ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 51

สรุปบท บทที่ 51 พบอุปสรรคครั้งแรก: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน

บทที่ 51 พบอุปสรรคครั้งแรก – ตอนที่ต้องอ่านของ ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน

ตอนนี้ของ ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน โดย ฝูเชิง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายประวัติศาสตร์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 51 พบอุปสรรคครั้งแรก จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ณ ตอนนี้เป็นสิ้นเดือนสิบสองแล้ว อีกแค่เดือนกว่าก็จะถึงเทศกาลปีใหม่

อากาศเริ่มเย็นลงเรื่อยๆ แม้ว่าเมื่อออกไปข้างนอกในตอนเช้า เฉินจื่ออานยืนกรานจะให้นางเอาเสื้อคลุมผ้าฝ้ายหนาอีกตัวมาสวมใส่ มันก็ยังหนาวอยู่เล็กน้อย

ลู่ม่านอดไม่ได้ที่จะจาม เฉินจื่ออานขมวดคิ้วทันที “เสี่ยวม่าน...”

“ไม่เป็นไร แค่หนาวนิดหน่อย” นางมองไปยังเหยาซื่อ “พี่สาว ถ้าเรากลับมาจากการขายผลไม้กวนชุดนี้เมื่อไร ท่านต้องสอนข้าทำเสื้อผ้านะ”

ผ้าพวกนั้นที่นางซื้อมาคราวที่แล้วยังไม่ได้เอามาทำเสื้อผ้าเลย

“ได้เลย!” เหยาซื่อพยักหน้า

เฉินจื่ออานเห็นลู่ม่านใบหน้าแดงก่ำ จึงต้องการเข้าไปใกล้อีกหน่อย แต่เนื่องจากเหยาซื่อกับสามีอยู่ตรงนี้ด้วย จึงจำต้องระงับความคิดของตัวเอง แล้วไปนั่งเหนือลู่ม่านเงียบๆ เพื่อกันลมที่พัดเข้ามาให้

เหยาซื่อเห็นเช่นนั้นก็แอบยิ้ม ก่อนจะเปลี่ยนเรื่อง

โชคดีที่หลังจากเดินทางมาได้สักพัก ดวงอาทิตย์ขึ้นมาเต็มดวง แดดอาบร่างกาย ในที่สุดก็อบอุ่นขึ้นมาบ้าง

หลังจากมาถึงในเมือง จึงเริ่มมีความเจริญ

ตรงไปยังตลาดตะวันออก พวกลู่ม่านหาที่ว่าง นำโต๊ะเก่าลงมาจากเกวียน จากนั้นนำขวดโหลที่เตรียมไว้อย่างดีและห่อกระดาษเคลือบน้ำมันออกมา

ในขวดโหลเป็นผลไม้กวน กระดาษเคลือบน้ำมันใช้ห่อผลไม้กวน ตกลงราคากันก่อนหน้านี้คือเงินหนึ่งเหวินต่อหนึ่งตําลึง เพียงพอที่จะห่อด้วยห่อกระดาษน้ำมัน กลับบ้านไปนำชามใบเล็กๆ มาใส่ก็ใช้ได้

สามารถใช้จิ้มอาหารหรือชงน้ำดื่มก็ได้ ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถนำมาทำปลาดิบแร่ได้อีกด้วย คนในสมัยก่อนราชวงศ์ถังชอบกินปลาดิบแร่มาก

ยังไม่มีใครขึ้นมา หลังจากจัดของเรียบร้อยแล้ว ลู่ม่านก็คุยกับเหยาซื่อ “พวกท่านอยู่ที่นี่ก่อน ข้าจะเอาขวดโหลพวกนี้ไปลองหาดูว่ามีร้านไหนยินดีให้เราวางขายได้”

“ตกลง!” เหยาซื่อพยักหน้า แต่ในที่สุดก็เริ่มกังวล “กลับมาเร็วหน่อยนะ”

“ได้” ลู่ม่านพูดจบก็เข็นเฉินจื่ออานเดินไป

ที่จริงตลาดตะวันออกค่อนข้างใหญ่ แต่ส่วนใหญ่เป็นคนยากจน ครั้งล่าสุดที่พวกลู่ม่านไปตลาดตะวันตก ส่วนใหญ่เป็นคนต่างชาติ ในขณะที่ตลาดใต้ขายปศุสัตว์ ดังนั้นพวกลู่ม่านจึงตรงไปตลาดเหนือ

ผู้คนจากชนบทกว่าจะเข้ามาในเมืองต้องใช้เวลานาน แต่ตระกูลใหญ่จะออกมาซื้อของแต่เช้าตรู่

ตลาดเหนือในเวลานี้เต็มไปด้วยผู้คนจ้อกแจ้กจอแจ มีคนประเภทอย่างผู้ดูแลบ้านของตระกูลใหญ่แต่งตัวงดงามเดินกันขวักไขว่

