สรุปตอน บทที่ 524 ลงมือ – จากเรื่อง ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน โดย ฝูเชิง
ตอน บทที่ 524 ลงมือ ของนิยายประวัติศาสตร์เรื่องดัง ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน โดยนักเขียน ฝูเชิง เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
ร้านนี้เพิ่งจะเกิดเรื่อง จึงมีคนจำนวนมากที่ยังรอดูท่าทีไปก่อน ไม่มีใครรีบมาสมัครงาน ส่วนลู่ม่านเองก็ไม่รีบร้อน เพราะถึงอย่างไร ตอนนี้คนในมือนางก็มีอยู่มาก แถมหม้อไฟก็ไม่ได้ทำยากอะไร ขอแค่ปรุงส่วนผสมถูก ก็ไม่มีปัญหาแล้ว
ในตอนบ่ายของวันนั้น ลู่ม่านก็นำบรรดาสาวใช้ในจวนทั้งหลายไปเตรียมส่วนผสมทั้งหมดสำหรับหม้อไฟจนเสร็จสรรพเรียบร้อย พอถึงพรุ่งนี้ ก็พร้อมเปิดร้านได้ตรงตามกำหนดแล้วจริง ๆ
ความคับคั่งของผู้คนที่มาต่างจากช่วงเปิดร้านก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิง ครั้งนี้มีคนที่รอชมเรื่องสนุกกันอยู่ไม่น้อย แต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้าไป
หรูอวี่จึงเสนอลู่ม่านไปว่า “ฮูหยิน หรือไม่ พวกเราก็จัดกิจกรรมอะไรสักอย่างดีไหมเจ้าคะ? เหมือนกับตอนที่พวกนายท่านใหญ่เปิดร้านก่อนหน้านี้?”
ลู่ม่านส่ายหน้า “เปล่าประโยชน์ ตอนนี้ปัญหาไม่ใช่ว่าผู้คนกินไม่ไหว แต่เพราะไม่กล้ามากิน ต่อให้จัดกิจกรรมไปก็ไร้ประโยชน์ เว้นเสียแต่.....”
“เว้นเสียแต่อะไรเจ้าคะ?” หรูอวี่รีบถาม
“เว้นเสียแต่จะมีใครสักคนเป็นตัวนำร่องเข้ามา หลังจากกินเสร็จก็ออกไปได้อย่างปลอดภัยไร้เรื่องราว แบบนั้นถึงจะสามารถสร้างความรู้สึกมั่นใจให้กับคนอื่น ๆ ได้!”
“เว้นเสียแต่จะมีใครสักคนเป็นคนนำร่องเข้ามาก่อน หลังจากกินเสร็จก็ออกไปได้อย่างปลอดภัยไร้เรื่องราว แบบนั้นถึงจะสามารถสร้างความรู้สึกมั่นใจให้กับคนอื่น ๆ ได้!”
ลู่ม่านพูด
หรูอวี่พยักหน้าเห็นด้วย "ฮูหยินพูดได้ถูกต้องแล้ว ติดแค่ว่าเรื่องมาจนถึงตอนนี้ จะมีคนมีหน้ามีตาที่ไหนกล้ามากันล่ะเจ้าคะ?"
เพิ่งจะสิ้นเสียง ด้านนอกก็พลันมีเสียงดังกรุ๊งกริ๊งลอยแว่วมา จากนั้นก็เห็นฮูหยินจ้าวเดินจากนอกร้านเข้ามาข้างใน
“คุณหนูชิงเหยียน เปิดร้านเมื่อไหร่ไม่เห็นส่งคนไปบอกกล่าวข้าเลยสักคำล่ะ? ถ้าไม่ใช่เพราะฮูหยินเฒ่าเชิญล่ะก็ ข้าคงยังไม่รู้เรื่องเลยนะเนี่ย!”
ลู่ม่านรีบลุกขึ้นยืนทันที “ฮูหยินเฒ่า??”
“ใช่แล้ว ฮูหยินกั๋วกงสั่งให้คนถือเทียบเชิญมาส่งให้ข้า ข้าถึงเพิ่งรู้ข่าวนี่แหล่ะ”
ที่แท้เป็นเพราะแม่ของเจ้าของร่างเดิม? เอ่อ ไม่สิ! ตอนนี้ก็เป็นแม่ของตัวเองแล้วเหมือนกัน บนร่างของลู่ม่านพลันบังเกิดความรู้สึกหนึ่ง เป็นความอบอุ่นที่ได้รับความรักจากคนในครอบครัวที่นอกเหนือไปจากเฉินจื่ออาน
“ฮูหยินเฒ่าช่างดีต่อเจ้ายิ่งนัก!” ฮูหยินจ้าวกล่าวด้วยรอยยิ้ม สาวใช้ที่ตามอยู่ข้างหลังยกของขวัญแสดงความยินดีในมือเข้ามาน้อมส่งให้
“เรื่องที่เจ้าเคยช่วยข้าก่อนหน้านี้ ข้ายังจดจำมันได้เสมอ ครั้งก่อนตระกูลเฉินเกิดเรื่อง สามีของข้าก็พยายามถวายฏีกาขึ้นไปหลายครั้งมาก แต่ก็ยังไม่มีวิธีที่จะช่วยเฉินจื่ออานออกมาได้ จนถึงตอนนี้ในใจข้าก็ยังเต็มไปด้วยความเสียใจและเสียดายนัก ถ้าเจ้ายังไม่ยอมให้ข้ามาแสดงน้ำใจอะไรบ้างล่ะก็ ข้าก็คงจะคิดว่าเจ้าไม่ยอมยกโทษให้ข้าแล้วล่ะ”
“จะเป็นไปได้อย่างไรกันเจ้าคะ?” ลู่ม่านแค่คิดไม่ถึงว่าพวกฮูหยินจ้าวจะยังยินดีคบค้าไปมาหาสู่กับตระกูลเฉินอยู่
“ไม่ใช่ก็ดีแล้ว! วันมะรืนนี้มีเพื่อนของข้าบางคนอยากจัดงานเลี้ยง ข้าขอจองโต๊ะไว้ห้าโต๊ะนะ วันมะรืนนี้อย่าลืมเตรียมไว้ให้ข้าด้วยล่ะ!!”
นี่เป็นการแสดงน้ำใจอย่างหนึ่งของนางด้วย ลู่ม่านจึงไม่กล่าวปฏิเสธอีก "ข้าจะเตรียมไว้ให้พร้อมอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ"
หลังจากฮูหยินจ้าวมา ก็มีบรรดาคุณหนูฮูหยินผู้สูงศักดิ์มากมาย พากันตบเท้าเข้ามาไม่ได้ขาด
ลู่ม่านรีบสั่งให้พวกเซียงหยุนมาจัดเตรียมแบบไม่ให้ขาดตกบกพร่อง ส่วนนางเองก็ไปรอฮูหยินกั๋วกงที่หน้าประตูร้าน
เป็นไปตามคาด เพียงไม่นานรถม้าของจวนกั๋วกงก็มาถึง วันนี้ฮูหยินกั๋วกงแต่งกายด้วยชุดที่สูงศักดิ์หรูหราอย่างหาได้ยากยิ่ง เห็นได้ชัดว่า นางตั้งใจมาที่นี่เพื่อออกหน้าสนับสนุนลู่ม่านอย่างเต็มที่
มีคนไม่น้อยที่จำฮูหยินกั๋วกงได้ จึงเริ่มพูดคุยถกประเด็นถึงเรื่องนี้ทันที
“ฮูหยินกั๋วกงถึงกับออกหน้าเองแล้ว ดูเหมือนจะไม่มีปัญหาอะไรจริง ๆ แล้วล่ะ”
“ใช่แล้ว ไม่ว่าฮ่องเต้จะกริ้วแค่ไหน ก็ยังต้องไว้หน้าจวนกั๋วกงอยู่หลายส่วน แบบนี้พวกเราก็ไม่ต้องกังวลอะไรแล้วสิ อยากกินหม้อไฟกันไหม? วันนี้ข้าขอเลี้ยงพี่น้องทั้งหลายเอง?”
“นี่เจ้าพูดเองนะ!”
ฝูงชนต่างทยอยเข้าไปในร้านครัวครบรสกันอย่างคลาคล่ำ เมื่อโมโม่เห็นดังนั้น ก็รีบมาบอกฮูหยินกั๋วกงทันที
เมื่อฮูหยินกั๋วกงได้ยินแล้ว บนใบหน้าก็ปรากฏรอยยิ้มน้อย ๆ ขึ้นมาได้ในที่สุด
ลู่ม่านเกิดความรู้สึกหลากหลายปนเปกันไปหมด ก้าวขึ้นมาข้างหน้าก่อนจะร้องถามออกไปอย่างจริงใจว่า “ท่านแม่ ท่านมาแล้วแท้ ๆ ทำไมถึงไม่เข้าไปข้างในล่ะเจ้าคะ?”
ฮูหยินกั๋วกงพอจะฟังน้ำเสียงที่ลู่ม่านเรียกว่าแม่ออกอยู่ ว่ามันแฝงความออดอ้อนออเซาะอยู่ในที ชั่วขณะนั้นนางรู้สึกแช่มชื่นยินดีมาก บนใบหน้ายิ่งเผยรอยยิ้มปลาบปลื้มปิติขึ้นมาอีกหลายส่วน
กลางฤดูร้อนที่แสนอบอ้าว ลู่ม่านกลับรู้สึกหนาวเหน็บไปทั้งร่าง
รอจนคนที่อยู่ห้องข้าง ๆ นั้นคิดเงินเสร็จเดินออกไปแล้ว สติของลู่ม่านก็ยังไม่กลับคืนมาเป็นปกติ
จนกระทั่งหรูอวี่มาเรียกลู่ม่าน จู่ ๆ ลู่ม่านก็พูดโพล่งขึ้นมาแบบกะทันหันว่า “หรูอวี่ ป้ายอาญาสิทธิ์ ที่ข้าให้เจ้าไปเมื่อคราวก่อน เจ้ายังเก็บไว้อยู่สินะ?”
หรูอวี่พยักหน้า "เก็บไว้ที่ห้องของข้าเจ้าค่ะ ถ้าท่านต้องการ ข้าจะกลับไปเอามาให้"
“ข้าไม่ได้ต้องการมัน!” ลู่ม่านพูดเสียงเฉียบขาด “ข้าแค่มีเรื่องที่จะมอบหมายให้เจ้าไปทำ พรุ่งนี้เช้า เจ้าจงถือป้ายอาญาสิทธิ์ นั้นเข้าวังไปแทนข้าสักครั้ง.....”
“มีอะไรหรือเจ้าคะ?” หรูอวี่เอ่ยถาม
ลู่ม่านยิ้มพลางพูดว่า “ไม่มีอะไรหรอก ข้าก็แค่คิดถึงลูกศิษย์น้อยในวังของข้าคนนั้นขึ้นมานิดหน่อยน่ะ เจ้าเอาอาหารไปให้เขาแทนข้าหน่อย แล้วก็รวดส่งจดหมายให้เขาด้วยอีกฉบับนึง!”
หรูอวี่ไม่นึกสงสัยอะไรนางทั้งสิ้น ยังยิ้มพลางพูดว่า “ฮูหยิน คุณชายน้อยในท้องของท่าน พอเกิดมาแล้วจะต้องเป็นคนที่ใจดีมีเมตตามากแน่ ๆ! ตอนนี้ท่านอ่อนโยนขึ้นมากเลยนะเจ้าคะ!”
ลู่ม่านยกยิ้มชืดชา ไม่พูดอะไรอีก
พอคืนนั้นกลับไป ลู่ม่านก็เขียนจดหมายฉบับนึงแล้วมอบให้หรูอวี่จริง ๆ ครั้งก่อนหรูอวี่เคยเข้าไปในวังแล้ว จึงพอจะคุ้นเคยกับถนนหนทางอยู่บ้าง ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
รอจนนางไปแล้ว ลู่ม่านก็พาเซียงหยุนไปที่ร้าน
รอจนกระทั่งลู่ม่านตรวจดูบัญชีเสร็จ หรูอวี่ก็กลับมา บอกว่าเรื่องที่ลู่ม่านมอบหมายให้ไปทำ นางทำได้เสร็จสิ้นเรียบร้อยหมดแล้ว ลู่ม่านพยักหน้ารับรู้ รอจนหรูอวี่ออกไป ถึงค่อยปิดสมุดบัญชีลงด้วยเสียงหัวเราะที่ฝืดฝืนเต็มที
ในวันนี้ ลู่ม่านอยู่แต่ในร้านทั้งวัน
จนกระทั่งช่วงบ่าย ๆ จวงลี่จ้งก็มาหานางที่นี่
เขาพาร่างกายที่เต็มไปด้วยฝุ่นผงเดินตรงเข้าไปในห้องพักผ่อนของลู่ม่าน ทันทีที่เข้ามาได้ ก็มองสำรวจลู่ม่านอย่างเคร่งเครียด เมื่อเห็นว่านางไม่เป็นไร ค่อยพูดว่า“เจ้าชิงลงมือกับหลี่ยวี่แล้วรึ? ทำไมถึงไม่รอให้ข้ากลับมาก่อน แต่กลับชิงลงมือเองแบบนี้ล่ะ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน
เป็นพอ.ที่กลับกรอก เป็นที่พึ่งไม่ได้เลย ยอกจะออกจากครอบครัวเลวๆนี่ไม่จริงอีก ภาระของนางเอก ถ่วงแข้งถ่วงขาจริงๆ...
เด็กไม่ตายเพราะแม่คลอดยากจะตายเพราะคนรับใช้ป้อนโจ๊กข้าวจนอิ่มตื้อ รอดได้คือดวงแข็งเว่อ...
อ่านไป งงไป ตัดสินประหาร หรืออภัยโทษ?...
หม่อมข้า? ใช้ MS Word ไม่ระวังเลย...
ตั้งแต่ต้นจนถึงตอน 337 แล้ว โดยภาพรวมพระเอกไม่ค่อยมีเสน่ห์ ไม่เฉียบแหลมเลย...
อะไรจะมีปมขนาดนั้น วุ่นวายตอกย้ำเหลือเกินเกี่ยวกับระบบศักดินา ทั้งที่มันเป็นคนละยุคสมัยกัน...
ตอน285-287 หายทำไงดี...
ตอนหายค่ะ 284แล้วกระโดดไป288เลยค่ะ...
บท 285-287 หายค่ะ 284แล้ว288เลย รบกวนด้วยค่ะ...
281-311 รบกวนด้วยค่ะ...