ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 54

ทั้งสองกลับไปที่ตลาดตะวันออก ผลไม้กวนจำนวนมากทางฝั่งเหยาซื่อก็ขายเกือบหมดแล้ว เหยาซื่อทำงานเสร็จสิ้น แม้แต่ลุงขายขนมนึ่งร้านข้างๆ ก็เข้ามา ในมือเขาถือขนมนึ่งมาหลายชิ้นพลางมองเหยาซื่อด้วยรอยยิ้ม

“ขอบคุณพวกเจ้า วันนี้ร้านข้าขายดีมาก ยังมีเหลืออยู่ไม่เท่าไร เอามาให้พวกเจ้าลองชิม”

เหยาซื่อกำลังจะโบกมือ แต่ลุงคนนั้นยืนยัน เหยาซื่อจึงจำต้องรับไว้

ลุงคนนั้นยังไม่ไป แต่มองดูผลไม้กวนเหล่านั้น

“เจ้าขายผลไม้กวนเท่าไร ช่วงเช้าข้าเห็นคนซื้อเยอะ ข้าจะซื้อกลับไปให้หลานสาวตัวน้อยลองชิมสักหน่อย”

ยังมีอยู่หนึ่งห่อพอดี ลู่ม่านจึงยื่นให้เขา “ไม่ต้องซื้อหรอก”

คนนั้นไม่ยอม ยืนกรานจ่ายหนึ่งเหวินแล้วเดินไป

ลู่ม่านยิ้ม ก่อนราชวงศ์ถังยังคงมีคนซื่อสัตย์อยู่มาก มีน้อยคนที่จะแย่อย่างถึงที่สุดเช่นเฉินหลี่ซื่อ

โยนเงินหนึ่งเหวินลงในกล่องของเหยาซื่อแล้ว นางจึงเดินเข้าไปช่วยเหยาซื่อปิดร้าน

หลังจากกลับบ้าน พวกเหยาซื่อก็ตรงไปที่บ้านของลู่ม่าน และเทกำไรทั้งหมดจากผลไม้กวนวันนี้ออกมา

ที่กระทบกุกกักลงบนโต๊ะเป็นเหรียญทองแดงทั้งหมด วันนี้พวกเขามีของไม่มาก แต่ถึงอย่างนั้นก็ขายได้มากกว่าสามร้อยเหวิน

ลู่ม่านหยิบเงินห้าสิบเหวินออกมายื่นให้เหยาซื่อ “พี่เหยา นี่เป็นค่าจ้างที่พวกท่านช่วยข้าขายผลไม้กวนวันนี้”

เหยาซื่อโบกมือซ้ำแล้วซ้ำเล่า “นี่มันมากเกินไปแล้ว!” ในสมัยก่อนราชวงศ์ถัง แม้จะทำงานในอำเภอที่ใช้แรงงานหนักก็แค่สามร้อยเหวินต่อเดือนเท่านั้น ค่าจ้างเท่ากับวันละสิบเหวิน

แต่วันนี้พวกเขาไปแค่ครึ่งวัน ลู่ม่านให้ค่าจ้างพวกเขาคนละยี่สิบห้าเหวิน!

ตัวนางยังไม่เคยทำเงินได้มากขนาดนี้มาก่อน! เหยาซื่อปฏิเสธอย่างหนักแน่นไม่ยอมรับ “ก็แค่ช่วยงาน ทำไมต้องเกรงใจอย่างนี้”

“พี่เหยา!” ลู่ม่านยิ้ม “ข้าไม่ได้ต้องการให้พวกท่านช่วยแค่วันเดียว! วันนี้เป็นวันแรก พวกเราทำได้ดีมาก ห้าสิบเหวินนี้ถือเป็นอั่งเปา! เป็นสิริมงคล ท่านต้องรับไปนะ”

เช่นนี้เหยาซื่อถึงได้ยอมรับไปอย่างไม่เต็มใจ กลับบ้านไปพร้อมกับหวังเอ้อร์หนิวอย่างปีติยินดี

อีกสองวันข้างหน้า ลู่ม่านให้ตัวเองหยุดพัก เพราะไม่รู้ว่าในเมืองจะเกิดเหตุการณ์อะไร นางจึงไม่อยากรีบเร่งทำผลไม้กวน จึงพักผ่อนอยู่บ้านกับเฉินจื่ออานเป็นเวลาสองวัน

ขาของเฉินจื่ออานในตอนนี้ดีขึ้นมากแล้ว บางครั้งยังสามารถยืนได้สักพัก แต่ลู่ม่านไม่อนุญาตให้เขายืนนานเกินไป กลัวจะเป็นการทำร้ายกระดูก

ใช้ประโยชน์จากการว่างในสองวันนี้ เหยาซื่อจึงนำเข็มกับด้ายมาทุกวัน ค่อยๆ สอนให้ลู่ม่านตัดชุด

ลู่ม่านเคยคิดมาตลอดว่านางเป็นคนฉลาดมาก แต่หลังจากทำเสื้อผ้าด้วยตัวเองตามเหยาซื่อแล้ว นางก็ค้นพบข้อบกพร่องของนาง ไม่ว่านางจะพยายามอย่างไรก็ยังทำออกมาดูเหมือนตะขาบ

ตัวลู่ม่านอยากยอมแพ้ แต่เหยาซื่อยังคงให้กำลังใจนาง “ไม่เลวนะ เพิ่งเริ่มก็แบบนี้ทั้งนั้นแหละ”

ลู่ม่านถูกให้กำลังใจ จึงรู้สึกดีมั่นใจในตัวเองขึ้นมา

ยุ่งอยู่กับการทำเสื้อผ้าทั้งกลางวันกลางคืน มันเป็นชุดข้างใน เป็นสิ่งที่นางตั้งใจทำให้เฉินจื่ออาน

หลังจากยุ่งอยู่สามวัน กระทั่งที่สุดในคืนที่สาม เมื่อเฉินจื่ออานกำลังจะพักผ่อน นางแอบซุกมันไว้ใต้หมอนของเฉินจื่ออาน

ทำเรื่องแบบนี้ครั้งแรก นางยังรู้สึกค่อนข้างเขินอาย ทำเสร็จแล้วตัวนางจึงไปอาบน้ำชะรำร่างกาย

ที่จริงเมื่อครู่เฉินจื่ออานเห็นนางวางของ ทันทีที่นางออกไปเขาก็พลิกมันออกดู ฝีเข็มเย็บได้หยาบมากจริงๆ แต่ทำไมในหัวใจเขาถึงรู้สึกมีความสุขมากกันนะ

เฉินจื่ออานมองดูมันอยู่สักพัก ก่อนจะวางมันไว้ใต้หมอน

กระทั่งเมื่อลู่ม่านออกมา เห็นเฉินจื่ออานนอนลงแล้ว เสื้อผ้าใต้หมอนยังคงอยู่เช่นเดิม ดูเหมือนเฉินจื่ออานจะไม่สังเกตเห็น นางจึงนอนลงเงียบๆ ด้วยความผิดหวังเล็กน้อย

ผ่านไปสักพัก ถึงได้รู้สึกถึงความอบอุ่นจากร่างกายที่โอบกอดนางจากด้านหลัง “เสี่ยวม่าน ขอบคุณเจ้า”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน