ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 517

สรุปบท บทที่517 เชิญฝ่าบาทมาได้: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน

อ่านสรุป บทที่517 เชิญฝ่าบาทมาได้ จาก ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน โดย ฝูเชิง

บทที่ บทที่517 เชิญฝ่าบาทมาได้ คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายประวัติศาสตร์ ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ฝูเชิง อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

พวกพลตระเวนได้ยินแล้ว ก็รีบเข้าไปจับตัวลู่ม่านไว้

ลู่ม่านพยายามขัดขืน แต่สองมือยากที่จะสู้กับสี่มือ สุดท้ายก็ถูกลากตัวออกไป

ข้างหูมีเสียงตะโกนดังขึ้นว่า “ประหาร!”

ลู่ม่านอ้าปากอยากจะพูดอะไร น้ำตาไหลพรากออกมาไม่หยุด ในสมองก็มีภาพความทรงจำของเฉินจื่ออานลอยขึ้นมา

ตอนเจอกันครั้งแรก นางอยากหย่า แต่เขากลับเอาเงินทั้งหมดให้นาง โลกนี้ไม่มีใครที่ซื่อบื้อไปมากกว่าเขาแล้วล่ะ!

นางแค่บอกว่าอยากได้ชุดเครื่องนอนผ้าไหม ทั้งที่เขาไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่กลับพยายามหามาให้นางอย่างสุดความสามารถ

นางถูกคนในบ้านรังแก เขาก็เลือกที่จะยืนอยู่ข้างนางอย่างไม่ลังเล เขาไม่ใช่คนที่แข็งแกร่งมาก แต่กลับแสดงความแข็งแกร่งทั้งให้กับนาง

แต่มาวันนี้ นางจะช่วยเขาไว้ไม่ได้จริงๆเหรอ?

“จื่ออาน!” ลู่ม่านตะโกน

“ฝ่าบาทเสด็จ!” เสียงของหรูอวี่ดังขึ้นข้างหูลู่ม่าน ลู่ม่านดีใจจนน้ำตาไหลพราก

ทหารของฮ่องเต้เดินเข้ามา ขวางดาบที่กำลังจะฟันลงไปที่คอของทุกคนในบ้านเฉิน

อ๋องหนิงกัดฟันมองทุกอย่างตรงหน้า ลุกขึ้นทำความเคารพฮ่องเต้อย่างไม่พอใจ

“ถวายบังคมฝ่าบาท”

“ลุกขึ้นมาเถอะ!” ฮ่องเต้พูดจบ สายตาก็มองไปยังลู่ม่าน “เจ้าพยายามทุกวิถีทางเพื่อเรียกข้ามา ทางที่ดีให้เป็นเรื่องสำคัญเถอะ ถ้าเจ้ากล้าหลอกข้า ถึงกั๋วกงมาขอร้องก็ไม่มีประโยชน์หรอก”

ลู่ม่านส่ายหน้า “ฝ่าบาท หม่อมฉันมีเรื่องจะบอกฝ่าบาทจริงๆเพคะ”

ว่าแล้ว นางก็พูดแนะนำเสียงเบาว่า “ฝ่าบาท เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ ตอนนี้มีคนอยู่เยอะ เดินไปที่อื่นให้หม่อมฉันได้รายงานเถิดเพคะ”

ฝ่าบาทยังคงลังเล อ๋องหนิงที่อยู่ข้างๆพูดแทรกลู่ม่านอย่างไม่พอใจ

“ฝ่าบาท เพราะเป็นเรื่องใหญ่ ลานประหารเป็นที่ที่เหมาะมากที่สุดแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ถึงเวลาดำเนินโทษประหารของตระกูลเฉินแล้ว ถ้าล่าช้าไปกว่านี้ อาจจะมีคนสงสัยในอำนาจของฝ่าบาทได้”

เหอะๆ อ๋องหนิงกล้าเอาอำนาจของจักรพรรดิมาพูด ถ้าเขาทำสำเร็จจริง งั้นพูดเรื่องนี้ไปแล้วจะมีประโยชน์อะไรอีก?

“ฝ่าบาท ไม่ได้เพคะ!” ลู่ม่านรีบพูด “เรื่องนี้เฉินจื่ออานกับหม่อมฉันสืบมาด้วยกัน แต่ส่วนใหญ่เป็นคุณงามความดีของเฉินจื่ออานทั้งนั้น ฝ่าบาทก็เห็นแก่ที่เฉินจื่ออานเคยหยุดภัยน้ำท่วมได้ น่าจะให้เขามีโอกาสได้พูดนะเพคะ อย่าให้ประชาชนได้เห็นฝ่าบาทเสร็จงานฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพลเลยเพคะ”

“บังอาจ!” ฮ่องเต้ไม่พอใจ ลู่ม่านพูดแบบนี้ไม่เข้าหูจริง แต่นางก็หมดหนทางแล้วจริงๆ

ตอนนี้ต่อหน้าประชาชน นางพูดแบบนี้อาจจะล่วงเกินฮ่องเต้ได้ แต่ต่อหน้าประชาชน ฮ่องเต้ก็ต้องไว้หน้าประชาชนบ้าง อย่างน้อยก็ต้องสนใจภาพลักษณ์

เป็นไปตามที่คิดไว้ ฮ่องเต้ด่าลู่ม่านไปแล้ว ก็ด่าอ๋องหนิงต่อ

“ข้าจะหยุดการประหารชั่วคราว อ๋องหนิงมีข้อคิดเห็นกับคำตัดสินของข้าหรือไม่?”

อ๋องหนิงก้มหน้าลงอย่างไม่พอใจ “กระหม่อมมิบังอาจขอรับ แต่ว่า……”

“ในเมื่อมิบังอาจก็ไม่ต้องพูดแล้ว แต่เจ้าเนี่ยสิ ตั้งแต่เช้าสั่งให้ข้ารับใช้มาขวางทางข้า มีเรื่องสำคัญอันใดจะรายงานข้างั้นเรอะ?”

ลู่ม่านส่งสายตาชื่นชมให้หรูอวี่ จากนั้นก็ถึงเดินไปคุกเข่าข้างๆเฉินจื่ออาน จากนั้นก็ถึงพูดว่า “ฝ่าบาท หม่อมฉันจะฟ้องท่านอ๋องหนิงเพคะ เขาทุจริตรับสินบน ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เขาได้ยักยอกอาหารและเงินที่ใช้จัดการน้ำท่วมไปจำนวนมาก จึงทำให้ทางใต้เศร้าโศกกันอย่างมาก ขอฝ่าบาทคืนความยุติธรรมให้ประชาชนด้วยเพคะ”

ฮ่องเต้หันไปมองกงกง “เอาขึ้นมา”

กงกงรีบไปรับมา แล้วยื่นให้ฮ่องเต้ ฮ่องเต้อ่านแล้วก็โยนให้อ๋องหนิง “เจ้าดูเอาเอง”

อ๋องหนิงหยิบขึ้นมาอ่านแล้วก็ยิ่งใจเย็นเข้าไปใหญ่

“ฝ่าบาท กระหม่อมไม่รู้ว่าหลักฐานนี้มาจากไหน? ส่วนเป๋าจ่างตำบลซวงสุ่ย กระหม่อมก็ได้เคยพูดคุยมาบ้าง แต่ไม่รู้ว่าทำไมเขาต้องใส่ร้ายกระหม่อมด้วย”

อ๋องหนิงได้ใจมาก ทำท่าเหมือนทุกคนทำอะไรเขาไม่ได้

เฉินจื่ออานเห็นแล้วก็ส่ายหน้าให้ลู่ม่าน จากนั้นก็ก้มหน้าพูดกับฮ่องเต้ว่า “ฝ่าบาท ข้ากระหม่อมประมาทไปเอง ไม่เกี่ยวกับคุณหนูกู้ ข้ากระหม่อมขอรับผิดทั้งหมดเอง”

ตาทึ่ม นี่มันเวลาไหนแล้ว ยังไม่ลืมที่จะเอาความผิดทั้งหมดเข้าตัวอีก

ลู่ม่านมองค้อนเขาแรงๆ แต่กลับเห็นเฉินจื่ออานยิ้มให้กับนางอย่างเอ็นดู และไม่รู้ว่าทำไม รอยยิ้มนี้กลับทำให้น้ำตาที่ลู่ม่านกลั้นเอาไว้ทะลักออกมา

ลู่ม่านรีบสูดน้ำมูกแล้วกวาดตามองรอบๆ ถ้าเหอฉวนกลับมาตอนนี้ก็ดีน่ะสิ……

กำลังคิดอยู่นั้น ทันใดนั้นข้างหน้าก็มีเสียงรถม้าดังขึ้น รถม้าของฮูหยินกั๋วกงกำลังฝ่าหมู่ผู้คนขับมาทางนี้ ถึงแม้หลายปีมานี้จวนกั๋วกงจะไม่ได้ทำอะไร แต่ทุกปีฮูหยินกั๋วกงก็จะร่วมทำบุญในเมืองหลวงเสมอ

ปกติก็เป็นมิตรและใจดีต่อข้ารับใช้และพ่อบ้านในบ้าน ดังนั้นชื่อเสียงในเมืองหลวงของนางจึงดีมาก

ทุกคนรู้ว่าสายตาฮูหยินกั๋วกงไม่ดี ดังนั้นพอเห็นรถม้าของจวนกั๋วกง พวกชาวบ้านก็หลีกทางให้ทันที

และคนที่ขับรถม้า ถ้าไม่ใช่เหอฉวนแล้วจะเป็นใคร?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน