ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 456

สรุปบท บทที่ 456 นิสัยเดิมยากจะเปลี่ยน: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน

ตอน บทที่ 456 นิสัยเดิมยากจะเปลี่ยน จาก ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 456 นิสัยเดิมยากจะเปลี่ยน คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายประวัติศาสตร์ ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน ที่เขียนโดย ฝูเชิง เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

เถ้าแก่สงเองก็คงคิดไม่ถึงว่า ลู่ม่านจะไม่ให้โอกาสเขาเลย

แต่เขายังคงแสร้งทำเป็นสงบนิ่งและพูดว่า “พี่สะใภ้สาม หลายวันก่อนหลิ่วเอ๋อยังบ่นว่าคิดถึงท่าน อยากจะไปเยี่ยมอยู่เลย …”

“สงโส่วเซิง!” ลู่ม่านพูดขัดขึ้นมา “เหตุการณ์เป็นอย่างไร ไปคุยกันที่ศาลเถอะ!” หลังจากพูดจบนางก็หันหลังไปทันที

พวกที่ไม่กล้าพูดเรื่องที่เคยถูกรังแกตอนนี้เริ่มพูดออกมาแล้ว พวกเจ้าหน้าที่เห็นอย่างนี้ พวกเขาจึงเข้าใจทันที ถ้าพวกเขายังไม่ทำอะไรจุดจบของพวกเขาต้องไม่ดีแน่นอน

เขาก้าวไปข้างหน้าและจับกุมสงโส่วเซิงไว้ ก่อนจะพาพวกเขาออกไปด้วยกัน

ทันทีที่พวกเขาจากไป ผู้คนที่ยืนมุงดูอยู่ก็เริ่มส่งเสียงเชียร์ลู่ม่าน “ขอบคุณลู่อันเหริน ขอบคุณลู่อันเหริน”

ลู่ม่านโบกมือและจากไปพร้อมกับสาวใช้ทั้งสอง

ด้วยเหตุนี้ หรูอวี่จึงไม่กล้าจงใจแกล้งหรูเฟิงให้อับอายอีก พวกนางรีบซื้อผ้าที่ต้องการให้เสร็จ จากนั้นก็รีบกลับบ้านทันที

หลังจากกลับมาถึงบ้าน ลู่ม่านก็บอกให้หรูอวี่นำผ้าไปให้เถียนหวังซื่อกับเถียนโหย่วเต๋อตกลงกันแล้วตั้งแต่แรก ว่าจะทำเสื้อผ้าชุดใหม่สำหรับทุกฤดูกาลไม่ว่าจะเป็นฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว

จากนั้นลู่ม่านก็บอกให้หรูเฟิงกับหรูอวี่เตรียมของที่จะส่งกลับไปที่หมู่บ้านไป่ฮัว

รวมถึงส่วนของตาแก่เฉิน และเรือนพักในอำเภอ

ที่จริงแล้วเดิมที ส่งเงินกลับไปให้ก็เหมือนกัน แต่ลู่ม่านคิดว่าผ้าในเมืองหลวงเนื้อผ้าดี นางจึงอยากส่งกลับไปบ้าง

หลังจากเตรียมพร้อมแล้ว ลู่ม่านก็ไปที่โรงงานนอกชานเมืองอีกครั้ง

และมีรถจากโรงงานในหมู่บ้านไป่ฮัวมาถึงในอีกไม่กี่วันนี้ข้างหน้า และมีรถที่จะกลับไปด้วย ลู่ม่านเอาของให้คนขับและออกมาพร้อมกับหรูอวี่

แต่เพิ่งเดินไปเพียงไม่กี่ก้าว นางก็เห็นจวงลี่จ้ง

เพราะครั้งที่แล้วเขาโกรธลู่ม่านไม่น้อย ลู่ม่านแทบไม่เคยไปหาเขาเลย พอเห็นลู่ม่านในครั้งนี้ เขาก็ยังคงสีหน้าเรียบนิ่ง

หรูอวี่เป็นคนทักทายก่อน “คุณชายจวง”

จวงลี่จ้งตอบเพียงอืมเบาๆ แล้วมองไปที่ลู่ม่านอีกครั้ง

"วันนี้เจ้าไปมีเรื่อง แล้วแจ้งทางการจับคนเข้าคุกอย่างนั้นหรือ"

ลู่ม่านตกตะลึง “ข่าวเร็วจริง ท่านรู้แล้วหรือ?”

จวงลี่จ้งพ่นลมหายใจออกมา “ไม่ใช่แค่ข้า แต่ข้าเดาว่าตอนนี้คนทั้งเมืองหลวงคงรู้เรื่องนี้แล้ว ทุกคนยังพูดว่า เจ้าทำได้ดีมากอยู่เลย!”

ตามหลักแล้ว นี่มันไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร แต่น้ำเสียงของจวงลี่จ้ง กลับแฝงไปด้วยการเสียดสี

ลู่ม่านขมวดคิ้ว และจวงลี่จ้งก็พูดเสริม “การคัดเลือกในปีนี้ เฉินจื่ออานเข้ารับตำแหน่งซือหนง ก็ทำให้หลายคนอิจฉาแล้ว ถ้าเป็นจุดสนใจมากเกินไป มันจะสร้างความไม่พอใจให้กับผู้อื่นได้”

ลู่ม่านเองก็คิดถึงจุดนี้เช่นกัน ในตอนนั้นนางเพียงแค่อยากลงโทษสงโส่วเซิง แต่นางไม่ได้คิดว่ามันจะสร้างเรื่องได้ถึงเพียงนี้

“ขอบคุณคุณชายจวงที่เตือน ข้าเข้าใจแล้ว” ลู่ม่านพูด

พอได้ยินเช่นนี้ จวงลี่จ้งก็พยักหน้า หลังจากมองดูลู่ม่านเดินจากไป เขาก็เดินจากไปเช่นกัน

พอลู่ม่านกลับถึงบ้าน นางก็ถามเถียนหวังซื่อทันที “นายท่านกลับมาแล้วหรือยัง”

“นายท่านอยู่ในห้องหนังสือเจ้าค่ะ” เถียนหวังซื่อบอก ลู่ม่านรีบเดินเข้าไป พอเปิดประตู เฉินจื่ออานก็พูดออกมาก่อน

“เสี่ยวม่าน วันนี้เจ้ามีเรื่องกับตระกูลสงในย่านใจกลางเมืองใช่หรือไม่?”

แน่นอนว่าแม้แต่เฉินจื่ออานก็รู้

ในขณะที่กำลังกอดกันอยู่ จู่ๆ ก็มีเสียงดังเอะอะโวยวายด้านหน้าบ้าน จากนั้นก็มีเสียงโกรธของเถียนโหย่วเต๋อดังขึ้นมา “ฮูหยิน นายท่านกับนายหญิงกำลังคุยธุระกันอยู่ในห้องหนังสือ ถ้าท่านมีธุระ ข้าจะเข้าไปแจ้งให้...”

ก่อนที่เถียนโหย่วเต๋อจะพูดจบ เสียงที่แหลมคมของเฉินหลิ่วเอ๋อก็ดังขึ้นมา

“ลู่ม่าน ออกมาเดี๋ยวนี้นะ ในเวลาเช่นนี้ เจ้ามัวหดหัวเป็นเต่าอยู่ในกระดองได้อย่างไร?”

เฉินจื่ออานขมวดคิ้วและกำลังจะลุกขึ้น “หลิ่วเอ๋อทำเกินไปแล้ว!”

“ข้าไปจัดการเอง!” ลู่ม่านห้าเฉินจื่ออาน “นี่เป็นสงครามระหว่างผู้หญิง เจ้าอย่าออกมา”

หลังจากพูดจบนางก็ลุกขึ้นจัดเสื้อผ้าแล้วเดินออกไป

ทันทีที่ประตูเปิดออก เฉินหลิ่วเอ๋อก็ตะโกนขึ้นมา เจ้าอยากพิสูจน์ตัวเองมีตั้งหลายวิธี ทำไมต้องทำร้ายข้าด้วย”

ลู่ม่านขมวดคิ้ว “เจ้าบอกว่าข้าทำร้ายเจ้า?”

“แล้วไม่ใช่เจ้าที่ทำร้ายข้าหรือไง รู้ไหมว่าข้าใกล้จะคลอดเร็ว ๆ นี้แล้ว แต่เจ้ากลับส่งพ่อของลูกข้าเข้าคุก เจ้าจะให้ข้าสองแม่ลูกอยู่อย่างไร”

“เจ้าบอกว่าข้าทำร้ายเจ้า งั้นข้าขอถามเจ้าบ้าง เขาใช้ชื่อเสียงของพี่ชายเจ้ามาหลอกลวงผู้อื่น เจ้าเองก็รู้เรื่องนี้ดีสินะ สถานการณ์ของพี่ชายเจ้าในตอนนี้ ถึงจะบอกว่าเป็นขุนนางขั้นสาม แต่ความอันตรายในราชสำนักมีมากแค่ไหนเจ้าน่าจะรูดี ถ้าชื่อเสียงเสียหาย ชีวิตก็จะอันตรายกว่าคนทั่วไปมาก เจ้าอยากปกป้องครอบครัวของเจ้า แล้วทำไมข้าจะปกป้องครอบครัวของข้าบ้างไม่ได้?”

“นี่เจ้า...” เฉินหลิ่วเอ๋อโมโหมาก “ถึงเจ้าอยากจะปกป้องครอบครัว แต่ก็ไม่ควรจะส่งสามีของข้าเข้าคุกเช่นนี้ เจ้ารีบคิดหาวิธีช่วยเขาออกมาเดี๋ยวนี้เลยนะ!” เฉินหลิ่วเอ๋อตะโกนลั่น

เฉินหลิ่วเอ๋อที่เห็นแก่ตัวเช่นนี้ ลู่ม่านไม่ได้เห็นมาเป็นเวลานานแล้ว นานเสียจนนางคิดว่าอีกฝ่ายจะเปลี่ยนไปแล้ว

แต่นางลืมไปว่าคำหนึ่งว่า “นิสัยของคนเรานั้นเปลี่ยนแปลงยาก”

เมื่อก่อนนางไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน เพราะไม่มีอะไรมาแตะต้องผลประโยชน์ของนาง แต่ว่า มาเจอกันอีกครั้งมาตอนนี้ ธาตุแท้ของนางก็เปิดเผยออกมา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน