สรุปเนื้อหา บทที่ 422 วิธีการที่ดี – ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน โดย ฝูเชิง
บท บทที่ 422 วิธีการที่ดี ของ ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน ในหมวดนิยายประวัติศาสตร์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ฝูเชิง อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
ลู่ม่านรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากล จึงให้ตงจื่อกับปู่ของเขาเอาบัวรดน้ำออกไปก่อน
เมื่อพวกเขาไปแล้ว ลู่ม่านจึงพูดขึ้นว่า “เกิดอะไรขึ้น จื่ออาน ดูท่าทางของเจ้า การสอบครั้งนี้ไม่เป็นไปอย่างที่คิดหรือ”
เฉินจื่ออานนิ่งอึ้งไปเล็กน้อย ผ่านไปครู่ใหญ่จึงพูดขึ้นว่า“ข้าได้พูดทุกสิ่งที่ข้าอยากจะพูดออกไปแล้ว แต่ในใจกลับรู้สึกห่างไกลจากการสอบติดอีกมาก ”
ที่แท้ก็เป็นเรื่องนี้นี่เอง ลู่ม่านนึกว่าเขาสอบไม่ได้เสียอีก
“ถ้าเป็นเช่นนี้ ก็ยิ่งไม่ต้องเป็นกังวล เจ้าพูดทุกสิ่งที่อยากจะพูดออกไปแล้ว แสดงว่าเจ้าได้พยายามสุดความสามารถของเจ้าแล้ว ในเมื่อทำเต็มที่แล้ว ผลจะเป็นอย่างไรก็ไม่สำคัญขนาดนั้นแล้ว”
“เสี่ยวม่าน เจ้าพูดถูก เพียงแต่ ข้าหากข้าสอบไม่ผ่าน ข้าก็ไม่อยากจะสอบอีกแล้ว”
ลู่ม่านนิ่งอึ้ง “ทำไม”
“ข้าเป็นผู้ชายคนหนึ่ง ไม่อยากจะให้เจ้าต้องมาเป็นห่วงและรู้สึกกังวลในการปกป้องข้าอยู่เสมอ ข้าอยากจะปกป้องเจ้า เสี่ยวม่าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทำนา หรือว่าเรื่องอื่นๆ ข้าล้วนสามารถปกป้องเจ้าได้”
เจ้าโง่คนนี้ มักจะทำให้รู้สึกซาบซึ้งใจได้อย่างบอกไม่ถูก
“ได้ ข้าเคารพการตัดสินใจของเจ้า ไม่ว่าภายหน้า เจ้าอยากจะทำอะไร ข้าก็จะสนับสนุนเจ้า”
หลังจากทั้งสองพูดคุยกันแล้ว และได้ทำข้อตกลงระหว่างกันพวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ที่อำเภอเฟิงหนานอีกต่อไป เที่ยงของวันรุ่งขึ้น ทั้งสามจึงเดินทางกลับไปยังหมู่บ้านไป่ฮัว
เมื่อกลับไปถึง อาจารย์โจวก็เรียกตัวเฉินจื่ออานไปที่ห้องหนังสือ ให้เขาเขียนคำตอบของข้อสอบทั้งหมดออกมา หลังจากนั้น เขาก็ไล่เฉินจื่ออานออกจากห้องหนังสือ
ยังดี ที่เฉินจื่ออานได้ทำใจไว้แล้ว ฉะนั้นจึงไม่ได้รับผลกระทบจากท่าทีของอาจารย์โจวสักเท่าไหร่
ไม่จำเป็นต้องมองการเรียนจากผลการสอบ เฉินจื่ออานก็ดูผ่อนคลายลงไปมาก
แล้วก็ไปเยี่ยมตาแก่เฉินที่บ้านเก่า อาการของตาแก่เฉินดีขึ้นทุกวัน ตอนนี้ เขาแทบจะสามารถยืนได้ด้วยการจับสิ่งของต่างๆแล้ว
ส่วนเฉินสือซ่วนก็ได้เริ่มเรียนในโรงเรียนของหมู่บ้านแล้ว เมื่อเห็นเด็กๆที่ดูกระฉับกระเฉงขยันขันแข็ง ย่อมทำให้รู้สึกเต็มไปด้วยความหวัง
วันที่สองหลังจากที่เฉินจื่ออานได้เขียนคำตอบของข้อสอบให้กับอาจารย์โจวแล้ว ในเช้าตรู่ เหอเยว่ก็วิ่งอย่างรีบร้อนเข้ามา
“พี่เสี่ยวม่าน พี่จื่ออาน อาจารย์โจวไปแล้ว”
เฉินจื่ออานนิ่งอึ้ง “เกิดอะไรขึ้น”
เหอเยว่รีบยื่นกระดาษขาวแผ่นหนึ่งให้กับเฉินจื่ออานทันที “ข้าก็ไม่รู้ เมื่อเช้าข้าไปทำความสะอาดที่ห้องหนังสือของอาจารย์โจว ก็เห็นว่ามีสิ่งนี้วางอยู่บนโต๊ะ...”
เฉินจื่ออานรีบรับไปเปิดดู ข้างในนั้นมีตัวอักษรไม่กี่ตัว เรียบง่ายและชัดเจน
“ข้าไปแล้ว รักษาตัวด้วย”
ลงชื่ออาจารย์โจวไว้ท้ายกระดาษ
เฉินจื่ออานรีบกำกระดาษแผ่นนั้นไว้ทันที รีบวิ่งไปที่ห้องของอาจารย์โจวทันที ของข้างในถูกจัดเก็บอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย สิ่งที่เป็นของอาจารย์โจวล้วนถูกนำไปหมดแล้ว
แล้วไปที่ห้องหนังสือ หาอยู่ครู่หนึ่ง
สุดท้ายก็เห็นบทความที่ตนเองได้เขียนเอาไว้ เฉินจื่ออานอ่านจนจบ ก็พูดกับเหอเยว่ที่อยู่ทางด้านหลังว่า “เจ้าออกไปเถอะ ข้าอยากจะอยู่เงียบๆคนเดียว”
เหอเยว่รีบออกไปทันที เพิ่งจะออกมาข้างนอก ก็เห็นลู่ม่านยืนอยู่นอกประตูแล้ว
“เกิดอะไรขึ้น”ลู่ม่านถาม
เหอเยว่เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ให้นางฟัง ลู่ม่านจึงถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง “ไม่เป็นไร ให้เขาอยู่คนเดียวสักพัก แต่พริกของปีนี้ ถึงเวลาต้องหว่านเมล็ดแล้วซินะ”
เหอเยว่นิ่งไป “พวกเรายังต้องปลูกพริกตั้งมากมายทำไมกัน ก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน เมืองหลวงได้มีคำสั่งลงมาแล้วมิใช่หรือ ว่าจะมีการแจกจ่ายเมล็ดพันธุ์พริก ให้กับชาวนาทุกครัวเรือน ”
หลังจากที่ทั้งสองคนไปซื้อเมล็ดข้าวในเมือง ก็รีบเดินทางกลับ เฉินจื่ออานเอาเกวียนรีบออกไปจัดการที่นาทันที ลู่ม่านทำการพรมน้ำให้กับเมล็ดพันธุ์ที่ซื้อมา
เหอเยว่รีบห้ามเอาไว้ “พี่เสี่ยวม่าน พี่ทำอะไร”
ลู่ม่านชะงักไป “พรมน้ำไง”
“พรมน้ำไม่ได้ ”เหอเยว่รีบจับมือของลู่ม่านเอาไว้ “ถ้าพรมน้ำรากมันจะงอกขึ้นมา”
“ข้าต้องการให้มันมีรากงอก”ลู่ม่านยืนยัน
เหอเยว่ยังคงไม่เข้าใจ “ถ้ารากงอกออกมาแล้ว เมล็ดพันธุ์ก็เสียเปล่า”
“ใครว่า ”ลู่ม่านดึงมือของนางออก จากนั้นนางก็เอ่ยอย่างตกใจว่า “เจ้าอย่าบอกข้านะว่า ก่อนที่พวกเจ้าจะปลูกข้าว ไม่ได้มีการพรมน้ำให้ราวงอกก่อน”
“เดิมทีก็ไม่ทำกันอยู่แล้ว”เหอเยว่เอ่ยราวกับเป็นเรื่องปกติ
“แล้วพวกเจ้าปลูกกันอย่างไร ”ลู่ม่านรู้สึกมึนงงมาก ปีก่อนตอนที่ทำนากับเหยาซื่อ พวกเหยาซื่อเป็นคนเพาะต้นกล้า ลู่ม่านไม่ได้มีส่วนร่วมเลยแม้แต่น้อย และไม่รู้เลยว่าที่แท้วิธีการของพวกเขานั้นไม่เหมือนกันเลยสักนิด
“พวกเราเตรียมนาสำหรับเพาะต้นกล้าแล้ว ก็หว่านเมล็ดพันธุ์ลงไป รอให้มันมีรากงอกก็ได้แล้ว”
ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้นี่เอง หมายความว่าพวกเขาได้งดขั้นตอนการพรมน้ำไป
“แล้วถ้ามีเมล็ดข้าวมากมายไม่งอกเล่าจะทำอย่างไร”
“เช่นนั้นก็ปลูกให้มากหน่อย”เหอเยว่พูดจบ แล้วก็พูดขึ้นอย่างแน่ใจว่า “พวกเราล้วนทำเช่นนี้กันทั้งนั้น”
ลู่ม่านถอนหายใจอย่างระอาใจ “ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็ดูข้าให้ดี ข้าสามารถรับประกันได้ว่าทุกเมล็ดที่ข้าปลูกจะสามารถเจริญงอกงามขึ้นมาได้”
“รับประกันอย่างไร”เหอเยว่เบิกตากว้าง “พี่เสี่ยวม่าน หรือว่าพี่คิดวิธีดีๆได้อีกแล้วอย่างนั้นหรือ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน
เป็นพอ.ที่กลับกรอก เป็นที่พึ่งไม่ได้เลย ยอกจะออกจากครอบครัวเลวๆนี่ไม่จริงอีก ภาระของนางเอก ถ่วงแข้งถ่วงขาจริงๆ...
เด็กไม่ตายเพราะแม่คลอดยากจะตายเพราะคนรับใช้ป้อนโจ๊กข้าวจนอิ่มตื้อ รอดได้คือดวงแข็งเว่อ...
อ่านไป งงไป ตัดสินประหาร หรืออภัยโทษ?...
หม่อมข้า? ใช้ MS Word ไม่ระวังเลย...
ตั้งแต่ต้นจนถึงตอน 337 แล้ว โดยภาพรวมพระเอกไม่ค่อยมีเสน่ห์ ไม่เฉียบแหลมเลย...
อะไรจะมีปมขนาดนั้น วุ่นวายตอกย้ำเหลือเกินเกี่ยวกับระบบศักดินา ทั้งที่มันเป็นคนละยุคสมัยกัน...
ตอน285-287 หายทำไงดี...
ตอนหายค่ะ 284แล้วกระโดดไป288เลยค่ะ...
บท 285-287 หายค่ะ 284แล้ว288เลย รบกวนด้วยค่ะ...
281-311 รบกวนด้วยค่ะ...