สรุปเนื้อหา บทที่ 53 ทิศทาง – ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน โดย ฝูเชิง
บท บทที่ 53 ทิศทาง ของ ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน ในหมวดนิยายประวัติศาสตร์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ฝูเชิง อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
“ตกลง!” ลู่ม่านรั้งเหยาซื่อ “ข้าบอกว่าคนแรกซื้อหนึ่งแถมหนึ่ง ก็ซื้อหนึ่งแถมหนึ่ง! จะไม่ผิดสัญญา”
เพิ่งสิ้นเสียง สามเหวินก็วางตรงหน้าลู่ม่านแล้ว เหยาซื่อเห็นลู่ม่านตกลง จึงนำกระดาษเคลือบน้ำมันมาห่อหกห่อแล้วยื่นให้หญิงคนนั้น
ลู่ม่านบอกวิธีทำขนมปังผลไม้กวนให้นางฟังอย่างใจดี และวิธีกินด้วย
พี่สาวฟังแล้วชอบมาก บอกตรงๆ ว่าถ้ากลับไปกินแล้วอร่อย ครั้งหน้ามาอีกแน่นอน
เถ้าแก่จางที่ยืนอยู่ข้างๆ เห็นสิ่งนี้แล้วรู้สึกว่าคนทั้งกลุ่มมีหัวคิด ที่แท้สามารถคิดแบบนี้ได้ด้วย
ถ้าเทียบกันแล้ว เมื่อก่อนเขายึดติดกับแบบแผนเกินไป
ช่วงเวลาที่ลู่ม่านไม่ยุ่ง เขาถามลู่ม่านอีกครั้ง “แม่นางแบบนี้ไม่กลัวขาดทุนเหรอ”
ลู่ม่านยิ้ม “จะเป็นไปได้ยังไง เราใช้เงินเยอะสำหรับจ่ายค่าประชาสัมพันธ์แค่ในตอนแรก การประชาสัมพันธ์เป็นสิ่งที่มีราคาแพงหน่อย” ในยุคใหม่ ต้องทำประชาสัมพันธ์ให้ดี อย่างน้อยก็จะจ่ายเป็นหมื่นเป็นแสน
แต่นางใช้จ่ายไปแค่ไม่กี่เหวินเท่านั้น!
“ยิ่งไปกว่านั้น หลังจากประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์แล้ว แน่นอนว่าจะมีคนจำนวนมากมาซื้อ”
เถ้าแก่จางรู้แจ้งในทันที เขาแทบรอดูไม่ไหว กระตือรือร้นอยากจะนำผลไม้กวนเหล่านั้นกลับไปลองทำดู
ลู่ม่านเอาให้เขาสามสิบขวด สัญญาว่าหากขายดี เถ้าแก่จางสามารถไปหานางที่หมู่บ้านไป่ฮัวได้ เถ้าแก่จางตอบตกลงซ้ำๆ
และเนื่องจากการลองกินเมื่อครู่ แผงขายของจึงค่อยๆ เริ่มทรงตัว ลู่ม่านถึงได้อธิบายกับเหยาซื่อครู่หนึ่ง ก่อนจะพาเฉินจื่ออานไปภัตตาคารเฟิ่งหลายพร้อมกับห้าขวด
วันนี้เป็นวันตลาดนัด กิจการของภัตตาคารเฟิ่งหลายก็ดีมากเช่นกัน
ตอนลู่ม่านกับเฉินจื่ออานเข้าไป ข้างในมีคนจำนวนมากอยู่แล้ว
เพราะความคับข้องใจที่เพิ่งพบเจอในร้านขายของชำบ้านซุน ครั้งนี้ลู่ม่านจึงไม่ได้วางแผนตรงไปหาผู้ดูแลร้าน แต่พาเฉินจื่ออานไปนั่งตรงที่ที่โดดเด่นสะดุดตาที่สุดในภัตตาคาร
จากนั้นเริ่มสั่งอาหาร
เฉินจื่ออานไม่เข้าใจเลย เอ่ยกระซิบเตือน “น้องนาง ข้าไม่หิว เจ้าสั่งของชอบตัวเองก็พอ”
ลู่ม่านเหลือบมองเขาอย่างหงุดหงิด “คนบื้อ!”
เฉินจื่ออานยังคงไม่เข้าใจ เพราะเขาไม่เคยเห็นปลาดิบแร่ ไม่รู้ว่าบนปลาดิบแร่ของที่นี่มีสิ่งที่เป็นผลไม้กวน
เมื่อปลาดิบแร่ของโต๊ะข้างๆ มาส่ง ทันใดนั้นเขาถึงได้สตินึกขึ้นได้ อดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปลูบผมของลู่ม่าน “เสี่ยวม่าน ทำไมเจ้ามีสมองที่ฉลาดแบบนี้”
ลู่ม่านเชิดคางอย่างภูมิใจ “เจ้านั่นแหละที่โง่เกินไป!”
เฉินจื่ออานไม่โกรธ เขาก็ไม่เคยคิดว่าตัวเองฉลาด
ขณะที่คุยกัน ปลาดิบแร่ของพวกเขาก็มา บนชิ้นปลาบางๆ มีผลไม้กวนสีเหลืองสดป้ายอยู่
ลู่ม่านคีบหนึ่งชิ้น จิ้มผลไม้กวนแล้วยื่นให้เฉินจื่ออาน “ลองชิมดู!”
เฉินจื่ออานกินแล้ว ลู่ม่านจึงเอาผลไม้กวนที่พวกเขานำมาทาลงไป แล้วคีบอีกชิ้นให้เฉินจื่ออาน เปรียบเทียบทั้งสองฝั่ง เฉินจื่ออานถึงได้ตระหนักว่าเหตุใดลู่ม่านถึงมีความมั่นใจในผลไม้กวนของพวกเขา
ผลไม้กวนของพวกเขามีกลิ่นมะนาวจางๆ มีรสหวานอมเปรี้ยวกำลังพอดี โดยเฉพาะหลังจากรวมกับปลาดิบแร่แล้ว ความเป็นกรดทำให้ระงับกลิ่นคาว เข้ากันได้ดี เข้ากันได้ดีจริงๆ
“อร่อย!” เฉินจื่ออานกินปลาดิบแร่เป็นครั้งแรกก็รู้สึกเบิกบานใจแล้ว
จากนั้นพวกเขาเอาผลไม้กวนของภัตตาคารเฟิ่งหลายออกจากปลาดิบแร่ แล้วทาผลไม้กวนของตัวเองลงไปและกินอย่างรื่นรมย์
ลูกค้าโต๊ะข้างๆ เห็นจึงเรียกเสี่ยวเอ้อร์ “พวกเราก็อยากได้ผลไม้กวนแบบโต๊ะนั้น”
บนชั้นสองของภัตตาคารเฟิ่งหลายมีห้องกว้างขวางมากห้องหนึ่ง ในวันปกติ ผู้ดูแลร้านจะสั่งการอยู่ที่นี่
เพราะรู้จุดแข็งของพวกลู่ม่านอยู่ก่อนแล้วผู้ดูแลร้านจึงสุภาพมาก ทันทีที่ขึ้นมา ก็เรียกเสี่ยวเอ้อร์ขึ้นมารินชาให้
ลู่ม่านเพิ่งกินปลา กำลังต้องการชาพอดี
เมื่อเห็นว่าพวกเขาดื่มเสร็จแล้ว ผู้ดูแลร้านถึงเริ่มพูด “ไม่ทราบว่าทั้งสองท่านขายผลไม้กวนยังไง”
“ขวดละห้าเหวิน!” ลู่ม่านพูด พวกเขาภัตตาคารเฟิ่งหลายมีเงิน จึงไม่จำเป็นต้องช่วยประหยัดเงิน
“ขวดแบบเมื่อครู่น่ะเหรอ”
“ใช่แล้ว!” ลู่ม่านพูด “ทุกขวดหนักหนึ่งชั่ง”
ผู้ดูแลร้านเป็นคนฉลาด อดไม่ได้ที่จะไล่บี้ถาม “ราคาขวดแบบนั้นมันแพงพอสมควรไม่ใช่เหรอ เพียงแต่ภัตตาคารเราไม่ต้องการขวดแบบนั้น! แค่วางอยู่ในครัวด้านหลัง จะต้องการความดูดีไปเพื่ออะไร”
ลู่ม่านเลิกคิ้ว เฉินจื่ออานจึงเปิดปากพูด “ความหมายของผู้ดูแลร้านคือต้องการปรับเปลี่ยนเหรอ”
“แน่นอน!” ผู้ดูแลร้านยิ้มและพูดว่า “เพียงแต่ข้ายังตัดสินใจไม่ได้ ตอนนี้พวกท่านมีในมือเท่าไร ให้ข้าทั้งหมดก่อน เอาไว้ข้าคุยกับเจ้าของภัตตาคารแล้วค่อยตัดสินใจ”
ลู่ม่านพยักหน้า ถึงอย่างไรในมือนางก็มีไม่เท่าไร เหลืออยู่สี่ขวด “ตอนนี้มีแค่เท่านี้”
“ตกลง!” หลังจากผู้ดูแลร้านรับมา ได้เรียกผู้ช่วยนำเงินมาให้ยี่สิบเหวิน ทั้งสองถึงได้ออกจากภัตตาคารเฟิ่งหลาย
แม้ได้มาเพียงยี่สิบเหวิน แต่ลู่ม่านก็มีความสุขมาก
เดิมทีธุรกิจที่แท้จริงแบบนี้เป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นเหมือนอย่างการล่าสัตว์หรือเก็บดอกเก๊กฮวยที่ได้ผลกำไรเป็นกอบเป็นกำใรคราวเดียว ท้ายที่สุดแล้วนางอาศัยช่องโหว่ของคนสมัยใหม่
หากนางต้องการทำอย่างจริงจังมีหลักการ ต้องพัฒนาอาณาจักรธุรกิจของตัวเองไปทีละขั้น และจะเริ่มต้นจากห้างสรรพสินค้ารายวันเหล่านี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน
เป็นพอ.ที่กลับกรอก เป็นที่พึ่งไม่ได้เลย ยอกจะออกจากครอบครัวเลวๆนี่ไม่จริงอีก ภาระของนางเอก ถ่วงแข้งถ่วงขาจริงๆ...
เด็กไม่ตายเพราะแม่คลอดยากจะตายเพราะคนรับใช้ป้อนโจ๊กข้าวจนอิ่มตื้อ รอดได้คือดวงแข็งเว่อ...
อ่านไป งงไป ตัดสินประหาร หรืออภัยโทษ?...
หม่อมข้า? ใช้ MS Word ไม่ระวังเลย...
ตั้งแต่ต้นจนถึงตอน 337 แล้ว โดยภาพรวมพระเอกไม่ค่อยมีเสน่ห์ ไม่เฉียบแหลมเลย...
อะไรจะมีปมขนาดนั้น วุ่นวายตอกย้ำเหลือเกินเกี่ยวกับระบบศักดินา ทั้งที่มันเป็นคนละยุคสมัยกัน...
ตอน285-287 หายทำไงดี...
ตอนหายค่ะ 284แล้วกระโดดไป288เลยค่ะ...
บท 285-287 หายค่ะ 284แล้ว288เลย รบกวนด้วยค่ะ...
281-311 รบกวนด้วยค่ะ...