ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 433

หลังจากที่เฉินจื่ออานนิ่งเงียบไปชั่วครู่ “ผู้สอบผ่านที่เข้าร่วมการสอบหน้าพระที่นั่งในปีนี้ สุดท้ายคนที่ถูกแต่งตั้งในตำแหน่งที่สูงที่สุด ก็คือข้า แม้แต่ผู้ที่สอบได้ซิ่วไฉอันดับหนึ่งในครั้งนี้ ก็ไม่ได้รับตำแหน่งขุนนางที่สูงขนาดนี้”

“เพราะอะไร”ลู่ม่านยิ่งรู้สึกประหลาดใจมากขึ้น

“เหตุผลข้อที่หนึ่งคือก่อนหน้านี้ตอนที่ข้าทำหน้าที่อยู่ที่อำเภอเฟิงหนาน ผลงานที่ข้าได้ทำไว้ให้กับซือหนงซื่อได้สร้างความทรงจำที่ดีให้กับฮ่องเต้ เหตุผลที่สอง เป็นเพราะเรื่องที่ข้าได้ทำการส่งของขวัญเหล่านั้นคืนกลับไป สองเรื่องนี้ ล้วนเป็นความดีความชอบของเจ้า...”

ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้นี่เอง ลู่ม่านกลับไม่เห็นว่าเป็นเช่นนั้น

“จื่ออาน เจ้าอย่าพูดเช่นนั้น แม้ว่าข้าจะเคยเสนอความคิดเห็นอยู่บ้าง แต่เรื่องทั้งหมดนั้นเจ้าเป็นคนลงมือทำเองจริงๆ ข้าไม่เคยช่วยเหลือเจ้าเลย เพราะฉะนั้น ผลที่ได้ในตอนนี้ก็เป็นสิ่งที่สมควรแล้ว”

พูดจบ ลู่ม่านก็เหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้อย่างกะทันหัน “แล้วหลังจากนี้เจ้าจะประจำการอยู่ที่ไหนเล่า”

“ย่อมต้องอยู่ในเมืองหลวงอยู่แล้ว”เฉินจื่ออานพูด

“แล้วหมู่บ้านไป่ฮัวจะทำอย่างไร”ลู่ม่านรู้สึกเสียดายบ้านเล็กๆแต่สวยงามของนางมาก

“เรื่องที่เจ้าเป็นห่วง ข้าก็ได้คำนึงถึงแล้ว ฮ่องเต้ทรงทราบว่าพวกเรายังมีพืชอีกมากที่ยังไม่ได้เพาะปลูก จึงทรงมีเมตตาอนุญาต ให้ข้ากลับไปจัดการเรื่องทั้งหมดที่บ้านให้แล้วเสร็จก่อน หลังจากนั้นหนึ่งเดือนค่อยกลับมาทำหน้าที่”

ที่จริงในใจของลู่ม่านยังมีเหตุผลอื่น หมู่บ้านไป่ฮัวเป็นสถานที่แห่งแรกที่นางอาศัยอยู่ตั้งแต่นางมาถึงที่นี่ นางคิดว่าที่นั่นเป็นบ้านของนางไปแล้ว

ไม่ว่าจะไปถึงที่ไหน ขอเพียงนึกขึ้นได้ว่าที่นั่นคือบ้านเกิดของนาง ก็เต็มไปด้วยความรู้สึกปลอดภัย

แต่ว่าตอนนี้ นางต้องจากที่นั่นมาอย่างกะทันหัน นางก็รู้สึกกลัวขึ้นมาเล็กน้อย รู้สึกกลัวต่ออนาคตที่ยังไม่รู้ว่าต้องเจอกับอะไร

แต่ก็ยังดี ลู่ม่านพยักหน้า “จื่ออาน เช่นนั้นพวกเราก็กลับกันเถอะ”

ยากมากที่ลู่ม่านจะเผยให้เห็นสีหน้าเช่นนี้ เฉินจื่ออานรีบพูดขึ้นมาว่า “เสี่ยวม่าน เจ้าเป็นอะไรไป ไม่สบายตรงไหนหรือไม่”

“ไม่เป็นไร ”ลู่ม่านส่ายหน้า “ข้าแค่ไม่อยากจะอยู่ที่นี่แล้ว”

“แต่ว่าการมาครั้งนี้ เจ้าบอกว่าจะคิดบัญชีเรื่องเงินปันผลของโรงงานไม่ใช่หรือ”

“ไม่เป็นไร”ตอนนี้ลู่ม่านไม่มีอารมณ์ที่จะคิดเรื่องการค้าเลยแม้แต่น้อย “ในเมื่อ การลงทุนของที่นั่นล้วนยืมมาจากเกษตรกร ตั้งแต่เมื่อปีที่แล้วจนตอนนี้ก็แค่ครึ่งปีเท่านั้น ฉะนั้นกำไรก็คงจะไม่เพียงที่จะจ่ายเงินที่ติดค้างไว้ก่อนหน้านี้แน่ ไปก็แค่ดูบัญชีเท่านั้น ข้าสามารถมาดูตอนที่กลับมาจากบ้านเราก็ได้ ”

“ได้ ถ้าเช่นนั้นพวกเราก็กลับกันตอนนี้เลย”

พูดแล้วก็ทำเลย เฉินจื่ออานให้เถียนโหย่วเต๋อไปเตรียมรถม้า ครั้งนี้พวกเขามาไม่ได้นำอะไรมาด้วย ขากลับก็ย่อมไม่มีสิ่งของกลับไปด้วยเช่นกัน

เถียนโหย่วเต๋อกับเถียนหวังซื่อยังคงรู้สึกตกใจอยู่บ้าง แต่มันก็เป็นเรื่องของเจ้านาย พวกเขาไม่มีสิทธิ์พูดอะไร

ก่อนจะจากไป เถียนหวังซื่อได้ยัดห่อผ้าห่อหนึ่งไว้ในรถม้า บอกว่าเป็นของที่ฝากให้เหอเยว่ ลู้ม่านจึงรับฝากกลับไป

ไม่ช้ารถม้าก็ออกเดินทางไปแล้ว และเจอกับรถม้าของบ้านข้างๆพอดี เลิกผ้าม่านขึ้น เงาร่างคุ้นเคยสายหนึ่งปรากฏขึ้นในสายตา ลู่ม่านนิ่งอึ้ง “นั่นมัน เฉิน...”

ไม่ได้พูดคำว่าจื่อคังออกมา เฉินจื่ออานก็ได้เอ่ยตัดบทของนางก่อน

“นั่นคือใต้เท้าซวน เขาก็มาเมืองหลวงด้วย ถูกฮ่องเต้แต่งตั้งเป็นเลขาฝ่ายตรวจสอบขุนนาง”

คิดไม่ถึงจริงๆ ผลงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของซวนเหวินลี่น่าจะเป็นการจงใจเป็นปรปักษ์กับเฉินจื่ออาน แต่ว่าคนอย่างนี้ ยังสามารถเลื่อนขั้นขุนนางได้

คิดแล้ว ลู่ม่านก็รีบถามขึ้นว่า “เลขาฝ่ายตรวจสอบขุนนางเป็นขุนนางระดับไหน”

“ขั้นห้าระดับสูง”เฉินจื่ออานพูด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน