ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 48

สรุปบท บทที่ 48 แลกเปลี่ยน: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน

สรุปเนื้อหา บทที่ 48 แลกเปลี่ยน – ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน โดย ฝูเชิง

บท บทที่ 48 แลกเปลี่ยน ของ ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน ในหมวดนิยายประวัติศาสตร์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ฝูเชิง อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

เพราะมีรถเกวียน การเดินทางจึงไวกว่าปกติอย่างมาก ตอนที่มาถึงในตำบล ตลาดเช้าเพิ่งเริ่มเปิด

ตลอดทางล้วนขายของกินเล่น ตลอดทั้งเส้นทางมีทั้งขนมนึ่ง ขนมเปี๊ยะ เกี๊ยวกับบะหมี่น้ำ ดมกลิ่นดูแล้วก็น่ากินอย่างมาก จนลู่ม่านรู้สึกหิว

ยังไงตอนนี้ร้านยาฉืออานก็ยังไม่เปิดร้าน ลู่ม่านจึงเสนอให้ไปทานข้าวเช้ากันก่อน

หลังจากเฉินจื่อฉายเอารถเกวียนไปเก็บเรียบร้อยแล้ว ก็โบกมือพร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าไม่กิน พวกเจ้าไปกินเถอะ” นิสัยของเฉินจื่อฉายค่อนข้างเหมือนตาแก่เฉิน ประหยัดมัธยัสถ์

แต่ความคิดอ่านไม่เหมือน เขาค่อนข้างซื่อตรง

สุดท้าย ลู่ม่านอ้างว่าไม่มีคนเข็นเฉินจื่ออาน จึงพาเขาไปด้วย

หลังจากทานอิ่มกันแล้ว ทั้งสามคนค่อยไปที่ร้านยาฉืออาน

ท่านออกมาพอดี มองเห็นลู่ม่าน เขาก็ยิ้มหัวเราะพร้อมพูดขึ้นว่า “วันนี้แม่นางมาเช้าจัง คงไม่ได้มาส่งดอกเก๊กฮวยป่าใช่ไหม?” แล้วสายตาก็หันไปมองเฉินจื่ออานกับเฉินจื่อฉายที่อยู่ข้างหลังลู่ม่าน พร้อมพูดขึ้นว่า “หรือว่ามาเพื่อแม่สามีของเจ้า?”

ท่านอู๋พูดแทงใจดำ ลู่ม่านจึงไม่อ้อมค้อม พยักหัวพร้อมพูดขึ้นว่า “ใช่”

ท่านอู๋ฟังแล้วก็ลูบเคราด้วยความชื่นชม พร้อมกับส่ายหัวพูดขึ้นว่า “ข้าคงช่วยเจ้าไม่ได้แล้ว”

ลู่ม่านก็พูดขึ้นอย่างไม่ยืดเยื้อว่า “ท่านอู๋ไม่เห็นหรือว่า วันนี้ข้ามีอะไรไม่เหมือนเดิม?”

ท่านอู๋อึ้ง สายตากวาดมองทั้งสามคน แล้วสุดท้ายก็จ้องมองรถเข็นคันที่เฉินจื่ออานนั่งอยู่คันนั้น เขารีบเดินหน้าไปหลายก้าว พิจารณาดูรถเข็นคันนั้นยังสนใจ

“นี่คือ?”

เฉินจื่ออานเห็นเช่นนี้ ในที่สุดก็เข้าใจความตั้งใจของเสี่ยวม่าน จึงพูดต่อขึ้นว่า “นี่คือรถเข็น”

“รถเข็น?” ท่านอู๋ชื่นชอบอย่างมากพร้อมพูดขึ้นว่า “สามารถเคลื่อนไหวได้เหมือนอย่างรถไหม?”

“ใช่” เฉินจื่ออานพูดขึ้น พร้อมกับแสดงให้ดูตรงหน้าร้าน พอดีมีคนผ่านไปมา ต่างก็ให้ความสนใจกับสิ่งแปลกใหม่นี้มาก

ผู้ดูแลร้านได้ยินเสียงจึงเดินออกมาจากหลังร้าน เห็นภาพนี้แล้วก็แปลกประหลาดใจอย่างมาก ในฐานะที่เป็นผู้ดูแลร้าน สิ่งที่เขาสนใจก็คือมูลค่าทางธุรกิจ เขาจึงรีบพูดขึ้นว่า “ท่านอู๋ เชิญพวกเขาเข้ามาคุยกันข้างในดีไหม?”

ท่านอู๋ได้ยินเช่นนี้ ก็พยักหัว แล้วก็พาพวกเขาเดินเข้าไป

เฉินจื่อฉายยิ้มหัวเราะพร้อมพูดขึ้นว่า “จื่ออาน คิดไม่ถึงว่าจะราบรื่นขนาดนี้”

เฉินจื่ออานกลับค่อนข้างเศร้า เขารู้ว่า สิ่งที่ราบรื่นขนาดนี้ล้วนเป็นเพราะลู่ม่านใช้รถเข็นคันนี้แลกมา เฉินจื่ออานไม่ได้โง่ และเพราะก่อนหน้านี้ตอนที่งานไม่ยุ่ง เขามักจะไปทำงานในอำเภอ ดังนั้นเขาจึงค่อนข้างมีความรู้

เขารู้ว่า ผลิตภัณฑ์ใหม่บางอย่าง หาได้ยากยิ่งกว่าเงิน แต่ตอนนี้เสี่ยวม่านจะเอารถเข็นคันนี้ไปแลกกับแม่แล้ว

คิดถึงสิ่งที่แม่เคยทำกับลู่ม่านพวกนั้น เขาก็ยิ่งรู้สึกผิด

เมื่อเทียบกันแล้ว ที่จริงลู่ม่านไม่มีความรู้สึกกดดันเหมือนอย่างเฉินจื่ออาน นางมีความคิดเยอะแยะมากมาย ไม่ได้คาดหวังว่าจะใช้รถเข็นหาเงิน ยิ่งไปกว่านั้น ที่นางมาในครั้งนี้ ไม่ได้ทำเพื่อเฉินหลี่ซื่อทั้งหมด

ท่านอู๋ของร้านยาฉืออานนี้ ก่อนหน้านี้เคยช่วยเหลือเฉินจื่ออาน นางยังจำได้ดี

ทั้งสามคนถูกเชิญไปนั่งข้างในร้าน ผู้ดูแลร้านพูดขึ้นมาว่า “รถสองล้อคันนี้ พวกเจ้าเอามาจากไหน?”

รถสองล้อ? ชื่อนี้ฟังดูแล้วก็ไม่ผิด

ลู่ม่านไม่พูดอะไร แต่หันไปมองเฉินจื่ออาน ตั้งแต่หลังจากเรื่องเมื่อวาน นางพบว่าตอนที่เฉินจื่ออานจัดการเรื่องต่างๆ จะค่อนข้างสงบเงียบ ดังนั้น จึงให้เขาฝึกฝนบ้างดีกว่า

มองเห็นสายตาของลู่ม่าน เฉินจื่ออานคิดดูแล้วค่อยพูดขึ้นว่า “เพราะขาของข้าบาดเจ็บเดินไม่สะดวก ภรรยาของข้าจึงคิดค้นขึ้นมา”

ไม่ได้บอกว่าตั้งใจทำขึ้นมา ไม่อยากให้ลู่ม่านตกเป็นเป้าสนใจ ถือว่าไม่เลว

ถึงแม้จะพูดเช่นนี้ พวกเฉินจื่ออานก็ยังของไปซื้อพวกขนมผลไม้แล้วก็เอาไปให้

แน่นอน เงินที่ซื้อของพวกนี้เฉินจื่อฉายเป็นคนจ่าย ตอนเช้าตอนที่พวกเขาออกเดินทางมา ตาแก่เฉินให้เขาไว้

จัดการเรื่องราวเสร็จแล้ว ทั้งสามคนขอบคุณผู้ดูแลร้านกับท่านอู๋แล้วก็จากไป

แล้วก็ไม่รอช้า ทั้งสามคนตรงไปยังคุกในตำบล เฉินหลี่ซื่อถูกปล่อยออกมาแล้ว เพราะถูกจำคุกทั้งคืน ผมเพ้าของนางยุ่งเหยิง แลดูย่ำแย่อย่างมาก

พูดถึงชาวบ้านธรรมดา เดิมก็กลัวขุนนางอยู่แล้ว ยิ่งคนที่ไม่มีความรู้อะไรเลยอย่างเฉินหลี่ซื่อ วางมาดอยู่ในหมู่บ้านมาตลอด แต่เมื่อมาอยู่ต่อหน้าขุนนางกับขี้ขลาดอย่างมาก

เฉินจื่อฉายเคยเห็นเฉินหลี่ซื่อในสภาพแบบนี้เสียเมื่อไหร่ รีบก้าวเดินไปหาพร้อมพูดขึ้นว่า “แม่ แม่ไม่เป็นไรใช่ไหม”

เฉินหลี่ซื่ออึ้ง ทันใดนั้นก็ได้สติกลับมา แล้วก็เรียกขึ้นอย่างระแวดระวังว่า “จื่อฉาย?”

“ใช่ ข้าเอง” เฉินจื่อฉายประคองเฉินหลี่ซื่อไว้ พร้อมพูดขึ้นว่า “ท่านไม่เป็นไรใช่ไหม”

เฉินหลี่ซื่อค่อยมั่นใจว่าคนตรงหน้าคือเฉินจื่อฉายจริงๆ ทันใดนั้นก็ร้องไห้ออกมาพร้อมพูดขึ้นว่า “จื่อฉาย แม่ทำผิดไปแล้ว.....”

“กลับบ้านกัน กลับบ้านไปก็ไม่เป็นไรแล้ว”

ในใจเฉินจื่ออานก็รู้สึกไม่ดี แต่เคยถูกเฉินหลี่ซื่อทำลายอย่างลึกมาก เขาจึงเพียงมองดูอย่างเป็นห่วง ไม่ได้เข้าไปหา

ลู่ม่านมองเห็นสภาพของเฉินจื่ออานในตอนนี้ ใจคิดว่า ที่จริงในใจเฉินจื่ออานคงให้อภัยเฉินหลี่ซื่อแต่แรกแล้ว ขอเพียงตอนนี้เฉินหลี่ซื่อมาคุยกับเขา เขาก็จะใจอ่อน

ยังไงก็เป็นแม่ลูกกัน

ในขณะที่กำลังคิดอยู่ เฉินหลี่ซื่อหยุดร้องไห้ เงยหน้าขึ้นมา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน