สรุปตอน บทที่ 534 รับปากเงื่อนไขของข้าหนึ่งข้อ – จากเรื่อง ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน โดย ฝูเชิง
ตอน บทที่ 534 รับปากเงื่อนไขของข้าหนึ่งข้อ ของนิยายประวัติศาสตร์เรื่องดัง ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน โดยนักเขียน ฝูเชิง เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
" จื่ออาน .... " ในที่สุดลู่ม่านก็ร้องไห้ออกมา นางออกแรงกอดโถใบนั้นไว้จนแน่น ปล่อยให้ความเย็นเยียบบนโถซึมซาบจากกลางฝ่ามือ แทรกซึมเข้าสู่ผิวเนื้อของนางทีละเล็กทีละน้อย
“เจ้าหลอกข้า เจ้าไม่ได้บอกหรือว่าอย่างไรก็จะกลับมาแน่นอน? ทำไมเจ้าถึงหลอกข้าได้ล่ะ?”
“เสี่ยวม่าน….” จวงลี่จ้งยื่นมือออกไปหมายจะตบไหล่ปลอบลู่ม่าน แต่นิ้วมือที่เพิ่งยื่นออกไป กลับหยุดชะงักค้างกลางอากาศ
"เจ้าไปซะเถอะ!" ลู่ม่านพูด “ข้าอยากอยู่คนเดียวตามลำพังสักครู่!”
จวงลี่จ้งเม้มปาก “งั้นข้าจะอยู่เป็นเพื่อนเจ้าเอง”
“ไม่ต้องหรอก!” ลู่ม่านพูดอีกครั้ง “ข้าอยากอยู่ตามลำพังกับจื่ออานสักครู่!”
จวงลี่จ้งได้ยินดังนั้น ก็มองไปที่โถกระเบื้องใบนั้นด้วยสายตาลึกซึ้งแวบหนึ่ง จนถึงเวลานี้แล้ว เขายังถึงกับต้องนึกอิจฉาโถกระเบื้องเย็นเยียบใบนั้นด้วยซ้ำ ไม่รู้จริง ๆ ว่าหากวันใดวันหนึ่ง เขาต้องกลายเป็นเถ้ากระดูกในโถกระเบื้องแบบนั้นบ้าง ลู่ม่านจะปฏิบัติต่อเขาเช่นไร?
เขาก้าวเดินออกไปถึงด้านนอก แต่จวงลี่จ้งไม่ได้จากไป แค่ยืนอยู่ตรงนั้นเงียบ ๆ
ตอนนี้เองที่ลู่ม่านก้มลงมองโถกระเบื้องที่เย็นเฉียบราวน้ำแข็ง หัวใจแทบจะแหลกสลายกลายเป็นเถ้าถ่าน
“เจ้ารู้ไหม ข้าที่มาอยู่บนโลกใบนี้ มีเจ้าเพียงคนเดียวที่เป็นคนในครอบครัว ตอนนี้เจ้าจากไปแล้ว ทิ้งข้าไว้ให้มีชีวิตอยู่เพียงลำพัง มันยังจะมีประโยชน์อะไรอีกล่ะ?”
น้ำตาร่วงหยดลงบนโถกระเบื้อง ลู่ม่านลุกขึ้นยืน มองออกไปนอกหน้าต่าง
คนแห่งโชคชะตาที่สรวงสวรรค์ได้บันดาลมาให้นาง หมดสิ้นวาสนาต่อกันแค่ตรงนี้แล้ว บางทีนางควรจะกลับไปสู่ยุคปัจจุบัน กลับไปยุคของนางที่นางได้จากมาแล้วสินะ?
ขณะที่กำลังคิดอยู่ จู่ ๆ ในท้องก็พลันเกิดการเคลื่อนไหว เหมือนกับปลาตัวน้อย ๆ ที่เข้าสู่ธารน้ำ กระดิกหางน้อย ๆ สร้างแรงกระเพื่อมจนนางรับรู้ได้
ลู่ม่านตกใจจนตัวแข็งทื่อ ยกมือขึ้นมาลูบ ๆ ที่หน้าท้องตัวเองด้วยความรู้สึกไม่อยากเชื่อ
นางตั้งท้องได้เกือบครึ่งปีแล้ว ที่นางพยายามฝืนยืนหยัดมาตลอด ก็เพราะนี่คือลูกของนางกับเฉินจื่ออาน แต่ในใจของนาง ชีวิตน้อย ๆ ที่อยู่ในท้องถือได้ว่าเป็นหลักฐานแห่งความรักระหว่างนางกับเฉินจื่ออานที่สุกงอมจนตกผลึกออกมานั่นเอง
แต่ในเสี้ยวนาทีที่เด็กคนนี้เคลื่อนไหว จู่ ๆ ในหัวใจของลู่ม่านก็ผุดความรู้สึกหนึ่งที่ยากจะอธิบายได้ขึ้นมา นางคิดว่านับจากนี้ไป เด็กคนนี้อาจจะไม่ใช่แค่สิ่งยืนยันถึงการตกผลึกทางความรักของนางกับเฉินจื่ออานเท่านั้นแล้ว แต่ยังมีอีกตัวตนหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน นั่นก็คือนี่เป็นลูกของนาง
นางยกมืออันสั่นเทาแนบลงไปบนหน้าท้องเบา ๆ
นางไม่มีเฉินจื่ออานแล้ว แต่นางกลับมีครอบครัวที่แท้จริงเพิ่มมาอีกคน ลูกของนางคือผู้สืบต่อสายเลือดของนาง นับจากนี้ไป นางจะไม่ใช่คนที่ไม่มีญาติร่วมสายเลือดเดียวกันอีกต่อไปแล้ว
ในยุคสมัยที่เหน็บหนาวอ้างว้างเช่นนี้ นับจากนี้ไป นางเท่ากับมีพลังที่จะดำเนินชีวิตต่อแล้ว
.......
หลังจากที่จวงลี่จ้งกลับไป ลู่ม่านก็ตรงไปที่ห้องของฮูหยินกั๋วกง
ฮูหยินกั๋วกงยังคงกังวลไม่หาย เมื่อเห็นลู่ม่านเดินเข้ามา ก็ถอนหายใจเฮือกหนึ่งด้วยความโล่งอก รีบเรียกแม่นมทันที “เร็วเข้า รีบไปเอาหมอนรองนั่งมา ชิงเหยียนจะได้นั่งสบายขึ้นหน่อย”
ลู่ม่านนั่งลงแล้ว ค่อยพูดขึ้นว่า “ขอบคุณท่านแม่ที่เป็นห่วงเจ้าค่ะ วันนี้ที่ข้ามาเพราะมีเรื่องที่อยากคุยกับท่าน”
“เรื่องอะไรรึ?” ฮูหยินกั๋วกงยิ้ม
“ข้าอยากส่งเฉินจื่ออานกลับไปที่หมู่บ้านไป่ฮัว!” ลู่ม่านพูด
“ชิงเหยียน… ตอนนี้ร่างกายของเจ้า.…”
“ข้าทำได้เจ้าค่ะ!” ลู่ม่านไม่รอให้ฮูหยินกั๋วกงพูดจบ ก็ตัดบทคำพูดของนางทันควัน "จื่ออานเป็นคนของหมู่บ้านไป่ฮัว ตอนนี้เขาจากไปแล้ว ข้าในฐานะภรรยาของจื่ออาน ย่อมมีเหตุผลอันสมควรที่จะส่งเขากลับไป"
ฮูหยินกั๋วกงเอ่ยปาก “แต่ว่า เจ้ารับหนังสือหย่ามาแล้วนะ”
นางเองก็รู้สึกว่าเฉินจื่ออานน่าสงสาร แต่เพราะนางก็เป็นแม่ด้วยเหมือนกัน แน่นอนว่านางต้องไม่อยากให้ลูกสาวไปจากตัวเอง
“ข้ารับหนังสือหย่ามาแล้วก็จริง แต่นั่นเป็นแค่แผนการรับมือชั่วคราวที่เหมาะสมที่สุด ในสถานการณ์นั้นข้าไม่รับไม่ได้ ในใจของข้า ไม่ว่าอย่างไรข้าก็ยังคงเป็นภรรยาของจื่ออานตลอดไป”
แต่กลับคิดไม่ถึงเลยว่า จะให้เวลานางเพียงแค่สองปีเท่านั้น
นางยังไม่ทันได้ทำเรื่องอะไรกับเฉินจื่ออานตั้งมากมายหลายเรื่อง กลับพบว่าไม่มีโอกาสเสียแล้ว
“ฮูหยิน....” หรูเฟิงรู้สึกทุกข์ทรมานใจ ลู่ม่านรีบยกมือขึ้นหยุดคำพูดที่เตรียมจะโทษตัวเองของนางทันที "นี่ล้วนเป็นเจตนาของสวรรค์ทั้งนั้น เจ้าไม่จำเป็นต้องโทษตัวเองเลย"
หรูอวี่เก็บของเสร็จแล้ว เดินออกมาพูดว่า “พี่สาว ท่านวางใจเถอะ ข้าจะดูแลฮูหยินอย่างดี!”
หรูเฟิงพยักหน้ารับ “รอฉลองปีใหม่แล้ว พวกเราจะกลับไปเยี่ยมพวกท่าน”
“ได้!” ลู่ม่านหัวเราะ
วันรุ่งขึ้น รถม้าก็แล่นออกจากจวนกั๋วกงตั้งแต่เช้าตรู่ ลู่ม่านนั่งอยู่ในรถม้า มองดูเงาร่างของฮูหยินกั๋วกงที่ค่อย ๆ เล็กลงไปทุกขณะ
หรูอวี่หยิบเสื้อคลุมขึ้นมายื่นส่งให้ลู่ม่าน “ตอนเช้ามีน้ำค้างมาก ฮูหยินระวังจะเป็นหวัดนะเจ้าคะ”
ลู่ม่านพยักหน้า อุ้มโถของเฉินจื่ออานไว้ในอ้อมแขน เอนกายพิงกับหน้าต่างรถทำท่าเหมือนจะผล็อยหลับไป
รถม้าวิ่งตรงออกจากประตูเมืองไป ในขณะที่กำลังจะเลี้ยว จู่ ๆ คนขับก็หยุดรถอย่างกะทันหัน “ฮูหยิน มีคนอยู่ข้างหน้าขอรับ!”
ลู่ม่านรีบชะเง้อมองออกไป ก็เห็นจวงลี่จ้งขี่ม้าตัวสูงใหญ่ตัวหนึ่ง มายืนดักขวางเส้นทางอยู่ข้างหน้าโดยตรง
“คุณชายจวง มีเรื่องอะไรอีกอย่างนั้นรึ?” ลู่ม่านถาม
เมื่อเห็นดังนั้น จวงลี่จ้งก็รีบพลิกกายลงจากหลังม้า เดินมาที่หน้าต่างตรงหน้าของลู่ม่าน “เสี่ยวม่าน เจ้ายังจำได้หรือไม่ว่าตอนที่ข้าช่วยเจ้าไว้ก่อนหน้านี้ เจ้าเคยรับปากเงื่อนไขของข้าไว้ข้อหนึ่ง ตอนนั้นเจ้าพูดไว้ว่า ขอแค่มันไม่ใช่คำขอที่ละเมิดศีลธรรมอันดี ไม่ว่าข้าจะขอร้องเรื่องอะไรก็ตาม เจ้าก็จะยอมรับปากทุกอย่าง?”
ลู่ม่านพยักหน้า "แน่นอนว่าจำได้!"
“ถ้าอย่างนั้นตอนนี้ข้าจะพูดคำร้องขอของข้าล่ะนะ ข้าอยากให้เจ้ารั้งอยู่ที่นี่ แต่งให้กับข้า!” จวงลี่จ้งเอ่ยคำร้องขออย่างชัดถ้อยชัดคำ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน
เป็นพอ.ที่กลับกรอก เป็นที่พึ่งไม่ได้เลย ยอกจะออกจากครอบครัวเลวๆนี่ไม่จริงอีก ภาระของนางเอก ถ่วงแข้งถ่วงขาจริงๆ...
เด็กไม่ตายเพราะแม่คลอดยากจะตายเพราะคนรับใช้ป้อนโจ๊กข้าวจนอิ่มตื้อ รอดได้คือดวงแข็งเว่อ...
อ่านไป งงไป ตัดสินประหาร หรืออภัยโทษ?...
หม่อมข้า? ใช้ MS Word ไม่ระวังเลย...
ตั้งแต่ต้นจนถึงตอน 337 แล้ว โดยภาพรวมพระเอกไม่ค่อยมีเสน่ห์ ไม่เฉียบแหลมเลย...
อะไรจะมีปมขนาดนั้น วุ่นวายตอกย้ำเหลือเกินเกี่ยวกับระบบศักดินา ทั้งที่มันเป็นคนละยุคสมัยกัน...
ตอน285-287 หายทำไงดี...
ตอนหายค่ะ 284แล้วกระโดดไป288เลยค่ะ...
บท 285-287 หายค่ะ 284แล้ว288เลย รบกวนด้วยค่ะ...
281-311 รบกวนด้วยค่ะ...