ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 432

ทุกคนต่างก็ยุ่งตลอดช่วงบ่าย ในที่สุดก็แยกของขวัญออกเป็นแต่ละประเภทเรียบร้อย

หลังจากนั้น เถียนโหย่วเต๋อก็ออกมา ช่วยเฉินจื่ออานขนของขวัญทั้งหมดนี้ขึ้นรถม้า ส่งกลับไปให้ทุกบ้าน

เดิมที คนเหล่านั้นเห็นเฉินจื่ออานไปหาที่บ้าน ก็รู้สึกดีใจมาก แต่เมื่อรู้ว่าเฉินจื่ออานจะมาคืนของขวัญ ต่างก็รู้สึกไม่ค่อยพอใจ

“ก็แค่เป็นการอวยพรระหว่างเพื่อนเท่านั้น ท่านทำเช่นนี้คงไม่ดีกระมัง”

“เพราะเป็นเพื่อนกัน ของขวัญเหล่านี้จึงไม่จำเป็น ”เฉินจื่ออานพยายามข้อร้องด้วยคำพูด “พวกเราที่เป็นเพื่อนกัน หากอารมณ์ดีก็ไปดื่มเหล้า กินข้าวพร้อมหน้ากัน หรือไม่ก็เชิญไปนั่งเล่นที่บ้าน ให้ภรรยาข้าทำกับข้าวให้พวกท่านทานสักมื้อ จะไม่ยิ่งเป็นการกระชับความสัมพันธ์หรือ“

ที่เฉินจื่ออานพูดยังนับว่าเป็นคำพูดตามมารยาท เพียงแต่ไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องที่ว่าของขวัญเหล่านี้อาจจะกระทบต่อหน้าที่การงานและชื่อเสียงของเขาได้

คนที่ส่งของขวัญมา ต่างก็ฟังแล้วรู้สึกสบายใจขึ้น และต่างก็ยินดีจะรับของขวัญกลับไป

ใช้เวลาตลอดทั้งคืน จึงทยอยส่งคืนของขวัญกลับไปจนหมด

เฉินจื่ออานจึงรู้สึกเบาใจลง แม้แต่ข้าวเย็นก็ไม่กินและเข้านอนเลย

วันรุ่งขึ้น ลู่ม่านตื่นขึ้นมาแต่เช้าเพื่อทำอาหารเช้าที่มีคุณค่าให้เขา

ทอดไข่ดาว โจ๊ก ทานคู่กับหมั่นโถวแป้งข้าวโพดที่ทำขึ้นอย่างประณีต เมื่อพูดถึงหมั่นโถวแป้งข้าวโพด ในยุคปัจจุบัน เป็นอาหารที่หาได้ยากมาก

แต่หลังจากที่มาอยู่ในยุคโบราณ สิ่งเหล่านี้ก็ไม่ใช่ของดีหายากอะไรอีกต่อไป เหตุผลเพราะ แป้งข้าวโพดในยุคปัจจุบันนั้นถูกทำให้เป็นแป้งที่มีความละเอียดมาก แต่แป้งข้าวโพดในยุคโบราณกลับมีความหยาบมากกว่า

เวลากิน มันให้ความรู้สึกที่ยากจะพรรณนาได้

แต่ว่าลู่ม่านได้เอาไปบดจนละเอียดทั้งหมด จากนั้นค่อยนำมาทำเป็นหมั่นโถว

ตอนแรก เถียงหวังซื่อยังคงไม่เข้าใจ “ฮูหยิน ทำไมท่านต้องหมั่นโถว มันไม่น่ากินนะเจ้าคะ”

ลู่ม่านพูดยิ้มๆว่า “รอให้ข้าทำเสร็จแล้ว เจ้าจะรู้เอง”

สุดท้าย เถียนหวังซื่อก็ชมไม่ขาดปากว่า “ฮูหยิน ท่านช่างสุดยอดจริงๆ”

แม้แต่เสี่ยวหู่เองก็กินไปถึงสองชิ้น สุดท้ายลู่ม่านเกรงว่าเขาจะกินจนจุก จึงไม่กล้าให้เขากินอีก

เตรียมอาหารทั้งหมดเสร็จแล้วนำขึ้นโต๊ะพร้อมกับกับข้าวที่เถียนหวังซื่อทำอีกหลายอย่าง เฉินจื่ออานกัดหมั่นโถวเข้าไปคำแรก ก็รู้สึกประหลาดใจมาก

“ที่แท้แป้งข้าวโพดไม่เพียงแต่นำมาทำเป็นโวโวโถวได้เท่านั้น ยังสามารถทำเป็นหมั่นโถวที่อร่อยเช่นนี้ได้อีกด้วย”

“แน่นอนอยู่แล้ว”ลู่ม่านพูดยิ้มๆ “ถ้าหากเจ้าชอบกิน พรุ่งนี้ข้าจะทำอีก”

เฉินจื่ออานพยักหน้า “มีเจ้าอยู่ด้วย ข้าก็ไม่ต้องกังวลว่าข้าจะต้องหิวแล้ว”

หลังจากกินเสร็จแล้ว ลู่ม่านก็ช่วยเฉินจื่ออานแต่งตัวอย่างใส่ใจ ยังใช้ให้เถียนโหย่วเต๋อช่วยเขาขับรถม้า ส่งไปที่วังหลวง

หลังจากเฉินจื่ออานไปแล้ว ลู่ม่านก็พาหรูเฟิงออกไป การมาเมืองหลวงในครั้งนี้ ยังมีอีกเรื่องที่สำคัญมาก ที่ต้องไปจัดการให้เรียบร้อย นั่นก็คือไปหาหมอหวงแห่งร้านยาฉืออาน

เรื่องการใช้ถั่วเน่าในการรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจและสมองครั้งที่แล้วได้แพร่กระจายจากตำบลชางผิงมาถึงเมืองหลวงแล้ว นับว่าทำให้ชื่อเสียงของลู่ม่านเป็นที่รู้จักกันมากขึ้น ฉะนั้น คนของร้านยาฉืออาน ต่างก็รู้จักลู่ม่าน

เพราะเหตุนี้ ตอนที่ลู่ม่านไปเข้าแถวลงชื่อ ก็ถูกเชิญเข้าไปยังห้องรับรองแขกพิเศษ

นั่งรออยู่ไม่กี่นาที ลู่ม่านก็ได้พบกับหมอหวง หลังจากตรวจชีพจรแล้ว การวินิจฉัยของหมอหวงกับท่านหมอที่ตำบลชางผิงนั้นเหมือนกัน

“พิษชนิดนี้ ค่อนข้างรุนแรง ฮูหยินสามารถรอดพ้นมาได้ก็นับว่าสวรรค์คุ้มครองแล้ว เพียงแต่ ถ้าหากจะทำการฟื้นฟูร่างกายที่เคยบาดเจ็บ ค่อนข้างจะยากเสียหน่อย”

ลู่ม่านขมวดคิ้ว “ไม่มีวิธีการรักษาแล้วอย่างนั้นหรือ”

“ก็ไม่เชิง...”หมอหวงพูดขึ้น “ข้ามวิธีการรักษาอยู่ขนานหนึ่ง เพียงแต่ก่อนหน้านี้ไม่เคยให้ใครใช้มาก่อน ฉะนั้นข้าก็ไม่รู้ว่าจะสำเร็จหรือไม่ ถ้าหากแม่นางไม่รังเกียจ สามารถลองดูได้”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน