ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 458

สรุปบท บทที่ 458 ซุปหมาล่า: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน

สรุปตอน บทที่ 458 ซุปหมาล่า – จากเรื่อง ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน โดย ฝูเชิง

ตอน บทที่ 458 ซุปหมาล่า ของนิยายประวัติศาสตร์เรื่องดัง ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน โดยนักเขียน ฝูเชิง เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

อาหารยกมาเสิร์ฟเร็วมาก และเป็นน้ำซุปเช่นเดิม ตามคำแนะนำของลู่ม่านคือเปลี่ยนน้ำซุปเผ็ดออกแล้วแทนที่ด้วยน้ำซุปเข้มข้น

แล้วเตรียมพวกเส้นหมี่ ถั่วป่น ผัก ฯลฯ เหมาะสำหรับประกอบอาหารและทานในน้ำซุป

ซุปสีขาวน้ำนมที่จับคู่กับผักสีเขียว และสีเหลืองจากผลิตภัณฑ์ถั่วเหลือง แค่เห็นก็ทำให้อยากขยับนิ้วทันที

“นายหญิง ท่านอยากกินอะไร ข้าจะต้มให้...”

หรูอวี่ใส่ใจมาก ลู่ม่านกล่าวด้วยรอยยิ้ม “จริงหรือ งั้นเจ้าก็ต้มหนังเต้าหู้กับผักให้ข้าด้วย”

หรูอวี่ก็ยุ่งสักพักชามเล็กๆ ก็เต็มไปด้วยอาหาร

ลู่ม่านคีบขึ้นมาชิ้นหนึ่ง แล้วพูดอย่างจงใจ “หอมมากเลย อร่อยมากด้วย”

หรูอวี่อดกลืนน้ำลายไม่ได้ “นายหญิง ท่านยังอยากได้อย่างอื่นเพิ่มไหม”

“พอแล้ว!” ในที่สุดลู่ม่านก็หยุดแกล้งนาง “ที่นี่ไม่มีคนนอก พวกเจ้าสองคนทำไมต้องนั่งไกลถึงขนาดนี้ มากินข้าวด้วยกันสิ”

หรูอวี่เตรียมจะเดินไป แต่หรูเฟิงคว้านางไว้ก่อน “นายหญิง ท่านกินคนเดียวจะดีกว่าเจ้าค่ะ!”

“หม้อไฟต้องกินด้วยกันถึงจะมีความสุข กินคนเดียวจะสนุกได้อย่างไร”

ตามคำขอที่เด็ดขาดของลู่ม่าน ในที่สุดทั้งสามก็นั่งลงและกินข้าวด้วยกันอย่างเอร็ดอร่อย

ต้องบอกว่าความเข้มข้นของน้ำซุปนี่ดีดีมากจริงๆ ไม่มีความรู้สึกเหมือนเติมน้ำอะไรเข้าไปเพิ่ม เป็นแค่น้ำซุปกระดูกที่เข้มข้น

กลิ่นหอมตามธรรมชาติ รสชาติช่างอร่อยมากจริงๆ

พอเห็นหรูอวี่ทานอาหารอย่างมีความสุข ลู่ม่านก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง “ไปเอาผักมาเพิ่มเถอะ”

หรูอวี่รีบเดินออกไป รอจนหรูอวี่เดินออกไป หรูเฟิงถึงพูดขึ้นมา “นายหญิง ท่านตามใจหรูอวี่เกินไปแล้ว”

“ทำไม เจ้าหึงหรือ” ลู่ม่านยกยิ้ม

“ไม่ใช่นะเจ้าคะ!” แก้มของหรูเฟิงแดงก่ำ “แม่ของข้ากับหรูอวี่จากไปตั้งแต่พวกเรายังเด็ก พวกเราตามท่านพ่อมาตั้งแต่ยังเด็ก ไม่มีใครดีต่อเราขนาดนี้มาก่อน ข้าไม่เคยรู้สึกถึงความอบอุ่นเช่นนี้มาก่อน แต่ตอนนี้ท่านใจดีกับนางมาก ในอนาคตถ้าต้องจากกันไป พวกเราคง …”

“จะจากกันไปได้อย่างไร” ลู่ม่านกลอกตาใส่หรูเฟิง “ในอนาคตข้าจะหาคู่ชีวิตที่ดีให้พวกเจ้า พวกเจ้ายังเป็นน้องสาวของข้าเสมอ...”

“นายหญิง...” ดวงตาของหรูเฟิงเป็นแดงก่ำ “นายหญิง ข้าเข้าใจแล้วเจ้าค่ะ”

ทั้งสองกำลังคุยกันอยู่หรูอวี่ก็กลับมา ตามด้วยจ้าวซื่อที่เขามาเสิร์ฟอาหาร

พอเห็นอย่างนี้ ลู่ม่านกับหรูเฟิงก็ตกใจไปเล็กน้อย หรูอวี่รีบอธิบาย “ตอนนี้นางช่วยงานเสิร์ฟอาหารในร้าน…”

ลู่ม่านไม่พูดอะไร จ้าวซื่อช่วยวางอาหารลงทีละจาน แล้วพูดว่า “ถ้าพวกเจ้าอยากได้อะไร เพิ่มก็เรียกข้าได้ ข้ายืนรออยู่ข้างนอก”

พูดจบนางก็เดินออกไปทันที ลู่ม่านอดที่จะเลิกคิ้วขึ้นไม่ได้ จ้าวซื่อเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ

หลังจากทานอาหารได้สักพัก พวกลู่ม่านก็เริ่มอิ่มแล้ว

“ไปสั่งกลับบ้านเพิ่ม แล้วเอาไปให้จื่ออาน พวกเขากำลังยุ่งอยู่กับการศึกษาเมล็ดพันธุ์คงจะลำบากน่าดู” แล้วอีกอย่าง อันนี้ก็อร่อยมากด้วย

หรูอวี่กำลังยุ่งอยู่กับการเรียกให้ผู้คนไปเตรียมการ และในช่วงเวลาไม่นานจ้าวซื่อก็นำของที่ห่อไว้มาให้

ในยุคนี้ไม่มีกล่องอาหาร ดังนั้นบรรจุภัณฑ์ของพวกเขาจึงเป็นกล่องอาหาร ต้องจ่ายค่ามัดจำไว้ที่นี่ พอกินเสร็จ แล้วเอากล่องมาคืนทางร้านก็จะคืนเงินมัดจำให้

“นายหญิง นี่เจ้าค่ะ!” จ้าวซื่อพูดอย่างเคารพ

“ข้าพูดมากตรงไหน” ทั้งสองทะเลาะกันอีกครั้ง ลู่ม่านครุ่นคิด การได้ทะเลาะกันบ้าง นี่ถึงเรียกว่าครอบครัวเดียวกัน?

ตอนที่ทั้งสามออกมาก็เกือบเที่ยงแล้ว ตอนเที่ยง เฉินจื่ออานทานอาหารที่โรงอาหาร แต่ด้วยความเคยชินของเขา ทำให้เขาไม่ยอมสั่งอาหารที่ดีเกินไป

พอลู่ม่านไปถึง เฉินจื่ออานกำลังนั่งกินข้าวข้างเมล็ดพันธุ์ และเหม่อลอยไปด้วย

นางรีบรับกล่องอาหารจากมือของหรูอวี่ ลู่ม่านจงใจเดินเข้าไปทำความเคารพ “คารวะท่านซือหนง”

“ไม่ต้องมากพิธี...” เฉินจื่ออานพูดโดยไม่เงยหน้าขึ้น

วินาทีต่อมา เขาก็เงยหน้าขึ้นด้วยความประหลาดใจ พอเห็นลู่ม่านเขาก็ยิ้มกว้าง “เสี่ยวม่าน ทำไมเจ้าถึงมาที่นี่” เฉินจื่ออานรีบวางชามในมือลง แล้วลุกขึ้นเดินไปหา

“ใต้เท้างานยุ่งมากเลยหรือ?” ลู่ม่านยังคงพูดหยอกล้อ

เฉินจื่ออานอดที่จะบีบจมูกของลู่ม่านอย่างเอ็นดูไม่ได้ “เด็กซน!”

หรูเฟิงกับหรูอวี่ที่อยู่ข้างหลังเห็นฉากนี้ ก็เดินออกไปอย่างรู้ตัว จากนั้นลู่ม่านก็วางกล่องอาหารลงบนโต๊ะแล้วพูดว่า “สงโส่วเซิงถูกปล่อยตัวออกมาแล้วและหลิ่วเอ๋อตามเขากลับไปแล้ว”

เฉินจื่ออานชะงักไปเล็กน้อยแล้วมองไปทางลู่ม่าน “ที่เจ้าออกไปตั้งแต่เช้าก็เพราะเรื่องนี้หรือ”

“ก็ประมาณนั้น!” ลู่ม่านหัวเราะ “ข้าไปกินของอร่อยๆ มาด้วย” ในขณะที่นางพูด นางก็ยกของที่นางนำมาออกมา

เพราะคิดว่าเฉินจืออานคงไม่มีหม้อสำหรับทำอาหารที่นี่ ดังนั้นอาหารที่นำมาด้วยจึงทำการปรุงสุกแล้ว และล้วนแต่เป็นอาหารที่เฉินจื่ออานชอบด้วย

รูปลักคล้ายกับซุปหมาล่าในปัจจุบัน เพียงแต่น้ำซุปนี้เป็นน้ำซุปกระดูกเข้มข้นเท่านั้นเอง

เฉินจื่ออานไม่สนใจการเปลี่ยนหัวข้อสนทนาของลู่ม่าน และจับมือของลู่ม่านไว้อย่างจริงจัง “เสี่ยวม่าน ข้ารู้ว่าไม่ควรกล่าวขอบคุณ แต่ว่า ข้าก็ยังอยากขอบคุณเจ้าอยู่ดี ข้ารู้ว่าเป็นเพราะข้า เจ้าถึงได้ไป”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน