายกว่า
ครั้งนี้หากลู่ม่านใจอ่อน ต่อไปหมากฝรั่งชิ้นนี้จะต้องทำลายชื่อเสียงของลู่ม่านแน่
ลู่ม่านบีบมือเหยาซื่อ บ่งบอกว่าตนเองรู้ว่าควรทำยังไง
ไม่ต้องพูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างนางกับท่านอู๋ไม่ได้ลึกขนาดนั้น ยิ่งไปกว่านั้น เขายังเป็นคนที่รักยาสมุนไพรมาก ยาสมุนไพรแบบนี้ ลู่ม่านยังรับไปได้ ท่านอู๋จะรับได้อย่างไร?
ที่ถามนาง ก็เพราะอยากรู้ว่านางจะคิดเห็นอย่างไรเท่านั้นเอง การทำงานก็เหมือนกับการเป็นคน หากลู่ม่านแสดงท่าทียืดยาด งั้นความร่วมมือในอนาคตก็ไม่มีอีกแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น คนอย่างจ้าวซื่อ เดิมก็เป็นคนที่มีพฤติกรรมย่ำแย่อยู่แล้ว
เมื่อตัดสินใจแล้ว นางค่อยไงหน้าขึ้นมาพูดขึ้นว่า “ท่านอู๋ ร้านยาฉืออานมีกฎของร้านยาฉืออานอยู่แล้ว ใช่ว่าผู้หญิงอย่างข้าจะสามารถพูดอะไรได้?”
ท่านอู๋พยักหัวอย่างพอใจ พร้อมพูดขึ้นว่า “แม่นางพูดถูก สิ่งที่ตนเองไม่อยากทำหรือไม่อยากได้ ก็อย่ายัดเยียดให้กับผู้อื่น สิ่งที่ตนเองยังทำไม่ได้ แล้วจะไปสร้างความลำบากให้คนอื่นได้อย่างไร?”
ประโยคหลังนี้ เขาทำเป็นด่าคนอื่น แต่ความจริงคือด่าจ้าวซื่อ แต่จ้าวซื่อกลับฟังไม่รู้เรื่อง นางนึกว่าลู่ม่านไม่ยอมช่วย จึงโวยวายขึ้นมาทันที
จ้าวโจวซื่อ แม่ของจ้าวซื่อก็เป็นคนอันธพาลยิ่งกว่าจ้าวซื่อ เห็นลู่ม่านไม่ยอมช่วย ก็ก่นด่าทอขึ้นมาทันที
“บ้านเฉินของพวกเจ้า ไม่มีใครดี ลูกสาวของข้าแต่งงานไป ก็ถูกรังแกตลอด ตอนนี้กว่าจะหารายได้สักหน่อย พวกเจ้ากลับกลั่นแกล้งเช่นนี้”
ลู่ม่านโกรธจนอยากขำ สิ่งแปลกประหลาดในโลกนี้มีอยู่ทั่วทุกที่จริงๆ
เหยาซื่อกลัวลู่ม่านไม่เข้าใจ จึงรีบพูดขึ้น “ป้าใหญ่ ท่านพูดแบบนี้ก็ไม่ถูก ท่านไปถามความในหมู่บ้านก็ได้ ลูกสาวของท่านอยู่ในหมู่บ้านไป่ฮัว มีชีวิตอยู่สุขสบายขนาดไหน ปกติ งานตรากตำไม่ต้องทำ เดินเล่นรอบหมู่บ้านไปวันๆ”
หลายวันก่อน จ้าวซื่อร้องห่มร้องไห้บอกว่าแม่ของนางป่วยหนัก ต้องกลับบ้านไปอยู่ดูแล บวกกับเฉินจื่อฉายที่อยู่ด้านข้างก็พูดเสริม ให้นางกลับไปแล้ว ใครจะไปรู้ว่านางโกหก กลับบ้านไปพาพ่อแม่พี่น้องไปหารายได้
“ดี จ้าวโจวซื่อ ลูกสาวที่เลี้ยงมาเข้าข้างคนอื่น ถึงว่าบ้านใหญ่บ้านเฉินของเราจึงไม่เจริญมาตลอด ล้วนเป็นเพราะผู้หญิงมือเติบคนนี้”
พูดเสร็จ นางก็คว้าจับผมของจ้าวโจวซื่อ จนจ้าวโจวซื่อเจ็บปวด และก็ไม่สนใจอะไร คว้าดึงผมเฉินหลี่ซื่อเหมือนกัน หญิงเฒ่าทั้งสองตบตีกันอยู่ตรงหน้าร้านขึ้นมา
เดิมจ้าวซื่ออยากเข้าไปห้าม กลับถูกเฉินหลิ่วเอ๋อคว้าจับแขนเสื้อไว้ จ้าวซื่อเห็นแม่ของตนเองถูกตีอย่างน่าสงสาร จึงดิ้นรนอย่างรุนแรง ด้วยความไม่ทันระวัง ถุงในมือเฉินหลิ่วเอ๋อถูกดึงขาด
ดอกเก๊กฮวยป่าเต็มถุงหล่นกระจายเต็มพื้น เฉินหลิ่วเอ๋อกรีดร้องขึ้นมา ตรงกระโจนเข้าไปตบตีกับจ้าวซื่อขึ้นมา
ท่านอู๋มองดูความวุ่นวายหน้าร้าน แล้วสั่งให้เด็กจัดยาไปช่วยแยก แต่ยังไงพวกเด็กจัดยาก็ล้วนยังเป็นเด็ก ไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้ เมื่อตบตีกันไปมา ก็ถูกข่วนจนรอยเล็บมือเต็มหน้า ท่านอู๋โกรธโมโหจนหนวดกระดกขึ้น
ลู่ม่านไม่กลัวว่าเฉินหลี่ซื่อจะได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ร้านยาฉืออานนี้ดีต่อนางกับเฉินจื่ออานอย่างมาก เรื่องดอกเก๊กฮวยป่า นางเป็นคนคิดค้นมา จึงเดินไปพูดขึ้นว่า
“จื่อคังยังร่ำเรียนอยู่นะ หากรู้เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ เกรงว่าจะต้องตำหนิแม่ของเขาแน่”
และแล้ว เมื่อพูดถึงเฉินจื่อคัง ในที่สุดเฉินหลี่ซื่อก็ได้สติกลับมารีบปล่อยจ้าวโจวซื่อ ฟ้ากว้างแผ่นดินอยู่ ชื่อเสียงลูกชายสำคัญที่สุด
เวลานี้ สภาพจ้าวโจวซื่อกับเฉินหลี่ซื่อราวกับหญิงบ้า
พวกคนในร้านยาฉืออาน ต่างหันไปมองลู่ม่านอย่างขอบคุณ แล้วรีบไปจัดการเก็บกวาดให้เรียบร้อย
ลู่ม่านค่อยเดินจากไปพร้อมกับเหยาซื่อ ไปหาซื้อของที่ตนอยากได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน
เป็นพอ.ที่กลับกรอก เป็นที่พึ่งไม่ได้เลย ยอกจะออกจากครอบครัวเลวๆนี่ไม่จริงอีก ภาระของนางเอก ถ่วงแข้งถ่วงขาจริงๆ...
เด็กไม่ตายเพราะแม่คลอดยากจะตายเพราะคนรับใช้ป้อนโจ๊กข้าวจนอิ่มตื้อ รอดได้คือดวงแข็งเว่อ...
อ่านไป งงไป ตัดสินประหาร หรืออภัยโทษ?...
หม่อมข้า? ใช้ MS Word ไม่ระวังเลย...
ตั้งแต่ต้นจนถึงตอน 337 แล้ว โดยภาพรวมพระเอกไม่ค่อยมีเสน่ห์ ไม่เฉียบแหลมเลย...
อะไรจะมีปมขนาดนั้น วุ่นวายตอกย้ำเหลือเกินเกี่ยวกับระบบศักดินา ทั้งที่มันเป็นคนละยุคสมัยกัน...
ตอน285-287 หายทำไงดี...
ตอนหายค่ะ 284แล้วกระโดดไป288เลยค่ะ...
บท 285-287 หายค่ะ 284แล้ว288เลย รบกวนด้วยค่ะ...
281-311 รบกวนด้วยค่ะ...