เวลานั้น นางมักรู้สึกคัดค้านในใจทุกครั้ง แต่ตอนนี้นางหวังจริง ๆ ว่าเฉินจิ่ออานจะกลับมาได้ แน่นอนว่านางย่อมไม่ต้องทำตัวเข้มแข็งขนาดนั้น แล้วยอมรับการปกป้องของเขาได้อย่างสบายใจ
จวงลี่จ้งเห็นว่าขอบตาของนางแดงเรื่อน้อย ๆ ยังคิดอยู่ว่านางคงฟังเข้าหูแล้ว
แต่คิดไม่ถึงว่า วินาทีต่อมาลู่ม่านกลับส่ายหน้าอย่างแน่วแน่ “ไม่จำเป็นหรอก คุณชายจวง ข้าสามารถปกป้องตัวเองได้”
ขณะที่ทั้งสองกำลังพูดกันอยู่ เด็กรับใช้ของจวงลี่จ้งก็เบียดตัวฝ่าฝูงชนเข้ามา แล้วตรงรี่เข้าไปกระซิบบางอย่างที่ข้างหูของจวงลี่จ้ง
เมื่อเห็นดังนั้น ลู่ม่านก็พูดว่า “ในเมื่อคุณชายจวงมีธุระที่ต้องทำ ก็ไปทำธุระเถอะ ข้ากับหรูอวี่จะไปร้านครัวครบรสแล้วล่ะ!”
จวงลี่จ้งอ้า ๆ หุบ ๆ ปาก เดิมทีทำท่าเหมือนว่าอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เมื่อคำพูดมาจนถึงริมฝีปาก กลับยอมแพ้ไปในที่สุด
หลังจากมองส่งทั้งสองคนจากไป จวงลี่จ้งค่อยรีบหันไปพูดกับเด็กรับใช้ว่า "รีบพาข้าไปดูเดี๋ยวนี้"
............
หลังเบียดฝ่าฝูงชนออกมาได้ หรูอวี่ก็ยังครุ่นคิดอะไรในใจอย่างหนักหน่วงไม่หยุด นางติดตามลู่ม่านมานานขนาดนี้แล้ว ถึงกับมองไม่ออกว่าคุณชายจวงมีใจรักใคร่ผูกพันต่อฮูหยินของพวกเขามาโดยตลอด!
แต่ว่า พอคิด ๆ ดูแล้วก็เห็นจะจริงอยู่
ฮูหยินของพวกเขาเก่งกาจยอดเยี่ยมขนาดนี้ จะถูกใครมารักใคร่ชอบพอเข้าก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
“กำลังคิดอะไรอยู่รึ?” ลู่ม่านขัดจังหวะภวังค์ความคิดของนาง
หรูอวี่รีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนา พูดขึ้นว่า “ฮูหยิน เช้านี้ท่านก็เหนื่อยมากแล้ว ไม่สู้วันนี้รีบกลับบ้านเร็วหน่อย ไม่ต้องไปที่ร้านแล้วดีกว่านะเจ้าคะ”
“จะทำแบบนั้นได้อย่างไรล่ะ?” ลู่ม่านค้าน “เมื่อครู่ข้าเพิ่งจะบอกลูกไปว่าต้องเข้มแข็ง แน่นอนว่าข้าสมควรต้องทำตัวให้เป็นแบบอย่าง ไม่อาจปล่อยให้ลูกดูถูกข้าได้”
หรูอวี่พูดไม่ออกอย่างหนัก "เด็กยังเล็กอยู่ จะรู้ได้อย่างไรกันเจ้าคะ?"
“เอาเป็นว่ารู้ก็แล้วกันน่า” ลู่ม่านให้เหตุผลแบบข้าง ๆ คู ๆ หรูอวี่ก็จนปัญญากับนางแล้วจริง ๆ
ขณะที่ทั้งสองคนกำลังคุยกัน รถม้าก็พลันโยกส่ายปัดป่ายไปมา หรูอวี่รีบเปิดม่านขึ้นแล้วร้องถามคนขับว่า "เกิดอะไรขึ้น?"
คนขับรถม้าก็ตื่นตกใจไม่ต่างกัน พูดว่า "ม้าที่อยู่ข้างหน้าถูกทำให้ตกใจขอรับ"
หรูอวี่มองตามเสียงไป ก็เห็นว่ามีรถม้าคันหนึ่งอยู่ข้างหน้าจริง ๆ พอมองดูอีกครั้ง นั่นไม่ใช่รถม้าที่จวิ้นจู่หว่านถิงแห่งจวนอ๋องหนิงมักใช้อยู่ประจำหรอกหรือ?
“ดูเหมือนจะเป็นจวิ้นจู่หว่านถิงนะเจ้าคะ?” หรูอวี่พูด
ลู่ม่านก็ยกม่านขึ้นดูด้วย จึงทันได้เห็นรถม้าของหลี่หว่านถิงวิ่งผ่านหน้ารถม้าของพวกนางไปอย่างรวดเร็วพอดี
ม่านรถถูกลมพัดจนสะบัดเปิด จนเห็นใบหน้าที่ยังอาบนองไปด้วยน้ำตาของหลี่หว่านถิง
หัวใจของลู่ม่านพลันบีบรัดขึ้นมาทันที เมื่อครู่นี้หลี่หว่านถิงคงไม่ได้มาดูการประหารชีวิตหรอกนะ? แบบนั้นก็เท่ากับว่า นางได้มาเห็นพี่ชายสองคนของตัวเองต้องตายภายใต้คมดาบของเพชฌฆาตน่ะสิ
นางเป็นเด็กสาวที่ดีงามเพียบพร้อมขนาดนั้นแท้ ๆ จะเปลี่ยนแปลงไปเพราะเรื่องนี้ไหมนะ?
ในใจลู่ม่านคิดอยากจะเข้าไปปลอบใจนาง แต่กลับไม่รู้ว่าตัวเองควรใช้สถานะอะไรไปพบนาง
ต่อให้หลี่หว่านถิงจะไม่รู้ว่าเป็นลู่ม่านเองที่ลงมือจัดการอ๋องหนิงกับหลี่ยวี่จนไปสู่ความตาย แต่ในใจของนางเอง ก็คงไม่อาจย้อนเวลากลับไปเป็นเหมือนกับเมื่อก่อนได้แล้วสินะ?
ลู่ม่านอดทอดถอนใจไม่ได้ ก่อนจะเก็บสายตากลับมา “เดินทางต่อเถอะ ไปที่ร้าน”
รอจนลู่ม่านกลับมาถึงในตอนค่ำ ถึงพบว่าบรรยากาศในบ้านก็ไม่ค่อยดีนัก
อาศัยจังหวะที่โมโม่ออกมา ลู่ม่านรีบเข้าไปถามว่า "เกิดอะไรขึ้นรึ?"
โมโม่ถอนหายใจอย่างเคร่งเครียด “ฮูหยินกำลังทุกข์ใจอยู่เจ้าค่ะ นางกับพระชายาเฒ่าหนิงเป็นเพื่อนกันมานานหลายปี วันนี้พระชายาเฒ่าสั่งให้คนมาส่งหนังสือตัดสัมพันธ์กับนาง บอกว่าจากนี้จะขอตัดสัมพันธ์ในฐานะเพื่อนกับฮูหยินแล้ว”
ลู่ม่านขมวดคิ้วมุ่น อดพูดพึมพำไม่ได้ว่า “คนอย่างพระชายาเฒ่าหนิงนั่นก็ไม่ใช่คนดีอะไรสักหน่อย ท่านแม่ตัดความสัมพันธ์กับนางเสียได้ ก็ไม่แน่ว่าจะเป็นเรื่องที่ไม่ดีนี่”
“จะว่าอย่างนั้นก็ได้เจ้าค่ะ แต่ฮูหยินของพวกเราเดิมทีก็ใช่ว่าจะมีเพื่อนอะไรมากมาย ความรู้สึกทุกข์ใจเช่นนี้ ย่อมต้องมีบ้างเป็นธรรมดา”
ลู่ม่านเพียงแค่พยักหน้ารับรู้ “อื้ม ข้าเข้าใจแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน
เด็กไม่ตายเพราะแม่คลอดยากจะตายเพราะคนรับใช้ป้อนโจ๊กข้าวจนอิ่มตื้อ รอดได้คือดวงแข็งเว่อ...
อ่านไป งงไป ตัดสินประหาร หรืออภัยโทษ?...
หม่อมข้า? ใช้ MS Word ไม่ระวังเลย...
ตั้งแต่ต้นจนถึงตอน 337 แล้ว โดยภาพรวมพระเอกไม่ค่อยมีเสน่ห์ ไม่เฉียบแหลมเลย...
อะไรจะมีปมขนาดนั้น วุ่นวายตอกย้ำเหลือเกินเกี่ยวกับระบบศักดินา ทั้งที่มันเป็นคนละยุคสมัยกัน...
ตอน285-287 หายทำไงดี...
ตอนหายค่ะ 284แล้วกระโดดไป288เลยค่ะ...
บท 285-287 หายค่ะ 284แล้ว288เลย รบกวนด้วยค่ะ...
281-311 รบกวนด้วยค่ะ...
บทที่241-311 หายค่ะ...