ลู่ม่านเหลือบไปเห็นร้านค้าหนึ่งที่ค่อนข้างใหญ่ หน้าร้านหรูหรามาก และหน้าประตูมีป้ายทองคำแขวนอยู่

ร้านขายของชำบ้านซุน

ก้มหน้าลงปรึกษากับเฉินจื่ออาน “จะสำเร็จไหม”

“ข้าจะไปลองดู” เฉินจื่ออานพูดอย่างกระฉับกระเฉง

ลู่ม่านพยักหน้าแล้วเข็นเขาเดินเข้าไป

หลังจากเดินเข้าไปจึงเห็นว่าร้านนี้ยิ่งหรูหราขึ้นไปอีก พื้นที่ภายในก็ใหญ่กว่าภายนอกมาก เครื่องตกแต่งร้านค้าหลากสีสันตระการตา

ชายวัยกลางคนที่ดูอ้วนคนหนึ่งยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์ชำระเงิน พูดคุยกับคนที่มาจ่ายเงินด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

ลูม่านและเฉินจื่ออานต่อแถว รอจนกระทั่งคนผู้นั้นว่าง เฉินจื่ออานถึงได้พูดว่า “เถ้าแก่...”

คนผู้นั้นยังคงหน้าตายิ้ม “ผู้มาเยือนต้องการอะไร”

ลู่ม่านมองไปรอบๆ ร้าน ภายในแตกต่างจากร้านฝั่งตรงข้ามราวฟ้ากับดิน มันเหมือนกับที่คิดไว้ ทั้งภายนอกและภายในเล็กเหมือนกัน

แต่นี่ก็ไม่ใช่เหตุผลที่การค้าของเขาแย่มากไม่ใช่เหรอ ลู่ม่านเห็นว่าเครื่องตกแต่งของเขาเหมือนกับของฝั่งตรงข้าม และความหลากหลายของสินค้าก็ถือว่าสมบูรณ์แบบ

เมื่อคิดอย่างนั้นลู่ม่านจึงถามว่า “เถ้าแก่ ข้าขอถือวิสาสะถาม เหตุใดพวกท่านถึงไม่มีลูกค้าเลยสักคน”

เฉินจื่ออานเหลือบมองลู่ม่านอย่างกังวล ถ้าคนทั่วไปถามแบบนี้ เถ้าแก่ต้องโกรธแน่ไม่ใช่เหรอ ไม่คิดว่าเถ้าแก่กลับไม่โกรธ แต่ทอดถอนใจเฮือกใหญ่

“เถ้าแก่ร้านนั้นทำสัญญาสินค้ากับพวกผู้ดูแลบ้านตระกูลใหญ่...”

เขาพูดคลุมเครือมาก แต่ลู่ม่านเข้าใจ มันเป็นสิ่งที่เหมือนกับการให้เงินสินบนในสมัยใหม่ นึกถึงท่าทางเย่อหยิ่งของเถ้าแก่เมื่อครู่ ลู่ม่านรู้สึกได้โดยอัตโนมัติว่าเถ้าแก่ร้านนี้ไม่ได้โกหก

“ในเมื่อท่านรู้แบบนี้ เหตุใดท่านไม่ทำบ้างล่ะ” ลู่ม่านเอ่ยถาม

เถ้าแก่หน้าแดงทันที “แม่นางท่านนี้ ถ้าเจ้าไม่ซื้อของก็เชิญออกไปเถอะ อย่ามาดูถูกคนอย่างข้า”

เฉินจื่ออานเองก็เหลือบมองลู่ม่านอย่างไม่เห็นด้วย “เสี่ยวม่าน...”

ลู่ม่านเลิกคิ้ว “ท่านเป็นผู้คงแก่เรียนเหรอ”

“ศึกษาร้อยพันตำรามานับสิบปี!” เถ้าแก่จางพูด “น่าเสียดายที่ไม่สามารถสอบเป็นบัณฑิตได้ เมื่อไม่สามารถจึงกลับบ้านเพื่อทำร้านขายของชำ แต่ใครจะไปคิดว่าแม้แต่ร้านขายของชำยังดูแลได้ไม่ดี...”

เขาท้อใจมาก สายตามองไปรอบร้านขายของชำ “ขอบอกแม่นางตามตรง ข้าประคับประคองที่นี่ได้ไปอีกไม่กี่วันเท่านั้น บางทีคราวหน้าแม่นางมา ที่นี่อาจไม่อยู่แล้ว”

เขาน้ำเสียงเศร้า ลู่ม่านเกิดร่องรอยแห่งความเศร้าโศกโดยไม่คาดคิด ความรู้สึกแบบนี้มันแย่มาก แต่นางไม่ใช่คนที่จมอยู่กับความเศร้าเช่นนั้น

เมื่อคิดเช่นนี้ นางจึงพูดว่า “ไม่ทราบว่าเถ้าแก่อยากเปิดต่อไปหรือไม่ ใช้การกระทำพิสูจน์ว่าความชั่วไม่สามารถเอาชนะความชอบธรรมได้”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน