บทที่ 541 เก่าไม่ไปใหม่ไม่มา – ตอนที่ต้องอ่านของ ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน
ตอนนี้ของ ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน โดย ฝูเชิง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายประวัติศาสตร์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 541 เก่าไม่ไปใหม่ไม่มา จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
ก่อนหน้านี้หลังจากตระกูลเฉินได้รับโทษ ก็มีคนมากมายเริ่มค่อยๆไม่ให้เกียรติตระกูลเฉินแล้ว
โดยเฉพาะผู้หญิงชาวบ้านที่ชอบนินทาคนอื่น ก่อนหน้านี้พวกที่อยากยกลูกสาวของตนให้จวงลี่จ้ง ล้วนถูกปฏิเสธจนหมด
ตอนนี้เห็นจวงลี่จ้งเอาใจใส่ลู่ม่านที่เป็นหญิงหม้ายลูกติดสองอย่างมาก ก็เริ่มพูดจาเหน็บแนมมากขึ้น
“คนของตระกูลเฉิน ยังมาหาไม่บ่อยเท่าคุณชายจวง” มีคนหนึ่งพูดขึ้นมา
“จะพูดแบบนั้นก็ไม่ได้ ผู้หญิงคนหนึ่งเลี้ยงลูกสองคน ถือว่าลำบากไม่น้อย หากทนไม่ได้จริงๆ ก็สามารถเข้าใจได้ หมู่บ้านไป่ฮัวของเรา ไม่ใช่บ้านนอกคอกนาที่ไม่มีความรู้อะไรเลย.....”
ลู่ม่านขมวดคิ้ว พร้อมยิ้มหัวเราะ
“ป้าๆ ทุกคนหมายความว่าอย่างไร? คุณชายจวงเป็นเพื่อนของข้ากับจื่ออาน เมื่อจื่ออานไม่อยู่แล้ว เพื่อนก็ไปมาหาสู่กันไม่ได้แล้วหรือ? ตามอย่างที่พวกเจ้าพูด ญาติพี่น้องของพวกเจ้าไม่อยู่แล้ว ก็ไม่สามารถติดต่อกันแล้วหรือ?”
ลู่ม่านพูดขึ้นมาอย่างเคร่งขรึม ทุกคนฟังแล้วใบหน้าร้อนผ่าวไปหมด มีบางคนพูดขึ้นมาอย่างไม่พอใจว่า “เจ้าพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง? เจ้ากำลังสาปแช่งพวกเราหรือ?”
ลู่ม่านไม่สนใจพวกเขา หันไปพูดกับจวงลี่จ้งว่า “คุณชายจวง วันนี้เจ้ามาพอดี ข้ามีเรื่องเกี่ยวกับโรงงานจะคุยด้วยพอดี......”
พูดเสร็จ นางก็เดินนำออกไป
จวงลี่จ้งมองดูแผ่นหลังที่มุ่งมั่นของลู่ม่าน อดไม่ได้ที่จะอมยิ้ม
นี่คือลู่ม่านที่เขาเคยเห็นอย่างที่ไม่มีใครเหมือน นางไม่มีทางเปลี่ยนแปลงตนเองเพียงเพราะสายตาของคนอื่น
มาถึงร้านอาหาร ลู่ม่านเชิญจวงลี่จ้งทานมื้อเที่ยง เมื่อทานข้าวเสร็จแล้ว นางค่อยพูดขึ้นว่า
“ระหว่างทางก่อนที่จะมาหมู่บ้านไป่ฮัว คำพูดที่ข้าพูดกับเจ้าพวกนั้น ข้าไม่รู้ว่าเจ้ายังจำได้ไหม?”
มือจวงลี่จ้งหยุดชะงัก แล้วก็พูดขึ้นว่า “กับคำพูดที่ข้าไม่อยากจดจำ ข้าลืมไปหมดแล้ว”
“ข้าไม่ลืม” ลู่ม่านพูดต่อไปอีกว่า “ตอนที่เจ้าช่วยจื่ออาน เคยบอกว่าข้าจะทำตามเงื่อนไขของเจ้าหนึ่งอย่าง เงื่อนไขนั้น ข้าทำไม่ได้ ดังนั้นตอนนี้ข้าเอาสิ่งที่ข้ามีทั้งหมดมาให้เจ้า หวังว่าเจ้าจะรับไว้”
พูดเสร็จ นางก็ผลักเอกสารกองหนึ่งไปตรงหน้าเขา
“นี่เป็นกิจการภายใต้ชื่อของข้ากับจื่ออาน รวมทั้งโรงงานในหมู่บ้านไป่ฮัว อีกอย่างร้านในเครือร้านม่านเซิงในตำบลก็ยกให้เจ้า หวังว่าจะสามารถทดแทนได้....”
เงื่อนไขที่มากมายขนาดนี้ หากเป็นคนอื่น คงจะดีใจเป็นบ้าแล้ว
แต่จวงลี่จ้งเพียงแค่นิ่งอึ้งมองดูลู่ม่าน สักพักค่อยยิ้มหัวเราะขึ้นมา พร้อมพูดขึ้นว่า “เขาดีขนาดนั้นเลยหรือ คู่ควรที่เจ้ายอมเอาทรัพย์สมบัติทุกอย่างมาแลก?”
“คู่ควร” ลู่ม่านพูดขึ้น
“แล้วทำไมเมื่อกี้ถึงพูดต่อหน้าชาวบ้านแบบนั้น?” จวงลี่จ้งพูดขึ้นมาอย่างขมขื่น
“นั่นเป็นคำพูดจากใจของข้า ข้าเห็นเจ้าเป็นเพื่อนคนหนึ่งจริงๆ” ลู่ม่านพูดขึ้นมาอย่างจริงใจ
“เพื่อน?” จวงลี่จ้งสงสัยว่า “เจ้ารังเกียจขนาดนั้น ข้านึกว่าระหว่างเราแม้แต่ศัตรูก็ไม่ใช่”
“ไม่ได้รังเกียจ” ลู่ม่านพูดขึ้นว่า “ข้าแค่อยากให้เจ้ารู้ นี่คือจุดยืนของข้า”
“จุดยืนของเจ้าที่จะไม่มีวันยอมรับข้า กระทั่งยอมยกกิจการทั้งหมดมาขับไล่ข้า” จวงลี่จ้งพูดขึ้น แล้วก็ลุกขึ้นมา
“ไม่ได้ขับไล่ เป็นการชดเชย”
“ดี” จวงลี่จ้งกัดฟันพูดขึ้นว่า “ในเมื่อชดเชย งั้นข้าก็จะรับไว้ทั้งหมด ข้าจะรับเอาของพวกนี้ทั้งหมดไปจากหมู่บ้านไป่ฮัว เพื่อนบ้านของเจ้าพวกนั้น พวกนางก็จะตกงาน รวมทั้งเจ้า เจ้าจะไม่มีแหล่งที่มาของรายได้ เจ้าคิดดูให้ดี”
“เจ้ามีวิธีเยอะแยะไม่ใช่หรือ? เจ้าคิดหาวิธีสิ”
ลู่ม่านได้ยินแบบนี้ จึงหันไปมองคนที่พูดคนนั้น
เหยาซื่อเพิ่งเข้ามาพอดี ได้ยินประโยคนี้ ก็พูดขึ้นมาอย่างไม่พอใจว่า “เจ้าพูดอะไรไปเรื่อย? เสี่ยวม่านช่วยทุกคนมามากมายขนาดนี้ ตอนนี้นางเดือดร้อน ทำไมทุกคนถึงคิดถึงแต่ตนเอง?”
พูดเสร็จ นางก็พูดปลอมลู่ม่านว่า “ไม่มีโรงงานแล้วก็ช่างเถอะ เมื่อก่อนตอนที่ไม่มีโรงงาน เราก็มีชีวิตอยู่กันได้ไม่ใช่หรือ? ทำไมตอนนี้ถึงไม่ได้ล่ะ?”
“บ้านของเจ้ามีร้าน เจ้าก็พูดได้สิ” ประโยคนี้คนเมื่อกี้ที่เห็นเป็นเรื่องสมควรพูดขึ้นมา
เหยาซื่อถลึงตาใส่เขา พร้อมพูดขึ้นว่า “งั้นข้าก็อยากต่อว่าเจ้า เจ้าบอกว่าข้ามีร้าน เงินในมือของเจ้าก็เก็บออมไว้ไม่น้อย ทำไมเจ้าไม่พูด? ทุกคนถามใจตนเอง ในมือพวกเจ้าไม่มีเงินหรือ?”
เมื่อก่อนแม้เพียงเส้นผมสองเส้นทุกคนก็ไม่มีปัญญาซื้อ ตอนนี้ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว บนหัวก็มีเครื่องประดับไม่น้อย
ถูกเหยาซื่อพูดเช่นนี้ ทุกคนต่างก้มหน้าลงอย่างละอายใจ เฉินเหมยเซียงก็พูดขึ้นมาว่า “พี่เหยาพูดถูก ตอนนี้เสี่ยวม่านเดือดร้อน เราควรให้อภัย.....”
คนอื่นที่เหลือต่างพยักหัว เมื่อกี้ที่พูดหาเรื่องพวกนั้นก็ก้มหน้าลงอย่างอับอาย แล้วก็เดินหนีไป
รอเมื่อพวกนางไปแล้ว คนที่เหลือต่างก็พูดปลอบลู่ม่าน ในใจลู่ม่านค่อยสบายใจขึ้นมาบ้าง ในโลกนี้มีคนไม่ดี แต่ลู่ม่านก็ยังคงเชื่อมั่นว่า คนดีมามากกว่า
“ทุกคนไม่ต้องเป็นห่วงข้า แน่นอนว่าไม่ต้องเป็นห่วงตนเองเหมือนกัน โรงงานไม่มีแล้ว แต่เราก็ยังมีอย่างอื่น”
ลู่ม่านพูดออกมาเช่นนี้ เหยาซื่อรีบหันไปมองตาเฉินเหมยเซียง ภายในสายตาของอีกฝ่าย สามารถเห็นได้ถึงความดีใจ
“เสี่ยวม่าน เจ้ามีความคิดอะไรดีๆอีกแล้วหรือ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน
เป็นพอ.ที่กลับกรอก เป็นที่พึ่งไม่ได้เลย ยอกจะออกจากครอบครัวเลวๆนี่ไม่จริงอีก ภาระของนางเอก ถ่วงแข้งถ่วงขาจริงๆ...
เด็กไม่ตายเพราะแม่คลอดยากจะตายเพราะคนรับใช้ป้อนโจ๊กข้าวจนอิ่มตื้อ รอดได้คือดวงแข็งเว่อ...
อ่านไป งงไป ตัดสินประหาร หรืออภัยโทษ?...
หม่อมข้า? ใช้ MS Word ไม่ระวังเลย...
ตั้งแต่ต้นจนถึงตอน 337 แล้ว โดยภาพรวมพระเอกไม่ค่อยมีเสน่ห์ ไม่เฉียบแหลมเลย...
อะไรจะมีปมขนาดนั้น วุ่นวายตอกย้ำเหลือเกินเกี่ยวกับระบบศักดินา ทั้งที่มันเป็นคนละยุคสมัยกัน...
ตอน285-287 หายทำไงดี...
ตอนหายค่ะ 284แล้วกระโดดไป288เลยค่ะ...
บท 285-287 หายค่ะ 284แล้ว288เลย รบกวนด้วยค่ะ...
281-311 รบกวนด้วยค่ะ...