ลู่ม่านยิ้มบางๆ “อยากจะเห็นปาฏิหาริย์ เช่นนั้นก็ฟังข้า รีบไปตักน้ำมา”
เหอเยว่จึงรีบหมุนตัวไปตักน้ำ ทั้งสองคนพรมน้ำเมล็ดข้าวจนชุ่มแล้วก็นำไปไว้ในที่ร่มและแช่เอาไว้ หลังจากนั้นสองวัน ลู่ม่านจะไปพรมน้ำให้เมล็ดข้าวทุกวัน
ในที่สุดก็ถึงวันที่สาม เมล็ดข้าวมีรากงอกออกมาแล้ว
ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ โอกาสที่รากจะงอกย่อมสูงกว่าการเอาไปหว่านในนาโดยตรงสูงมาก สิ่งที่ไม่สามารถคาดเดาได้ในท้องนานั้นมีมากเกินไป
นาเพาะกล้าข้าวของเฉินจื่ออานก็ทำเสร็จแล้ว ตอนที่กลับมาเอาเมล็ดพันธุ์ เห็นว่าเมล็ดพันธุ์มีรากงอกแล้ว ก็รู้สึกคาดไม่ถึง
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น”
“ไม่มีอะไร ข้าทำเอง”ลู่ม่านพูด จากนั้น นางก็อธิบายให้เฉินจื่ออานฟัง
เฉินจื่ออานนั้นเชื่อใจลู่ม่านยิ่งกว่าใครๆทั้งหมด บวกกับประสบการณ์ก่อนหน้านี้ เขาแทบจะไม่ลังเลที่จะเอาเมล็ดพันธุ์ที่มีรากงอกแล้วไปปลูกทั้งกระสอบ
ลู่ม่านรีบตามไป สองคนไปที่นา
ค่อยๆหว่านเมล็ดพันธุ์ลงไป จากนั้นก็เหมือนปีที่ผ่านๆมา ใช้วัสดุคลุมหน้าดินเอาไว้ ตอนนี้การใช้วัสดุคลุมหน้าดิน เริ่มมีคนในหมู่บ้านใช้กันมากขึ้นแล้ว
ปีก่อน ทุกคนต่างก็ไม่ยอมรับ ตอนนี้เมื่อเห็นว่าใช้ได้ผลจริง ต่างก็เริ่มใช้กันแพร่หลายแล้ว
ขณะกำลังทำงานอยู่ คนที่ทำนาอยู่ในที่ดินข้างๆกันต่างก็ล้อมเข้ามาดู “จื่ออาน ทำไมเมล็ดพันธุ์บ้านเจ้าจึงมีรากงอกแล้วล่ะ”
“นี่เป็นวิธีการปลูกแบบใหม่ ถ้าหากพวกท่านอยากรู้ ข้าจะบอกวิธีการให้...”ลู่ม่านพูด
“เอ่อ ไม่ต้องหรอก”แม้ว่าทุกคนจะอยู่ร่วมกันมาปีหนึ่งแล้ว และค่อยๆที่จะเชื่อใจลู่ม่านแล้วด้วย ย่อมไม่มีทางสงสัยในตัวลู่ม่านเหมือนแต่ก่อน
เพียงแต่ เพราะทำนามาหลายชั่วอายุคนจนเคยชินแล้ว ล้วนทำกันมาแบบนี้ ให้เปลี่ยนความคิดอย่างกะทันหัน คนส่วนใหญ่นั้นไม่ยินดีที่จะเปลี่ยนแปลง
มีเพียงเหยาซื่อกับเฉินเหมยเซียงที่เข้ามาพูดว่า “เสี่ยวม่าน เจ้าสอนพวกข้าสิ”
ลู่ม่านพูดยิ้มๆว่า “ได้”
ทุกคนต่างก็ชื่นชมกันใหญ่ “ครอบครัวของพวกเจ้านี่รักใคร่กันดีจริงๆ”
แต่ในใจกลับคิดเงียบๆว่า เหยาซื่อกับเฉินเหมยเซียงนั้นช่างประจบเสียจริง ต้องรอให้พวกเขาทำล้มเหลว จึงจะรู้ตัวว่าตัดสินใจผิดไปแล้ว
ลู่ม่านไม่สนใจว่าคนอื่นจะคิดอย่างไร ในเมื่อนางก็เป็นของนางเช่นนี้ คนอื่นดีกับนาง นางก็ย่อมต้องดีตอบ คนอื่นทำไม่ดีกับนาง นางเองก็ไม่ไว้หน้าเช่นเดียวกัน
ส่วนในใจของคนอื่นจะคิดเห็นอย่างไร นั่นก็เป็นเรื่องของคนอื่น นางไม่อยากจะรู้ให้ปวดหัวตนเอง
หลังจากสอนเฉินเหมยเซียงกับเหยาซื่อจนทำเป็นแล้ว เมล็ดพันธุ์ของบ้านลู่ม่านก็หว่านจนเสร็จหมดแล้ว เหยาซื่อเอ่ยอย่างตกตะลึงว่า “เสี่ยวม่าน ข้าจำได้ว่าปีนี้ที่นาบ้านเจ้ามีพื้นที่เยอะขึ้นมาก ทำไมจึงหว่านข้าวแค่นี้เล่า ถ้าไม่พอจะทำอย่างไร ”
“พอแล้ว”ลู่ม่านเอ่ยอย่างมั่นใจมาก
“แค่นี้จะพอจริงหรือ”เหยาซื่อยังคงรู้สึกคาดไม่ถึงอยู่บ้าง “ปีที่ผ่านมามีหลายที่ที่ไม่งอกขึ้นมา สุดท้ายยังต้องปลูกต้นกล้าเสริมเข้าไป”
“ที่ท่านพูดถึงมันปีที่ผ่านมา อีกอย่างเจ้าก็เห็นแล้วนี่นาว่าต้นกล้าของบ้านข้าตอนนี้มีรากงอกออกมาหมดแล้ว”
เหยาซื่อนิ่งอึ้ง ในที่สุดก็นึกออกแล้วว่าทำไมลู่ม่านจึงใช้วิธีการเช่นนี้ “ที่เจ้าทำที่แท้ก็คือรับประกันการงอกของเมล็ดพันธุ์ เพิ่มประสิทธิภาพในการเติบโต”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน
เด็กไม่ตายเพราะแม่คลอดยากจะตายเพราะคนรับใช้ป้อนโจ๊กข้าวจนอิ่มตื้อ รอดได้คือดวงแข็งเว่อ...
อ่านไป งงไป ตัดสินประหาร หรืออภัยโทษ?...
หม่อมข้า? ใช้ MS Word ไม่ระวังเลย...
ตั้งแต่ต้นจนถึงตอน 337 แล้ว โดยภาพรวมพระเอกไม่ค่อยมีเสน่ห์ ไม่เฉียบแหลมเลย...
อะไรจะมีปมขนาดนั้น วุ่นวายตอกย้ำเหลือเกินเกี่ยวกับระบบศักดินา ทั้งที่มันเป็นคนละยุคสมัยกัน...
ตอน285-287 หายทำไงดี...
ตอนหายค่ะ 284แล้วกระโดดไป288เลยค่ะ...
บท 285-287 หายค่ะ 284แล้ว288เลย รบกวนด้วยค่ะ...
281-311 รบกวนด้วยค่ะ...
บทที่241-311 หายค่ะ...