ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 436

ลู่ม่านถูกคำพูดของเขาทำให้ตกตะลึง เมื่อก่อนนางคิดมาตลอดว่าเฉินสือซ่วนนั้นเป็นเด็กที่รักการเรียน ทำไมจึงอยากจะเป็นเด็กรับใช้บัณฑิตขึ้นมาอย่างกะทันหันเล่า

“สือซ่วน การเรียนหนังสือควรเป็นหน้าที่ที่เจ้าต้องทำ เจ้าอย่าได้ละทิ้งการเรียนของตนเอง เพียงเพราะท่านอาสามของเจ้ายังเด็ดขาด”

“ไม่ใช่ ข้าไม่ได้ทำเพื่อท่านอาสาม ”เฉินสือซ่วนพูด “ข้าทำเพื่อตัวข้าเอง

“ทำเพื่อตัวเจ้าอย่างนั้นหรือ”ลู่ม่านไม่เข้าใจ “ถ้าหากเจ้าทำเพื่อตนเอง ก็ควรจะตั้งใจเรียน ภายหน้าไม่ว่าจะเข้าร่วมการสอบจอหงวน หรือจะไปทำอย่างอื่นก็ล้วนทำได้”

“ไม่ ท่านน้าสามไม่เข้าใจ ที่จริงข้าไม่ได้ชอบเรียนเลย”เฉินสือซ่วนพูดขึ้น“ข้าอยากจะไปหาแม่ข้า ”

ลู่ม่านพูดไม่ออก ที่แท้เฉินสือซ่วนก็อยากจะไปหาจ้าวซื่อนั่นเอง

“แต่ว่านาง...”คำพูดหลังจากนั้น ลู่ม่านไม่ได้พูดออกไป จ้าวซื่อจะไม่ดีแค่ไหน ก็เป็นคนให้กำเนิดเฉินสือซ่วนมา คงไม่ดีหากนางจะพูดถึงด้านไม่ดีของแม่ต่อหน้าลูกเช่นนี้

“ข้ารู้ นางไม่ดี แต่ว่าเมื่อก่อนนางก็รักข้ากับเถาฮัวมาก นางยังไม่รู้ว่าเถาฮัวตายไปแล้ว”

เรื่องที่เถาฮัวตายแล้ว นอกจากพวกลู่ม่าน ก็มีแค่เฉินสือซ่วนที่รู้เรื่อง แม้แต่ตาแก่เฉินพวกเขายังคงปิดบังเอาไว้

ลู่ม่านขมวดคิ้ว “แล้วอย่างไรเล่า ไม่ว่าอย่างไรเถาฮัวก็กลับมาไม่ได้แล้ว”

“แต่ว่า ข้าอยากจะทำให้ความหวังของเถาฮัวเป็นจริง น้าสาม ท่านคงไม่รู้ ความหวังสูงสุดของเถาฮัวก่อนหน้านี้คือการให้แม่กลับมา พวกเราอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขเหมือนเมื่อก่อน เพราะฉะนั้น นางจึงจงใจหาเรื่องครั้งแล้วครั้งเล่า เพราะนางคิดว่าเป็นเพราะพวกท่าน จึงทำให้ท่านแม่ต้องจากไป นางคิดว่า ถ้านางกลายเป็นคนร้ายกาจแล้ว ท่านแม่ก็จะกลับมา”

“เพราะฉะนั้น ที่เจ้าอยากจะเป็นเด็กรับใช้ของท่านอาสามเจ้า ก็เพราะว่า เจ้าอยากจะเข้าเมืองหลวงใช่หรือไม่”

“ใช่”เฉินสือซ่วนพยักหน้า “พวกเขาต่างก็บอกกันว่า แม่ข้าทิ้งพวกข้าไปที่เมืองหลวง ไม่แน่ว่าแม่ข้ายังอยู่ที่เมืองหลวง ไม่แน่ นางยังคงหวังให้ข้าไปตามหานางก็ได้”

ความหวังของเฉินสือซ่วนนั้นสวยงามมาก ลู่ม่านต้องยอมรับจริงๆ แต่ว่า ที่จริงลู่ม่านยังอยากจะพูดอีกว่า เรื่องพวกนี้ล้วนเป็นแค่ความฝัน

“เรื่องนี้ข้าจะปรึกษากับอาสามของเจ้าก่อน ส่วนจะเอาอย่างไรนั้น ข้าค่อยบอกกับเจ้าอีกที”ลู่ม่านไม่ได้ให้คำตอบโดยตรง และไม่ได้ปฏิเสธออกไปทันที

ที่สำคัญคือเฉินสือซ่วนนั้น ปกติแล้วดูเป็นคนไม่ค่อยพูด แต่ว่าเป็นคนที่มีความคิดของตนเอง ถ้าหากเรื่องนี้เหมือนที่เขาพูดละก็ เขาคงจะคิดเรื่องนี้มานานแล้วอย่างแน่นอน

ถ้าหากนางปฏิเสธไปในทันที เกรงว่าจะทำให้เกิดความทรงจำไม่ดีในใจของเด็ก

เฉินสือซ่วนพยักหน้า “ได้ ท่านน้าสาม เช่นนั้นข้าจะรอคำตอบจากท่าน ”ว่าแล้ว เขาก็ไปช่วยงานโดยไม่สนใจใครอีก

คืนนั้น ทุกคนในหมู่บ้านต่างก็ไปเข้าร่วมงานเลี้ยงที่เฉินจื่ออานจัดขึ้น ตอนนี้ ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว เมื่อก่อนหากมีงานเลี้ยงก็เพียงเพื่อกินของอร่อย เพราะที่บ้านแต่ละคนไม่มีจะกิน

แต่ว่าคนในหมู่บ้านตอนนี้ต่างก็มีฐานะดีขึ้น ไหนเลยจะขาดแคลนเรื่องอาหารการกิน

คนที่มาที่นี่ ล้วนเพราะต้องการร่วมสร้างความคึกคัก

งานเลี้ยงคึกคักไปจนถึงกลางดึก จึงค่อยๆซาไป

วันรุ่งขึ้น เฉินจื่ออานก็ตั้งใจทำงานในไร่นาของตนเองอย่างเต็มที่ เมล็ดข้าวที่เคยแช่น้ำของชาวบ้านกับลู่ม่าน ตอนนี้ได้เริ่มทำการหว่านลงในนาแล้ว

ส่วนเมล็ดข้าวที่ไม่ได้แช่น้ำ ก็เติบโตได้ช้าอยู่บ้าง มีหลายคนที่ไม่ยอมเชื่อคำพูดของลู่ม่านในตอนนั้น รู้สึกเสียใจมาก

เห็นว่าต้นกล้าของบ้านลู่ม่านสามารถทำการปลูกได้แล้ว ทุกคนต่างก็ไปช่วยกัน หนึ่งคือต้องการจะดูว่าเมล็ดที่ได้รับการแช่น้ำมากอ่น มีการเจริญเติบโตที่ดีกว่าจริงหรือไม่

อีกหนึ่งสาเหตุคือเพื่อที่จะกระชับความสัมพันธ์กับพวกลู่ม่าน ทำเช่นนี้แล้วครั้งหน้าหากบ้านลู่ม่านมีความคิดใหม่ๆในการทำเกษตร เมื่อทำเช่นนี้ครั้งหน้าลู่ม่านจะได้บอกวิธีการต่างๆให้พวกเขารู้ด้วย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน