ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 522

สรุปบท บทที่ 522 ความอ่อนโยนทั้งหมดล้วนมอบให้เขา: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน

ตอน บทที่ 522 ความอ่อนโยนทั้งหมดล้วนมอบให้เขา จาก ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 522 ความอ่อนโยนทั้งหมดล้วนมอบให้เขา คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายประวัติศาสตร์ ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน ที่เขียนโดย ฝูเชิง เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

หลังจากถามไถ่อยู่หลายครั้ง หรูอวี่ก็เอาแต่พูดอย่างคลุมเครือว่าถึงอย่างไรฮ่องเต้ก็จะทรงลงโทษพวกเขาอย่างแน่นอน ในใจของลู่ม่านรู้แจ้งขึ้นมาทันที ดูท่าแล้วเหมือนว่าก็คงจะเข้าอีหรอบเดิม ถึงอย่างไรฮ่องเต้ก็ยังยึดค่านิยมที่ว่า ต้องมีเมตตาธรรมให้แก่คนในราชวงศ์ ไม่อยากให้คนอื่นมองว่านางเข่นฆ่ากระทั่งลูกหลานของตัวเอง

ลู่ม่านเม้มริมฝีปากแน่น ก่อนจะถามขึ้นอีกครั้งว่า “จวงลี่จ้งล่ะ?”

ความสัมพันธ์ระหว่างจวงลี่จ้งกับลู่ม่านนั้นถือได้ว่าไม่เลว หรูอวี่จึงค่อยพูดด้วยจิตใจที่ผ่อนคลายลงไปมาก “ฮูหยิน ท่านวางใจได้ หลังจากที่อ๋องหนิงถูกพาตัวไป คุณชายจวงก็ออกมาแล้วเจ้าค่ะ เมื่อครู่นี้ตอนที่ข้าตื่นนอนมา ก็เห็นคุณชายจวงมาเยี่ยมฮูหยินที่บ้านพอดี ตอนนี้ยังอยู่ในสวนดอกไม้เจ้าค่ะ!”

ลู่ม่านพยักหน้า ลุกขึ้นแล้วมองดูแสงแดดนอกหน้าต่าง "วันนี้อากาศไม่เลวเลย พวกเราออกไปดูกันเถอะ!"

ในสวน ฮูหยินกั๋วกงกำลังคุยอยู่กับจวงลี่จ้ง

“ครั้งนี้ต้องลำบากเจ้าแล้วจริง ๆ เพิ่งจะออกมาได้แท้ ๆ ทำไมไม่พักผ่อนอยู่ที่บ้านอีกสักหน่อยล่ะ?”

“ข้าไม่เป็นไรแล้วขอรับ!” จวงลี่จ้งตอบ “ไม่ทราบว่าคุณหนู....”

“ข้าก็ไม่เป็นไรเหมือนกัน!” ลู่ม่านเดินเข้ามาจากข้างนอกพร้อมกับหรูอวี่

เมื่อได้ยินเสียง จวงลี่จ้งก็เงยหน้าขึ้นมาอย่างรวดเร็ว บนใบหน้าปรากฏอารมณ์ที่ดูซับซ้อนอย่างน่าประหลาด เมื่อฮูหยินกั๋วกงเห็นดังนั้น ก็อดถอนหายใจออกมาไม่ได้

จวงลี่จ้งเป็นเด็กดีคนหนึ่ง แต่น่าเสียดายที่ทั้งสองต้องเรียกว่าไม่มีวาสนาต่อกันสินะ?

“ข้ารู้สึกเหนื่อยหน่อย ๆ แล้วล่ะ พวกเจ้าหนุ่มสาวอยู่คุยกันต่อเถอะนะ!” ฮูหยินกั๋วกงลุกขึ้นยืน ก่อนจะถูกแม่นมช่วยประคองกลับห้องไป

เพียงไม่นาน ในสวนก็เหลือเพียงลู่ม่านกับจวงลี่จ้งสองคน

“เจ้า....” ทั้งสองพูดขึ้นพร้อมกัน จวงลี่จ้งรีบพูดว่า “เจ้าพูดก่อนเถอะ”

ลู่ม่านก็ไม่มัวทำตัวตามมารยาทแล้ว พูดออกมาตรง ๆ เลยว่า “ได้ยินมาว่าอ๋องหนิงกับหลี่ยวี่ คนหนึ่งถูกกักตัวให้สำนึกผิดอยู่ที่บ้าน ส่วนอีกคนถูกขังอยู่ที่ศาลต้าหลี่สินะ?”

จวงลี่จ้งคาดไม่ถึงว่าลู่ม่านมาถึงปุ๊บ ก็จะถามคำถามเหล่านี้ทันที จึงตื่นตัวขึ้นมาในทันใด "เจ้าคิดจะทำอะไรน่ะ?"

“เจ้าก็รู้นี่!” ลู่ม่านไม่คิดจะปิดบังความคิดในใจเลยแม้แต่น้อย “เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าพวกเขาทำความผิดที่มันร้ายแรงตั้งขนาดนั้น แต่ทำไมถึงลงโทษแค่ถูกกักบริเวณ? แต่พวกจื่ออานเป็นเพราะโดนลากเข้าไปติดร่างแหด้วยเฉย ๆ กลับถึงขั้นต้องถูกเนรเทศเลย?”

การที่ลู่ม่านต้องมายอมรับเรื่องแบบนี้ มันเป็นอะไรที่ทำให้นางแทบจะสติแตกให้ได้แล้ว

เมื่อก่อน นางยังกล้าเชื่อว่าคนทุกคนล้วนมีความเสมอภาค เพราะถึงอย่างไรก็เป็นคนในโลกอนาคตที่เเติบโตมาในยุคสมัยใหม่ ต่อให้รู้ว่าที่นี่ให้ความสำคัญกับชนชั้นฐานันดร แต่นางก็คิดอยู่เสมอว่าไม่ว่าจะเวลาไหน ระบบการปกครองและกฎหมายก็ยังมีความเสมอภาค

ดังคำกล่าวที่ว่า องค์ชายทำผิดกฎหมายมีโทษเทียบเท่าสามัญชน

แต่หลังจากผ่านเหตุการณ์นี้แล้ว นางก็พบว่าตัวเองคิดผิดมหันต์ หากองค์ชายทำผิดกฎหมายไม่มีทางที่จะได้รับโทษเทียบเท่าสามัญชนจริง ๆ หรอก! นั่นก็เพราะพระมาตุจฉาขององค์ชายเป็นถึงฮ่องเต้อย่างไรล่ะ!

“เสี่ยวม่าน!” จวงลี่จ้งพยายามเกลี้ยกล่อม “เจ้าใจเย็น ๆ ก่อนนะ เรื่องครั้งนี้ ในพระทัยของฝ่าบาทก็ไม่แน่หรอกว่าจะไม่คิดฆ่าพวกเขาทั้งหมด เพราะถึงอย่างไร พวกเขาคนนึงก็รับสินบาทคาดสินบน ส่วนอีกคนก็คิดแผนการร้ายหมายช่วงชิงบัลลังก์ แต่จะอย่างไรสถานะของฮ่องเต้ก็พิเศษไม่เหมือนใคร พระนางไม่อาจรับสั่งให้ประหารราชนิกูลได้ง่าย ๆ เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว พระนางก็อาจถูกผู้คนวิพากษ์วิจารณ์ได้ว่าเพราะเห็นแก่อำนาจ จึงไม่ลังเลที่จะฆ่าลูกหลานของตัวเองทิ้ง!”

ลู่ม่านเม้มปาก ก่อนจะพูดว่า “ข้าไม่อยากฟังเหตุผลอะไรทั้งนั้น ข้ารู้แค่ว่า ข้าอยากให้พวกเขาชดใช้ความผิด! แล้วเจ้าล่ะ?”

จวงลี่จ้งขมวดคิ้วมุ่น "เจ้าคิดจะทำอะไรรึ?"

“แน่นอนว่าต้องเป็นเสียงร้องทุกข์ของประชาชนน่ะสิ!” ลู่ม่านตอบ “พฤติกรรมของอ๋องหนิงที่คิดร้ายหมายชีวิตประชาชนส่วนใหญ่ในพื้นที่ภาคใต้ ถ้าพวกเขาได้รู้สถานการณ์ของอ๋องหนิง ตอนนี้ จะต้องมีความหวังเช่นเดียวกับข้าอย่างแน่นอน ส่วนหลี่ยวี่..... เขาสมคบคิดกับรัชทายาท เดิมทีก็ถือเป็นโทษร้ายแรงมากอยู่แล้ว ขอแค่โอกาสเล็ก ๆ ที่ใช้เป็นจุดหัวเลี้ยวหัวต่อของเรื่องนี้ได้ ฮ่องเต้ย่อมไม่มีทางละเว้นเขาแน่!”

ลู่ม่านพูด ๆ ไป ก็เห็นจวงลี่จ้งมองมาที่ตัวเองด้วยสายตาตกตะลึงพรึงเพริศ จึงอดพูดไม่ได้ว่า “ถูกข้าทำให้ตกใจเข้าแล้วรึ? หรือเพราะเจ้าไม่เคยเจอผู้หญิงที่ใจคอโหดเหี้ยมอำมหิตอย่างข้า?”

จวงลี่จ้งส่ายหน้า "เจ้าโกรธเกรี้ยวถึงขนาดนี้ ในใจจะต้องทรมานมากแน่ ๆ"

ลู่ม่าน "....."

จวงลี่จ้งพูดได้จี้เข้าตรงกลางใจนางจริง ๆ จึงรีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนา ลู่ม่านพูดว่า “อันที่จริง ถ้าเรื่องนี้ทำได้สำเร็จ มันก็ดีสำหรับเจ้ามากเลยนะ ว่ากันตามจริงเท่าที่ข้ารู้มา พี่ชายของเจ้ากับหลี่ยวี่ต่างก็ติดต่อคบค้ากันมาโดยตลอด ถ้าผ่านเรื่องของหลี่ยวี่ครั้งนี้ไปแล้ว เจ้าก็กลับไปกุมอำนาจในตระกูลจวงได้แล้วสิ หลายปีมานี้เจ้าทุ่มเททำอะไรลงไปตั้งมากมาย ก็ไม่ใช่เพื่อวันนี้หรอกรึ?”

ขณะที่กำลังกินข้าว เซียงหยุนก็เดินเข้ามาจากด้านนอก ใบหน้าเต็มไปด้วยความสุข

“ฮูหยิน พวกหรูเฟิงมีข่าวส่งกลับมาแล้วเจ้าค่ะ”

ลู่ม่านรีบวางตะเกียบลงทันที “รีบเอามาให้ข้าเร็วเข้า”

ข้อความสั้นมาก มีเพียงไม่กี่คำเท่านั้น “ตามนายท่านทันแล้ว ทุกอย่างเรียบร้อยดี ไม่ต้องห่วง!”

ได้อ่านข้อความสั้น ๆ เหล่านั้น หัวใจของลู่ม่านที่เดิมทีถูกดึงขึ้นมาแขวนค้างกลางอากาศ ก็ค่อยวางลงได้ในที่สุด “ดีเหลือเกิน ในที่สุดพวกนางก็ตามจื่ออานทันแล้ว”

มีพวกหรูเฟิงตามไปคุ้มครอง เฉินจื่ออานย่อมจะปลอดภัยขึ้นมาก

หรูอวี่ก็ดีใจจนน้ำตาคลอเบ้าไปด้วย “ข้ารู้อยู่แล้วล่ะ ว่าปกติแม้ว่าพี่สาวมักจะเงียบขรึมไม่ชอบพูดจาปราศรัยกับใคร แต่ทำอะไรล้วนน่าเชื่อถือพึ่งพาได้มาโดยตลอด ครั้งนี้ฮูหยินคงจะวางใจได้แล้วสินะเจ้าคะ?”

ลู่ม่านถูกวิธีการเรียกขานของนางดึงดูด ด้วยเพราะอารมณ์ดี จึงอดหยอกล้อนางสักประโยคไม่ได้

“นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าได้ยินเจ้าเรียกหรูเฟิงว่าพี่สาวเลยนะ?”

“ใครบอกว่านี่เป็นครั้งแรกกันเจ้าคะ? ครั้งก่อนข้าก็เรียกแล้ว!” หรูอวี่ก็ไม่โกรธ รีบแก้ตัวอย่างรวดเร็วว่องไว

สองคนพี่น้องที่แต่ก่อนมีใจมุ่งมั่นเพียงการฝึกวรยุทธ์เท่านั้น ด้านความสัมพันธ์ของพวกนางจึงว่างเปล่าและเหินห่างกันอย่างมาก มาตอนนี้เพราะติดตามลู่ม่านมานาน จึงค่อย ๆ ติดเชื้อความอบอุ่นอ่อนโยนของลู่ม่านมาแบบไม่รู้ตัว

ลู่ม่านชอบความรู้สึกแบบนี้มาก “ได้เห็นว่าพวกเจ้าพี่น้องมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ข้าเองก็ดีใจ รอให้หรูเฟิงกลับมาแล้ว ข้าจะต้องบอกนางให้ได้เลย ไม่แน่นะว่าในอนาคต นางอาจจะอ่อนโยนกับเจ้ามากขึ้นก็ได้"

“พอเถอะเจ้าค่ะ!” หรูอวี่รีบพูดขึ้นอย่างรวดเร็ว “ความอ่อนโยนของพี่สาวข้าน่ะหรือ ล้วนมอบให้เหอฉวนไปหมดแล้วล่ะ!” พูดจบ นางก็คล้ายจะตระหนักขึ้นมาได้ว่าตัวเองเหมือนจะพลั้งปากพูดออกไปเสียแล้ว จึงรีบยกมือขึ้นมาปิดปากทันที

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน