สรุปตอน บทที่ 430 ไม่ต้องไว้หน้า – จากเรื่อง ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน โดย ฝูเชิง
ตอน บทที่ 430 ไม่ต้องไว้หน้า ของนิยายประวัติศาสตร์เรื่องดัง ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน โดยนักเขียน ฝูเชิง เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
เพียงแต่ ไม่มีบรรยากาศที่ดูมีความสุขเหมือนเมื่อครู่แล้ว ทุกคนต่างก็กินข้าวกันอย่างเงียบๆ ไม่มีเสียงใดๆเลยแม้แต่น้อย
ทันใดนั้น บนศีรษะก็มีเสียงคำรามดังขึ้น จากนั้นก็มีฝนเทกระหน่ำลงมาอย่างหนัก เฉินสือซ่วนจึงเอ่ยขึ้นว่า “ฝนตกแล้ว”
เดิมทีมือที่กำลังคีบกับข้าของตาแก่เฉินนั้นชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็พูดอย่างมั่นใจว่า “ในฤดูนี้ฝนตกดีที่สุด ฝนตกแล้ว พืชผลจะได้เจริญเติบโตดี”
ทุกคนต่างก็ไม่พูดอะไร ต่างก้มหน้าลงเงียบๆ
แต่ทุกคนต่างก็ได้ยินเสียงในที่ตกอยู่ด้านนอกยิ่งอยู่ก็ยิ่งหนักมากขึ้น จากนั้นไม่นาน ก็มีเสียงฟ้าผ่าดังขึ้น
เดือนสามของฤดูใบไม้ผลิ ตอนที่ฝนตก ข้างนอกอากาศจะหนาวมาก ในที่สุดตาแก่เฉินก็กินไม่ลงแล้ว ลุกขึ้นและพูดว่า“จื่อฉาย ไปเถอะ กลับบ้านกัน”
เฉินจื่ออานรีบพูดขึ้นว่า “ท่านพ่อ ตอนนี้ข้างนอกฝนตกหนัก คืนนี้พวกท่านก็พักที่นี่เถอะ”
“ไม่ล่ะ ”ตาแก่เฉินพูด “พรุ่งนี้เจ้ายังต้องไปเมืองหลวง เรื่องสอบหน้าพระที่นั่งเป็นเรื่องสำคัญ พวกเราอยู่ที่นี่ จะเป็นการรบกวนการพักผ่อนของพวกเจ้า”
เฉินจื่อฉายก็พยักหน้าเห็นด้วย“ท่านพ่อพูดถูก พวกเรากลับกันดีกว่า”
หลิวซื่อเห็นดังนั้นก็ดึงมือเหอฮัวลุกขึ้น “พวกเราก็ขอตัวกลับก่อน”
ลู่ม่านรีบเรียกหรูเฟิง “ไปส่งพวกนางที”เพราะว่า เป็นพวกนางสองแม่ลูก หรูเฟิงนั้นมีวรยุทธ อย่างไรก็ปลอดภัยกว่า
หรูเฟิงรีบตามไป เฉินจื่ออานกับลู่ม่านก็เดินไปส่งพวกตาแก่เฉินที่นอกประตู
พอเปิดประตู ก็เห็นนายท่านสงดึงตัวเฉินหลิ่วเอ๋อคุกเข่าอยู่ตรงหน้าประตู โคมไฟตรงหน้าประตูสองแสงรำไรอยู่ท่ามกลางสายฝน ส่องให้เห็นท่าทีของทั้งสองคนพอดี
เฉินหลิ่วเอ๋อประคองท้องของนางเอาไว้ สีหน้าซีดขาวราวกับกระดาษ
ตาแก่เฉินขมวดคิ้วขึ้นมา เดินเข้าไปด่านายท่านสงอย่างรุนแรง“แม้วันนี้พวกเจ้าจะคุกเข่าอยู่ตรงนี้จนตาย ก็อย่าหวังว่าพวกเราจะสนใจเจ้า ส่วนเจ้า ลูกของตนเองเจ้าก็ไม่สงสารหรืออย่างไร”
นายท่านสงนั้นฟังไม่ออกถึงความหมายที่แฝงอยู่ในคำพูดของตาแก่เฉินเลยแม้แต่น้อย รีบพูดประจบว่า “ท่านพ่อ มีคำพูดหนึ่งพูดได้ถูกต้อง กตัญญูรู้คุณคือคุณธรรมอันดับแรก ไม่ว่าจะเรื่องอะไร ความกตัญญูย่อมมาก่อนเสมอ”
ว่าแล้ว ก็มองไปที่เฉินจื่ออาน “พี่สาม ท่านก็น่าจะรู้ดีนี่นา”
เฉินจื่ออานไม่อยากจะสนใจเขา ได้แต่ขมวดคิ้วแล้วเบือนหน้าไปอีกทาง
ไม่ว่าอย่างไรเฉินหลี่ซื่อก็ยังคงรู้สึกสงสารลูกสาวอยู่ จึงยังลังเลอยู่ เฉินหลิ่วเอ๋อเงยหน้าขึ้น มองเฉินหลี่ซื่อด้วยสายตาน่าสงสาร
“ท่านแม่...”
ยังไม่ทันได้พูดจบ ตาแก่เฉินก็ตะคอกขึ้นว่า “ยังไม่ไปอีกหรือ”
เฉินหลี่ซื่อจึงก้าวเท้าเดินตามไปทันที ทางด้านหลัง เฉินจื่อฉายก็พาเฉินสือซ่วนเดินตามไปด้วย
เฉินหลิ่วเอ๋อมองเงาหลังของทุกคนที่เดินจากไป ในสายตามีแววขมขื่นผุดขึ้นมา ทันใดนั้นก็มีเสียงฟ้าผ่าดังขึ้น นางยิ้มเย็น ทันใดนั้นก็เป็นลมล้มลงท่ามกลางสายฝน
“หลิ่วเอ๋อ” นายท่านสงอาศัยโอกาสนี้ร้องตะโกนเสียงดังขึ้นมา
จิตใจที่เคียดแค้นของตาแก่เฉินกับเฉินหลี่ซื่อก็ทนต่อไปไม่ไหว หันกลับมาอีกครั้ง
พวกลู่ม่านพากันตกใจมาก เฉินหลิ่วเอ๋อเป็นคนเลว แต่ว่าลูกในท้องนั้นบริสุทธิ์ และยังอยู่ที่หน้าประตูบ้านตนเอง อย่างไรเสียพวกลู่ม่านก็ต้องช่วยเหลือ
รีบเข้าไปประคองเฉินหลิ่วเอ๋อขึ้นมา เฉินจื่ออานตะโกนว่า “ตาเกา รีบไปตามท่านหมอมา”
ตาเการีบหมุนตัวออกไป เฉินจื่ออานจึงอุ้มเฉินหลิ่วเอ๋อเข้าไปด้านใน ทางด้านหลัง นายท่านสงก็รีบลุกตามไป ปากก็ยังคงพูดประจบสอพลออยู่
“หลิ่วเอ๋อบอกเสมอว่า พี่สามดีกับนางมากที่สุดตั้งแต่เด็ก ตอนนี้ข้าดูแล้ว พี่สามไม่เพียงแต่เป็นคนดี...”
เมื่อตาเกาไปตามท่านหมอกลับมา เฉินจื่ออานก็ให้เขาพาท่านหมอไปที่บ้านเก่า รอจนฝั่งนั้นเรียบร้อยแล้วค่อยกลับมา ตาเกาไปจัดการตามที่ได้รับคำสั่งเป็นเวลาหนึ่งชั่วยามกว่า
จนกระทั่งกลางดึก จึงเดินทางกลับมา
เมื่อเข้ามา เขาก็ไปรายงานเฉินจื่ออานที่ห้องหนังสือ “แม่นางหลิ่วเอ๋อไม่เป็นไรแล้ว เพียงแต่เป็นไข้จนเป็นลมไปเท่านั้น ท่านหมอให้ยาแล้ว บอกว่ากินแล้วก็จะดีขึ้น”
เฉินจื่ออานพยักหน้า ตาเกายังพูดอีกว่า “แต่นายท่านสงคนนั้น นายท่านคงจะคิดได้ว่าเขาอาจจะทำไม่ดีต่อแม่นางหลิ่วเอ๋อได้ จึงให้เขาเข้าไปในบ้าน ตอนที่ข้ากลับมา นายท่านให้ข้ามาเตือนท่าน นั่นเป็นญาติฝั่งพวกเขา ท่านไม่ต้องสนใจ ถ้าหากวันใดวันหนึ่ง น้องเขยคนนั้นมาหาท่าน ท่านก็อย่าได้ไว้หน้าอย่างเด็ดขาด”
เฉินจื่ออานพยักหน้า ในใจรู้สึกซาบซึ้งกับการจัดการของตาแก่เฉินมาก
ในที่สุดท่านพ่อเขาก็เข้าใจ ว่าคนบางคนนั้นเข้าใกล้ไม่ได้ และคนบางคน ก็ใช่ว่าเป็นญาติกันแล้วจะช่วยเหลือโดยไร้เงื่อนไขใดๆเลย
โดยเฉพาะ ตอนนี้เขาสอบติดซิ่วไฉแล้ว ถ้าหากเอาแต่ใส่ใจญาติพี่น้องที่ไร้ความหมายเหล่านั้น อนาคตต้องเดือดร้อนแน่ๆ
“ข้ารู้แล้ว เจ้ากลับไปพักผ่อนเถอะ”เฉินจื่ออานพูด
หลังจากตาเกาออกไปแล้ว ลู่ม่านจึงเดินเข้ามาจากด้านนอก “ตอนนี้จะพักผ่อนได้หรือยัง นายท่านซิ่วไฉของข้า”
“เสี่ยวม่าน...”เฉินจื่ออานเอ่ยอย่างระอาใจว่า “จนถึงตอนนี้แล้ว เจ้ายังจะล้อข้าเล่นอีกหรือ”
“ข้าไม่ล้อท่าน ข้าจะล้อใคร”ลู่ม่านถอนหายใจ “ใช่ว่าข้าอยากจะพูด ที่หลิ่วเอ๋อต้องมีสภาพอย่างเช่นวันนี้ ก็เป็นเพราะนางทำตัวเองทั้งนั้น ถ้าหากผ่านเหตุการณ์ครั้งนี้ไปแล้ว นางสามารถคิดได้ หย่ากับนายท่านสงคนนั้น เป็นไปไม่ได้ที่ท่านพ่อท่านแม่จะไม่สนใจนาง ถ้าหากนางยังคงยืนหยัดเช่นนั้นต่อไป บางทีสิ่งที่รอนางอยู่ภายหน้าอาจจะเป็นเรื่องที่ยากลำบากมากขึ้นก็เป็นได้ ”
ลู่ม่านพูดอย่างมีเหตุผล เฉินจื่ออานก็รู้ดี
“เช่นนั้นก็ต้องดูการตัดสินใจเลือกของนางแล้ว”
“เพราะฉะนั้น เจ้าร้อนใจก็ไปก็ไร้ประโยชน์ รีบพักผ่อนเถอะ พรุ่งนี้ยังต้องเข้าไปในเมืองหลวง ”ลู่ม่านพูดจบแล้ว ก็เข้าไปดึงตัวเฉินจื่ออาน ทั้งสองเดินกลับไปที่ห้องพร้อมกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน
เป็นพอ.ที่กลับกรอก เป็นที่พึ่งไม่ได้เลย ยอกจะออกจากครอบครัวเลวๆนี่ไม่จริงอีก ภาระของนางเอก ถ่วงแข้งถ่วงขาจริงๆ...
เด็กไม่ตายเพราะแม่คลอดยากจะตายเพราะคนรับใช้ป้อนโจ๊กข้าวจนอิ่มตื้อ รอดได้คือดวงแข็งเว่อ...
อ่านไป งงไป ตัดสินประหาร หรืออภัยโทษ?...
หม่อมข้า? ใช้ MS Word ไม่ระวังเลย...
ตั้งแต่ต้นจนถึงตอน 337 แล้ว โดยภาพรวมพระเอกไม่ค่อยมีเสน่ห์ ไม่เฉียบแหลมเลย...
อะไรจะมีปมขนาดนั้น วุ่นวายตอกย้ำเหลือเกินเกี่ยวกับระบบศักดินา ทั้งที่มันเป็นคนละยุคสมัยกัน...
ตอน285-287 หายทำไงดี...
ตอนหายค่ะ 284แล้วกระโดดไป288เลยค่ะ...
บท 285-287 หายค่ะ 284แล้ว288เลย รบกวนด้วยค่ะ...
281-311 รบกวนด้วยค่ะ...