ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 424

เฉินจื่ออานถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง “เฮ้อ แม้ว่าฮ่องเต้จะทรงตรัสแล้ว ว่าหากมีการบุกเบิกที่รกร้างจะมีรางวัลให้ แต่ท้ายที่สุดแล้วรางวัลก็เป็นแค่ ไม่ต้องส่งภาษีทำกินเป็นเวลาสองปี เดิมทีการบุกเบิกที่รกร้างก็ทำได้ยากอยู่แล้ว ผลผลิตที่ได้ในสองปีแรกคงจะน้อยยิ่งนัก พอเริ่มดีขึ้น ก็ต้องนำส่งภาษี คนที่มีฐานะหน่อย ต่างก็ไม่ยินดีที่จะไปบุกเบิกที่รกร้าง ส่วนคนที่ยากจนแม้แต่ข้าวก็ไม่มีกิน ก็ยิ่งไม่ยินดีที่จะไปทำ ในเมื่อ อาหารที่เก็บเกี่ยวได้ก็ไม่พอจะทำให้อิ่มท้องได้...”

ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้นี่เอง ทันใดนั้นลู่ม่านก็พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า “ข้าคิดวิธีการออกแล้ว”

เฉินจื่ออานก็ยิ้มเช่นกัน “การปลูกถั่วสามารถบำรุงดินได้ เจ้ารับผิดชอบรับซื้อ ให้ราคาเหมือนในตลาด ใช่หรือไม่”

ลู่ม่านกอดเฉินจื่ออานไว้ทันที “จื่ออาน เจ้าช่างเหมือนพยาธิในท้องของข้าจริงๆ ”

“ใครใช้ให้เจ้าเป็นเมียข้าเล่า เจ้าคิดอะไรอยู่ในใจ ข้ารู้หมดนั่นแหละ”เฉินจื่ออานพูดจบแล้ว ก็ดึงมือลู่ม่านเอาไว้ “ไปเถอะ ข้าจะไปที่บ้านผู้ใหญ่บ้านเป็นเพื่อนเจ้า”

ตั้งแต่คนในหมู่บ้านไป่ฮัวมีฐานะความเป็นอยู่ดีขึ้น บ้านของผู้ใหญ่บ้านก็ได้มีการก่อสร้างใหม่เมื่อปีที่แล้ว อยู่ตรงใจกลางหมู่บ้านพอดี เป็นบ้านขนาดใหญ่ที่แบ่งเป็นสามส่วน มีรูปแบบค่อนข้างจะพื้นเมือง ดูแล้วยิ่งใหญ่ตระการตามาก

ตอนที่พวกลู่ม่านไปถึง ผู้ใหญ่บ้านกำลังต้อนรับแขกอยู่ที่ห้องหนังสือ มีคนจากต่างหมู่บ้านมาขอคำชี้แนะ ผู้ใหญ่บ้านจึงมีงานยุ่งทุกวันไม่ได้เว้น

เมื่อเห็นว่าลู่ม่านกับเฉินจื่ออานมา ผู้ใหญ่บ้านก็รีบเดินออกมาจากด้านในทันที

“ข้ากำลังพูดถึงพวกเจ้า พวกเจ้าก็มาพอดี รีบเข้าไปข้างในกันก่อน ทุกคนกำลังคุยกันอยู่”

ผู้ใหญ่บ้านคนอื่นๆได้ยินเข้า ต่างก็ลุกขึ้นยืน “ที่แท้ก็เป็นสองสามีภรรยาตระกูลเฉินนั่นเอง ได้ยินชื่อเสียงมานานแล้ว”

เฉินจื่ออานกับลู่ม่านสบตากันแวบหนึ่ง ต่างก็มองเห็นความคิดในใจของอีกฝ่ายจากสายตาของอีกฝ่าย อยากจะพัฒนาการทำซีอิ๊ว จะอาศัยแค่การบุกเบิกพื้นที่รกร้างของหมู่บ้านเดียวนั้นไม่เพียงพอ อีกอย่างพื้นที่รกร้างของหมู่บ้านไป่ฮัวก็ไม่ได้มีมากมายขนาดนั้น

ถ้าหากสามารถรวบรวมพื้นที่รกร้างในหมู่บ้านข้างเคียงได้ และปลูกถั่วเหลืองทั้งหมด แม้แต่ความต้องการในเมืองหลวงก็สามารถรับประกันได้

เมื่อคิดเช่นนี้ ทั้งสองก็นั่งลงตามคำเชิญ หลังจากถามสารทุกข์สุกดิบกันพอสมควรแล้ว ผู้ใหญ่บ้านก็ถามถึงจุดประสงค์ในการมาของลู่ม่านกับเฉินจื่ออาน

เฉินจื่ออานพูดว่า “คืออย่างนี้ ด้วยความต้องการของโรงงานพวกเรา ข้าอยากจะมาคุยกับผู้ใหญ่บ้าน เรื่องที่ราชสำนักสนับสนุนให้มีการบุกเบิกพื้นที่รกร้าง”

เมื่อพูดจบ อารมณ์ที่จดจ่อรอคอยของผู้ใหญ่บ้านเหมือนได้รับการปลดปล่อยออกมาทันที

“จื่ออาน เรื่องที่เจ้าพูดถึงมันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ราชสำนักสนับสนุนให้บุกเบิกพื้นที่รกร้างตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ว่ากฎหมายที่เอื้อประโยชน์ต่อประชาชนนั้นมีน้อยเกินไป หลังจากบุกเบิกแล้ว แม้แต่ข้าวก็กินไม่อิ่ม ใครจะอยากไปบุกเบิกเล่า”

“ถ้าหากเป็นการปลูกถั่วเหลืองเล่า ”ลู่ม่านพูด “เมื่อปีที่แล้วบ้านข้าปลูกถั่วเหลืองเป็นพื้นที่ยี่สิบหมู่ ถั่วเหลืองต้องการปัจจัยในการเติบโตไม่มาก อีกอย่าง สำหรับพื้นที่รกร้างแล้วมันยังช่วยเพิ่มสารอาหารในดินด้วย”

“คือ...”ผู้ใหญ่บ้านเฉินลังเลอยู่ชั่วครู่ ทันใดนั้นก็มีผู้ใหญ่บ้านจากหมู่บ้านข้างเคียงถามขึ้นอย่างสงสัยว่า “ปลูกถั่วเหลืองเป็นความคิดที่ไม่เลวก็จริง แต่ใครเลยจะรู้ว่ายุคก่อนราชวงศ์ถังของพวกเรา ไม่ได้ความต้องการถั่วเหลืองมากนัก แม้จะปลูกแล้วก็ขายไม่ได้ราคา ไม่มีความหมายอะไรเลย”

“ข้ารับซื้อเอง ”เฉินจื่ออานพูดขึ้น “ในโรงงานของบ้านข้า ต้องการซื้อถั่วเหลือง ข้าสามารถรับประกันได้ว่า ขอเพียงลงชื่อในสัญญาช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ข้าจะรับซื้อทั้งหมดในราคาที่เท่ากับท้องตลาด”

ได้ยินดังนั้น ทุกคนต่างก็สูดลมหายใจเข้าเฮือกใหญ่

“บ้านเจ้าต้องการถั่วเหลืองมากขนาดนั้นเชียวหรือ รอบๆนี้มีที่นาตั้งมากมาย แม้จะเป็นที่รกร้าง แต่ถ้าหากปลูกถั่วเหลืองทั้งหมด ผลผลิตของปีนี้อย่างน้อยก็มีมากกว่าหนึ่งหมื่นชั่ง ถึงตอนนั้น บ้านเจ้าจะมีที่จัดเก็บหรือ”

ลู่ม่านกับเฉินจื่ออานไม่ได้พูดอะไร แต่ผู้ใหญ่บ้านเฉินรู้ดี

“โรงงานที่อยู่ในเมืองหลวงของพวกเจ้าก็เตรียมจะใช้ถั่วเหลืองจากพวกเราใช่หรือไม่”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน