ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 496

“ใครน่ะ?” เป๋าจ่างร้องตะโกนด้วยความตกใจ

เพิ่งจะสิ้นเสียง เฉินจื่ออานกับลู่ม่านก็เดินเข้าไป

เมื่อเห็นว่าเป็นพวกลู่ม่าน ดวงตาของเป๋าจ่างก็เบิกกว้างด้วยความตื่นตระหนก ระคนตกใจทันที "ทำไมพวกเจ้าถึงมาอยู่ข้างนอกได้? มาตั้งแต่เมื่อไหร่? ใครก็ได้! รีบมาที่นี่เดี๋ยวนี้ .... "

“ไม่ต้องตะโกนเรียกหรอก!” ลู่ม่านขัดจังหวะ “พวกผู้คุ้มครองบ้านเจ้าต่างก็ไปกินเลี้ยงมื้อใหญ่บ้านท่านป้ากันหมดแล้ว นอกจากนี้ พวกเราก็มากันตั้งนานแล้วด้วย ได้ยินบทสนทนาทั้งหมดที่พวกเจ้าคุยกันเมื่อครู่แล้ว ชัดเจนแบบไม่มีตกหล่นแม้แต่คำเดียว”

“เจ้า….” เป๋าจ่างโกรธจัดจนไอหนัก ๆ ออกมาเป็นชุด "พวกเจ้าคิดจะเอายังไงกันแน่??"

“ข้าก็คิดว่าจะมาช่วยชีวิตเจ้าน่ะสิ!” ลู่ม่านพูด

“เจ้าอย่ามาพูดจาเหลวไหล ข้าก็อยู่ของข้าดี ๆ ทำไมถึงต้องให้เจ้ามาช่วยชีวิตด้วยล่ะ?” เป๋าจ่างพูดอย่างไม่เห็นด้วย

“ตอนนี้เจ้าก็ยังมีชีวิตอยู่ดี ๆ นี่แหล่ะ แต่ถ้าข่าวที่ว่าเจ้ายังไม่ตายแพร่กระจายไปถึงเมืองหลวงเมื่อไหร่ ไม่นานจากนี้เจ้าก็จะตกอยู่ในอันตรายแล้วล่ะ ข้าเห็นแก่ที่ครั้งก่อนช่วงระหว่างความเป็นความตาย เจ้าเกิดมีมโนธรรมสำนึกตัวได้เลยอยากจะช่วยเจ้า ดังนั้นเจ้าควรจะคว้าโอกาสนี้เอาไว้ให้ดีนะ เพราะถ้าผ่านครั้งนี้ไป ก็จะไม่มีโอกาสครั้งใหม่อีกต่อไปแล้ว!"

"ข้าไม่ต้องการให้เจ้าช่วยหรอก!" เป๋าจ่างพูด

“จริงรึ? เรื่องที่ข้าพูดไปเมื่อครู่ เจ้าไม่คิดจะใคร่ครวญใหม่ให้ละเอียดอีกสักครั้งรึ ? อ๋องหนิงจับตัวภรรยากับลูกของเจ้าไป แล้วสั่งให้เจ้าไปทำเรื่องชั่วร้าย เวลาต่อมาเจ้าถูกพวกเราจับตัวไว้ อ๋องหนิงคิดว่าเจ้าตายแล้ว จึงทิ้งภรรยากับลูก ๆ ที่ไร้ประโยชน์แล้วของเจ้าไปให้พ้นทาง แต่ถ้าเจ้าไม่ตายล่ะ? เจ้าเองก็คงถูกฆ่าปิดปากไปแล้ว เจ้าไม่จำเป็นต้องเชื่อข้าก็ได้นะ เพราะในใจของเจ้าเองก็ควรจะรู้ดีอยู่แล้ว!”

พูดจบ ลู่ม่านก็หันหลังกลับไปแล้วพูดว่า “ไปกันเถอะ จื่ออาน ข้าเหนื่อยแทบตายแล้ว กลับบ้านนอนดีกว่า!”

“นี่...” เป๋าจ่างรีบเดินตามไปทันที

เฉินจื่ออานพูดว่า "เป๋าจ่าง เรื่องนี้ควรทำอย่างไร เมื่อครู่เสี่ยวม่านก็พูดไปชัดเจนแล้วนะ วันมะรืนนี้ พวกเราก็จะกลับเมืองหลวงกันแล้ว ถ้าหากว่าเจ้าคิดได้ อยากจะมากับพวกเราข้าก็ไม่ห้าม"

เมื่อพูดประโยคนั้นจบ เฉินจื่ออานก็ตามลู่ม่านออกไปทันที

วันรุ่งขึ้น เป๋าจ่างยังคงตกอยู่ในสภาวะค้างคาไม่ก้าวหน้าไปไหน จากนั้นก็มีรถม้าหลายคันวิ่งตะบึงมาที่หมู่บ้านอย่างยิ่งใหญ่เอิกเกริก ตาแก่เฉินลงจากรถม้า ก่อนจะมองเฉินจื่ออานด้วยสีหน้าชื่นอกชื่นใจ “ข้าคิดว่าหลังจากน้ำท่วมพ้นไป คงต้องการเมล็ดพันธุ์แน่ ๆ ดังนั้นก็เลยเอามาให้พวกเจ้า! พวกนี้เป็นเมล็ดพันธุ์ที่เติบโตในที่ดินของบ้านเราในปีนี้ เป็นเมล็ดพันธุ์ที่ดีมาก…”

“ท่านพ่อ...” เฉินจื่ออานพูดเสียงเครือ

“เอาเถอะ ๆ เจ้าล้วนคิดอ่านเพื่อประชาชน ข้าที่เป็นพ่อก็ไม่ควรทำตัวล้าหลังสิ ใครใช้ให้ลูกชายของข้าเป็นซือหนงของยุคก่อนราชวงศ์ถังเราล่ะ?”

พอมีเมล็ดพันธุ์ ทุกอย่างก็สะดวกขึ้นมาก เฉินจื่ออานได้สอนถึงประสบการณ์ทั้งหมดในการปลูกข้าวที่หมู่บ้านไป่ฮัวก่อนหน้านี้ให้ทุกคน หลังจากมั่นใจแล้วว่าทุกคนเรียนรู้จนเข้าใจกระจ่างดีแล้ว เขากับลู่ม่านก็ออกพร้อมเดินทางกลับสู่เมืองหลวงอย่างเป็นทางการ

ตาแก่เฉินมากับตงจื่อ ดังนั้น จึงกลับไปพร้อมกับตงจื่อ

แม่นางเซวียนเหนียงอยู่ที่ตำบลชางผิง ดังนั้น ท่านอู๋ย่อมตรงกลับไปที่ตำบลชางผิงเป็นธรรมดา

ก่อนจะกลับไป ตาแก่เฉินพูดพลางกุมกระชับต้นแขนของเฉินจื่ออานไปด้วยว่า "จื่ออานเอ๊ย เจ้าอยู่ในกรมเกษตรต้องตั้งใจทำงานให้ดี ๆ ล่ะ ถ้าปีหน้าเก็บเกี่ยวได้สมบูรณ์ล่ะก็ ข้าจะไปเยี่ยมเจ้าที่เมืองหลวงแน่นอน"

“ได้!” เฉินจื่ออานตอบรับด้วยรอยยิ้ม

หลังจากแยกกัน รถม้าของตาแก่เฉินก็มุ่งตรงไปทางใต้ ส่วนรถของพวกลู่ม่านจะขึ้นไปทางเหนือ ต่างก็ค่อย ๆ แยกย้ายกันไป

เฉินจื่ออานเหลือบตามองไปทางตำบลแวบหนึ่ง "ไม่รู้ว่าเป๋าจ่างคนนั้นจะมาหรือไม่?"

“จะต้องมาแน่นอน!” ลู่ม่านตอบอย่างมั่นใจ

“ท่านรู้ได้อย่างไรเจ้าคะ?” หรูเฟิงถามอย่างสงสัย

“แค่ดูก็รู้แล้วล่ะ!” ลู่ม่านพูดพลางหัวเราะ “ข้าดูแวบเดียวก็รู้แล้วว่าเป๋าจ่างนั่นเป็นคนที่รักครอบครัวมากคนหนึ่ง ต่อให้เพื่อภรรยากับพวกลูก ๆ อย่างไรเขาก็จะต้องมาแน่นอน!”

ผลเป็นไปตามคาด เพิ่งจะสิ้นเสียงของลู่ม่าน ก็เห็นเงาร่างอ้วนเทอะทะร่างหนึ่งมาปรากฏขึ้นตรงหน้า

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน