ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 423

สรุปบท บทที่ 423 สนับสนุนให้ทำการบุกเบิกที่รกร้าง: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน

สรุปตอน บทที่ 423 สนับสนุนให้ทำการบุกเบิกที่รกร้าง – จากเรื่อง ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน โดย ฝูเชิง

ตอน บทที่ 423 สนับสนุนให้ทำการบุกเบิกที่รกร้าง ของนิยายประวัติศาสตร์เรื่องดัง ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน โดยนักเขียน ฝูเชิง เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ลู่ม่านยิ้มบางๆ “อยากจะเห็นปาฏิหาริย์ เช่นนั้นก็ฟังข้า รีบไปตักน้ำมา”

เหอเยว่จึงรีบหมุนตัวไปตักน้ำ ทั้งสองคนพรมน้ำเมล็ดข้าวจนชุ่มแล้วก็นำไปไว้ในที่ร่มและแช่เอาไว้ หลังจากนั้นสองวัน ลู่ม่านจะไปพรมน้ำให้เมล็ดข้าวทุกวัน

ในที่สุดก็ถึงวันที่สาม เมล็ดข้าวมีรากงอกออกมาแล้ว

ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ โอกาสที่รากจะงอกย่อมสูงกว่าการเอาไปหว่านในนาโดยตรงสูงมาก สิ่งที่ไม่สามารถคาดเดาได้ในท้องนานั้นมีมากเกินไป

นาเพาะกล้าข้าวของเฉินจื่ออานก็ทำเสร็จแล้ว ตอนที่กลับมาเอาเมล็ดพันธุ์ เห็นว่าเมล็ดพันธุ์มีรากงอกแล้ว ก็รู้สึกคาดไม่ถึง

“นี่มันเกิดอะไรขึ้น”

“ไม่มีอะไร ข้าทำเอง”ลู่ม่านพูด จากนั้น นางก็อธิบายให้เฉินจื่ออานฟัง

เฉินจื่ออานนั้นเชื่อใจลู่ม่านยิ่งกว่าใครๆทั้งหมด บวกกับประสบการณ์ก่อนหน้านี้ เขาแทบจะไม่ลังเลที่จะเอาเมล็ดพันธุ์ที่มีรากงอกแล้วไปปลูกทั้งกระสอบ

ลู่ม่านรีบตามไป สองคนไปที่นา

ค่อยๆหว่านเมล็ดพันธุ์ลงไป จากนั้นก็เหมือนปีที่ผ่านๆมา ใช้วัสดุคลุมหน้าดินเอาไว้ ตอนนี้การใช้วัสดุคลุมหน้าดิน เริ่มมีคนในหมู่บ้านใช้กันมากขึ้นแล้ว

ปีก่อน ทุกคนต่างก็ไม่ยอมรับ ตอนนี้เมื่อเห็นว่าใช้ได้ผลจริง ต่างก็เริ่มใช้กันแพร่หลายแล้ว

ขณะกำลังทำงานอยู่ คนที่ทำนาอยู่ในที่ดินข้างๆกันต่างก็ล้อมเข้ามาดู “จื่ออาน ทำไมเมล็ดพันธุ์บ้านเจ้าจึงมีรากงอกแล้วล่ะ”

“นี่เป็นวิธีการปลูกแบบใหม่ ถ้าหากพวกท่านอยากรู้ ข้าจะบอกวิธีการให้...”ลู่ม่านพูด

“เอ่อ ไม่ต้องหรอก”แม้ว่าทุกคนจะอยู่ร่วมกันมาปีหนึ่งแล้ว และค่อยๆที่จะเชื่อใจลู่ม่านแล้วด้วย ย่อมไม่มีทางสงสัยในตัวลู่ม่านเหมือนแต่ก่อน

เพียงแต่ เพราะทำนามาหลายชั่วอายุคนจนเคยชินแล้ว ล้วนทำกันมาแบบนี้ ให้เปลี่ยนความคิดอย่างกะทันหัน คนส่วนใหญ่นั้นไม่ยินดีที่จะเปลี่ยนแปลง

มีเพียงเหยาซื่อกับเฉินเหมยเซียงที่เข้ามาพูดว่า “เสี่ยวม่าน เจ้าสอนพวกข้าสิ”

ลู่ม่านพูดยิ้มๆว่า “ได้”

ทุกคนต่างก็ชื่นชมกันใหญ่ “ครอบครัวของพวกเจ้านี่รักใคร่กันดีจริงๆ”

แต่ในใจกลับคิดเงียบๆว่า เหยาซื่อกับเฉินเหมยเซียงนั้นช่างประจบเสียจริง ต้องรอให้พวกเขาทำล้มเหลว จึงจะรู้ตัวว่าตัดสินใจผิดไปแล้ว

ลู่ม่านไม่สนใจว่าคนอื่นจะคิดอย่างไร ในเมื่อนางก็เป็นของนางเช่นนี้ คนอื่นดีกับนาง นางก็ย่อมต้องดีตอบ คนอื่นทำไม่ดีกับนาง นางเองก็ไม่ไว้หน้าเช่นเดียวกัน

ส่วนในใจของคนอื่นจะคิดเห็นอย่างไร นั่นก็เป็นเรื่องของคนอื่น นางไม่อยากจะรู้ให้ปวดหัวตนเอง

หลังจากสอนเฉินเหมยเซียงกับเหยาซื่อจนทำเป็นแล้ว เมล็ดพันธุ์ของบ้านลู่ม่านก็หว่านจนเสร็จหมดแล้ว เหยาซื่อเอ่ยอย่างตกตะลึงว่า “เสี่ยวม่าน ข้าจำได้ว่าปีนี้ที่นาบ้านเจ้ามีพื้นที่เยอะขึ้นมาก ทำไมจึงหว่านข้าวแค่นี้เล่า ถ้าไม่พอจะทำอย่างไร ”

“พอแล้ว”ลู่ม่านเอ่ยอย่างมั่นใจมาก

“แค่นี้จะพอจริงหรือ”เหยาซื่อยังคงรู้สึกคาดไม่ถึงอยู่บ้าง “ปีที่ผ่านมามีหลายที่ที่ไม่งอกขึ้นมา สุดท้ายยังต้องปลูกต้นกล้าเสริมเข้าไป”

“ที่ท่านพูดถึงมันปีที่ผ่านมา อีกอย่างเจ้าก็เห็นแล้วนี่นาว่าต้นกล้าของบ้านข้าตอนนี้มีรากงอกออกมาหมดแล้ว”

เหยาซื่อนิ่งอึ้ง ในที่สุดก็นึกออกแล้วว่าทำไมลู่ม่านจึงใช้วิธีการเช่นนี้ “ที่เจ้าทำที่แท้ก็คือรับประกันการงอกของเมล็ดพันธุ์ เพิ่มประสิทธิภาพในการเติบโต”

“ข้าทราบแล้วท่านพ่อ”ลู่ม่านพูด

ตั้งแต่ตาแก่เฉินเปลี่ยนเป็นคนที่มีเหตุผล ก็ค่อยๆทำให้ลู่ม่านรู้สึกชื่นชมในตัวเขาขึ้นมา บางครั้ง มีหลายเรื่องราว เขานั้นมีสายตาที่กว้างไกลมาก

อย่างเช่นตอนนี้ เขาก็เอ่ยขึ้นมาอีกว่า

“ช่วงนี้อากาศร้อนขึ้นแล้ว ต้นกล้าของเจ้างอกงามดี อย่าเอาแต่ใช้กระดาษมันคลุมไว้เลย ต้องไปเปิดให้ระบายอากาศทุกเช้าเย็น อย่าให้คลุมจนเน่าเสีย”

ที่จริงลู่ม่านก็ยังคิดไม่ถึงขั้นนั้น หลังจากออกมาจากบ้านตาแก่เฉิน ก็ไปเดินดูในนาอย่างไม่ค่อยวางใจรอบหนึ่ง

สุดท้าย พบว่าช่วงขอบๆของแปลงต้นกล้าถูกคลุมจนกลายเป็นสีเหลืองไปแล้วจริงๆ ลู่ม่านรีบเอากระดาษมันที่คลุมเอาไว้ออก เห็นต้นกล้าสีเขียวขจีที่ยืดตัวอย่างเต็มที่ท่ามกลางแสงแดด

หลังจากทำเช่นนี้แล้ว ลู่ม่านก็รีบกลับไปในหมู่บ้านและได้บอกเรื่องนี้ให้กับผู้ใหญ่บ้านฟังพร้อมกับให้เขานำไปประกาศให้ชาวบ้านทราบ

ทุกคนต่างก็ทำตาม เมื่อเปิดสิ่งที่คลุมอยู่ออกไปต้นกล้าข้าวเหมือนได้กินยาเร่งโตอย่างไรอย่างนั้น สูงใหญ่ขึ้นทุกวัน ไม่นานนัก ก็เติบโตจนทิ้งห่างจากเมล็ดพันธุ์ที่ไม่ได้ทำการแช่น้ำก่อนอย่างมากมายยิ่งนัก

หลังจากมั่นใจเรื่องต้นกล้าแล้ว ลู่ม่านก็เริ่มปลูกถั่วเหลือง

ปีนี้ ลู่ม่านไม่เพียงแต่อยากจะปลูกถั่วเหลืองเอง ยังจะขอร้องให้คนในหมู่บ้านช่วยกันปลูกด้วย ปีก่อนตอนที่พวกเขาออกไปรับซื้อจากข้างนอก แม้ว่าจะมีตัวแทนขายจากเกษตรกร แต่ต้นทุนในหลายๆอย่างได้เพิ่มสูงมากขึ้น ผลผลิตที่ได้ก็ไม่ได้ดีมากนัก

ถ้าหาก ที่ดินรกร้างทั้งหลายในหมู่บ้านถูกนำมาปลูกถั่วเหลือง คงจะเป็นเรื่องดีไม่น้อยทีเดียว

ลู่ม่านได้พูดความคิดเห็นของตนเองให้เฉินจื่ออานฟัง เฉินจื่ออานตาเป็นประกาย “เสี่ยวม่าน ปีก่อนตอนที่ข้าเป็นซือหนง ได้ยินว่าฮ่องเต้ทรงมีรับสั่ง สนับสนุนให้เกษตรกรบุกเบิกที่รกร้าง”

“มีเรื่องเช่นนี้ด้วยหรือ ทำไมข้าจึงไม่ได้ยินเล่า”ลู่ม่านถาม

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน