ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 50

สรุปบท บทที่ 50 แม่นางพอใจไหม: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน

อ่านสรุป บทที่ 50 แม่นางพอใจไหม จาก ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน โดย ฝูเชิง

บทที่ บทที่ 50 แม่นางพอใจไหม คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายประวัติศาสตร์ ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ฝูเชิง อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ลู่ม่านพาเหยาซื่อมาขายดอกเก๊กฮวยป่าเป็นครั้งสุดท้ายของปีนี้ ท่านอู๋เสียดายอย่างมาก

“ยาสมุนไพรที่ดีขนาดนี้ ต้องรออีกทีก็ปีหน้าแล้ว”

ลู่ม่านหัวเราะพร้อมพูดขึ้นว่า “ก่อนหน้านี้พวกเราเอามาเยอะขนาดนั้น เพียงพอให้ท่านได้ใช้เป็นเวลานานแล้ว”

“ยิ่งมากยิ่งดี” ท่านอู๋ลูบเคราพร้อมพูดขึ้น

ในขณะที่กำลังพูดอยู่ ผู้ดูแลร้านเดินเข้ามาจากทางด้านนอกอย่างกระฉับกระเฉงและมีชีวิตชีวา ด้านหลังมีช่างฝีมือตามมาด้วยหลายคน ผู้ดูแลร้านเดินไปด้วย พร้อมพูดสั่งงานไปด้วย ดูท่าทีแล้ว การนำเสนอของผู้ดูแลร้านในครั้งนี้ ประสบความสำเร็จอย่างมากแล้ว

มองเห็นลู่ม่าน ผู้ดูแลร้านยิ้มหัวเราะพร้อมพูดขึ้นว่า “แม่นางมาแล้วหรือ”

ลู่ม่านก็ยิ้มหัวเราะพร้อมพูดขึ้นว่า “สวัสดีผู้ดูแลร้าน”

“แม่นางเกรงใจเกินแล้ว ไม่ใช่รถสอง....”

“ผู้ดูแลร้าน” ลู่ม่านพูดดักเขาขึ้นว่า “สิ่งของนั้นเป็นของผู้ดูแลร้าน ท่านทนเห็นผู้ป่วยต้องเจ็บปวดทุกข์ทรมานไม่ไหว จึงคิดค้นขึ้นมา เกี่ยวข้องอะไรกับข้า?”

ผู้ดูแลร้านอึ้ง ทันใดนั้นก็หัวเราะพร้อมพูดขึ้นว่า “ดี บุญคุณของแม่นาง ข้าจำไว้แล้ว”

รอเมื่อผู้ดูแลร้านไปแล้ว ท่านอู๋มองดูลู่ม่านอย่างลึกซึ้งจนคาดเดาไม่ถูก พร้อมพูดขึ้นว่า “แม่นางคงไม่รู้ว่า อำนาจของร้านยาฉืออานนี้มีอำนาจในเมืองหลวงหย่งอาน ผู้ดูแลร้านเพียงแค่ส่งแบบไป ตอนนี้ได้กลายเป็นคนโปรดของผู้ใหญ่แล้ว ผู้ใหญ่ที่อยู่ข้างบนหากรู้ว่าแม่นางมีความสามารถ แม่นางจะต้องมีโชคลาภมหาศาล”

ลู่ม่านแสดงท่าทางเหมือนไม่เข้าใจ พร้อมพูดขึ้นว่า “ผู้หญิงบ้านนอก เพียงอยากมีชีวิตที่สงบสุข ไม่เข้าใจเรื่องโชคลาภมหาศาล” ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้พวกนางไม่มีอำนาจไม่มีกำลัง เรื่องแบบนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับชาวบ้านอย่างพวกเขา นางไม่อยากโดนเด่น

ท่านอู๋มองดูนาง พร้อมพูดขึ้นว่า “ผู้หญิงบ้านนอกหากล้วนเป็นเหมือนเจ้า ก่อนราชวงศ์ถังของเรานี้คงเทียบฟ้าแล้ว”

“ท่านชมเกินไปแล้ว”

ทั้งสองคนพูดคุยกันอยู่ครู่หนึ่ง ลู่ม่านค่อยรับเงินแล้วออกมาจากร้านยาฉืออาน

เหยาซื่อทำงานเร็วมาก ความรวดเร็วที่ฝึกฝนมานานหลายปี ดังนั้นนางคนเดียวได้เงินหนึ่งพวงกับแปดร้อยเหวิน

เงินที่ขายได้ในหลายครั้งนี้ เทียบเท่ากับรายได้หนึ่งถึงสองปีของคนทั้งครอบครัวที่ผ่านมา เหยาซื่อ ยิ้มหน้าบาน

ลู่ม่านได้มาสองพวง หนึ่งในสามเป็นของเหอฮัว บวกกับครั้งก่อน นางช่วยเก็บรวมกันไว้ให้นาง รอเมื่อเหอฮัวต้องการค่อยให้นาง

หลังจากซื้อของเสร็จแล้ว ทั้งสองคนก็กลับไปในหมู่บ้าน

เมื่อมาถึงปากทางเข้าหมู่บ้าน ก็เห็นชายคนหนึ่งเดินออกมาจากถนนอีกหนึ่ง เมื่อเห็นลู่ม่านกับเหยาซื่อ จึงยิ้มพร้อมพูดขึ้นว่า “แม่นาง กำลังจะไปหาพวกเจ้าพอดี”

ลู่ม่านดีใจ คนคนนี้ก็คือคนที่นางไปสั่งให้ทำขวดโหล

“ขวดโหลของข้าทำเสร็จแล้วหรือ?”

“ใช่” คนคนนั้นพูดพร้อมกับชี้ไปที่รถเกวียนด้านหลัง และพูดขึ้นว่า “ของมีไม่เยอะ ผ่านมาพอดี จึงเอามาด้วย”

ลู่ม่านรีบไปเปิดดูในกระจาด คนคนนี้ทำงานละเอียดมาก ในตะกร้าปูวางฟางไว้เป็นอย่างดี

ลู่ม่านเอาขวดโหลออกมาดูหนึ่งอัน ลวดลายดอกไม้หนึ่งดอกบนขวดสวยงามมาก เมื่อถูกแสงแดดส่อง ขวดเปล่งประกายระยิบระยับ

“นี่ สวยมากเลย” เหยาซื่อพูดขึ้น

คนคนนั้นยิ้มหัวเราะพร้อมพูดขึ้นว่า “พวกเราก็ทำครั้งแรก ไม่รู้ว่าแม่นางพอใจไหม”

ลู่ม่านพยักหัว พร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่เลวเลยทีเดียว รบกวนเจ้าเอาไปให้ข้าตรงหน้าประตูบ้าน แล้วข้าค่อยจ่ายเงินให้เจ้า?”

คนคนนั้นรีบพยักหัว พวกลู่ม่านก็นั่งกลับไปด้วยพอดี กลับไปถึงหน้าประตูบ้านพร้อมกัน

ครั้งก่อนจ่ายเงินมัดจำไปสิบเหวิน ครั้งนี้ยังต้องจ่ายอีกสี่สิบเหวิน หลังจากลู่ม่านตรวจรับสิ่งของเรียบร้อยก็จ่ายเงินที่เหลือทั้งหมด เห็นแก่ที่คนอื่นส่งของมาให้ถึงบ้าน ลู่ม่านจึงจ่ายเพิ่มอีกสิบเหวิน

คนคนนั้นดีใจอย่างมาก ก่อนจะกลับไปยังพูดอยู่ตลอดว่า หากครั้งหน้าลู่ม่านยังอยากได้ ก็ไปหาเขาได้เลย

สิ่งที่ลู่ม่านต้องการก็คือสิ่งนี้ จึงพยักหัวรับปาก

“จำพวกที่จะไปขายในตลาด ข้าอยากยกให้พี่”

ที่จริง เดิมนางไม่ได้อยากที่จะนำไปขายปลีกที่ตลาด แต่ก็ไม่อยากที่ถูกผูกขาดมาตลอด หากนางเอาไปที่ภัตตาคารเฟิ่งหลายด้วยตนเอง นางก็ไม่เป็นห่วงว่าจะขายไม่ออก แต่นางกลัวว่าต่อไปครอบครัวของพวกเขาก็จะไม่มีอะไรทำแล้ว ยังไงตอนนี้นางก็ต้องสะสมเพื่ออนาคต

ยิ่งไปกว่านั้น เหยาซื่อช่วยเหลือนางมามากมายขนาดนี้ นางคิดว่าตนเองควรที่จะพาเหยาซื่อไปด้วย

“ข้าคงทำไม่ได้มั้ง?” เหยาซื่อโบกมือพร้อมพูดขึ้นว่า “ข้ากับเอ้อร์หนิว ต่างเป็นคนไม่มีความรู้ ไม่รู้เรื่องอะไรเลย หากเจ้าขอให้ข้าใช้แรงทำงาน ข้าจะรับปากแน่นอน แต่การขายของ.... ข้ากลัวว่าตนเองจะทำได้ไม่ดี”

“จะทำไม่ดีได้อย่างไร?” ลู่ม่านพูดขึ้นว่า “เจ้าก็แค่เอาความจริงใจของตนเองออกมา ยังไงก็ต้องได้”

เหยาซื่อเป็นคนกล้าหาญใจกว้าง ดูแล้วก็ทำให้รู้สึกได้ถึงความน่าเชื่อถือ

สุดท้าย ลู่ม่านพูดโน้มน้าวว่า วันแรกจะไปด้วยกัน นางค่อยพยักหัวพร้อมพูดขึ้นว่า “ได้ ยังไงช่วงนี้ก็ไม่มีงานอะไรทำ ข้าไปพร้อมกันกับเจ้า”

พูดแล้วก็ลงมือทำทันที วันที่สองทั้งสองคนขึ้นเขาไปเก็บส้มกลับมามากมาย ลู่ม่านเตรียมทำผลไม้กวนอยู่ที่บ้าน

ในที่สุดก็รอถึงวันตลาดนัด เมื่อลู่ม่านตื่นขึ้นมาในตอนเช้า ก็พบว่าเฉินจื่ออานก็ตื่นแล้ว

นางเดินออกมาอย่างสงสัย ด้านนอกมีอาหารเช้าที่เตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว

“กินสิ กินเสร็จแล้วข้าไปตลาดนัดพร้อมกับเจ้า”

ลู่ม่านอึ้ง จากนั้นก็ยิ้มหัวเราะพร้อมพูดขึ้นว่า “ได้”

เดิมวันนี้พวกเขาต้องเอาของไปเยอะจึงเช่ารถเกวียนมา มีเฉินจื่ออานเพิ่มอีกคนก็ไม่เป็นไร อีกอย่าง ลู่ม่านก็อยากฝึกฝนเขา

รอเมื่อตะวันฉายแสงบนท้องฟ้า เหยาซื่อกับหวังเอ้อร์หนิวก็ขับรถเกวียนมา

พวกลู่ม่านช่วยกันยกของขึ้นรถ ทั้งสามคนต่างนั่งเรียบร้อย เดินทางมุ่งหน้าไปยังในตำบล

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน