ตอน บทที่ 547 ข่าวลือ จาก ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 547 ข่าวลือ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายประวัติศาสตร์ ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน ที่เขียนโดย ฝูเชิง เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
พูดเสร็จ นางก็ไม่รอให้ลู่ม่านตอบ หันตัวแล้วก็วิ่งไปทันที
ยายอิงตะลึงอ้าปากค้าง พร้อมพูดขึ้นว่า “ฮูหยิน นี่.....”
“ปล่อยนางไปเถอะ” ลู่ม่านหัวเราะ ภายในใจของนางที่อึดอัด จู่ๆก็ผ่อนคลายลง
ฉันเชื่อว่าครั้งนี้ เฉินหลิ่วเอ๋อตั้งใจที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองจริงๆ
ทางด้านแคส ยังคงไม่มีความเคลื่อนไหวอะไร แต่ทางด้านลู่ม่าน กลับมีงานยุ่งขึ้นมาอีกแล้ว ตอนช่วงเดือนสี่ ทั่วทั้งหมู่บ้านไป่ฮัวเริ่มเพาะปลูกฤดูใบไม้ผลิกันแล้ว
การเพาะปลูกในฤดูใบไม้ผลิในตอนนี้ เมื่อเทียบกับเมื่อก่อนนั้น ถือว่าประหยัดแรงกำลังอย่างมากแล้ว
คนส่วนใหญ่ ยังคงรักษาวิธีหว่านเมล็ดเหมือนอย่างตอนที่เฉินจื่ออานยังอยู่
ตอนที่ลู่ม่านอุ้มฉางเซิงเดินอยู่บนถนน มองดูทุกอย่าง ราวกับเห็นว่าเฉินจื่ออานยังอยู่ข้างกายนาง
โชคดีที่ หลังจากการเพาะปลูกในฤดูใบไม้ผลิเสร็จสิ้นแล้ว ในที่สุดทางด้านแคสก็ส่งข่าวมา
บอกว่าสินค้าของพวกเขาในครั้งนี้ ยังกลับไปไม่ถึงบ้าน ขณะที่พักผ่อนตรงท่าเรืออื่นๆ ทุกคนในพื้นที่ซื้อไปหมดแล้ว
บอกให้พวกลู่ม่านเตรียมอีกสองพันชิ้น พวกเขารอรับสินค้าอยู่
หรูอวี่ได้ยินแล้วก็ดีใจอย่างมาก รีบนับจำนวนสินค้าที่ทำไว้แล้วก่อนหน้านี้ และก็เริ่มให้พวกคนในหมู่บ้านจัดทำอีก
ลู่ม่านเห็นท่าทีดีใจของนาง แล้วก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงตอนที่ตนเองเพิ่งมาถึงที่นี่
อดไม่ได้ที่จะพูดเตือนขึ้นว่า “นี่เป็นเพียงเพิ่งเริ่มต้น ต่อไปหากเจ้าอยากที่จะทำกิจการใหญ่ ยังต้องฝึกฝนความอดทนของเจ้า โดยเฉพาะในด้านการทำธุรกิจการค้า จะต้องไม่แสดงความสุขหรือความโกรธออกมา คนอื่นจะได้ไม่รู้ถึงความในใจของเจ้า เมื่อตอนที่เผชิญหน้า เจ้าถึงจะได้เปรียบเหนือกว่าคนอื่น”
หรูอวี่พยักหัว พร้อมพูดขึ้นว่า “คำสั่งสอนของฮูหยิน ข้าล้วนจำไว้แล้ว ต่อไปจะระมัดระวัง จะไม่วู่วามอีก”
“แบบนี้ดีแล้ว เจ้าไปทำงานเถอะ”
เมื่อหรูอวี่เดินออกไปแล้ว เหอเย่วค่อยไปเดินออกมาจากข้างใน พร้อมพูดขึ้นอย่างยิ้มแย้มว่า “คุณชายน้อยกับคุณหนูน้อยนอนหลับแล้ว เจ้าก็พักผ่อนสักพักเถอะ”
“เจ้าก็เหมือนกัน” ลู่ม่านยิ้มแย้ม ดึงมือเหอเย่ว พร้อมพูดขึ้นว่า “หลายเดือนมานี้เจ้าช่วยข้าเลี้ยงลูก ก็เหนื่อยมากแล้วเหมือนกัน”
“ข้าไม่เหนื่อย” เหอเย่วหัวเราะพร้อมพูดขึ้นว่า “แต่หรูอวี่ ข้าเห็นว่านางเหมาะสมที่จะทำธุรกิจการค้าจริงๆ ก็ดี จะได้ช่วยแบ่งเบาภาระของเจ้า พี่เสี่ยวม่าน ข้านับถือเจ้ามากจริงๆ”
ลู่ม่านถามขึ้นมาอย่างไม่เข้าใจว่า “นับถือข้าอะไร?”
“นับถือในความคิดอ่านของท่าน ก่อนที่ยังไม่ได้มาเจอท่าน ผู้หญิงในความทรงจำของข้า น่าจะเป็นเหมือนอย่างแม่ของข้าแบบนั้น ทำทุกอย่างเพื่อครอบครัว แล้วก็เหมือนอย่างพี่หลิวในตอนนั้น หากไม่ใช่เพราะท่านให้กำลังใจพี่หลิว ไม่รู้ว่าตอนนี้พี่หลิวจะเป็นยังไง”
หลิวซื่อ?
ลู่ม่านครุ่นคิดอยู่อย่างละเอียด ช่างไม่กล้าคิดจริงๆ หรือนางยังเป็นเหมือนอย่างเมื่อก่อน อดทนต่อทุกอย่าง? มองดูสามีของตนเองพาเมียน้อยแต่ละคนเข้ามา สุดท้ายทำให้ตนเองกับลูกสาวของตนเองถูกแย่งไปจนหมด
น่ากลัวมากเลย
“ข้าไม่รู้ ว่าตนเองมีผลกระทบอย่างมากมายขนาดนี้” ลู่ม่านพูดขึ้นอย่างยิ้มแย้มว่า “โชคดีที่ตอนนี้ พี่หลิวดีขึ้นมากแล้ว เหอฮัวก็ได้ดี นางหมักเหล้าด้วยตนเอง ถือว่าค้นพบสิ่งที่ตนเองชอบ”
ได้ยินแบบนี้ ท่าทีเหอเย่วค่อนข้างเปลี่ยนไปในทันที
ลู่ม่านอึ้ง พร้อมถามขึ้นว่า “ทำไมหรือ? เกิดอะไรขึ้นหรือ?”
เหอเย่วเม้นริมฝีปาก พร้อมพูดขึ้นว่า “พี่เสี่ยวม่าน เจ้ายังไม่รู้ใช่ไหม? ช่วงนี้คนอื่นต่างกำลังร่ำลือว่า พี่หลิวกับฉางหวู่ ใกล้ชิดสนิทสนมกันมาก”
ลู่ม่านขมวดคิ้ว ที่จริงเมื่อหนึ่งปีก่อน ตอนนั้นนางเห็นฉางหวู่ปกป้องหลิวซื่อ ก็มีความรู้สึกแปลกแล้ว คิดไม่ถึงว่า จนถึงตอนนี้แล้วทั้งสองคนก็ยังไม่ได้อยู่ด้วยกันหรือ?
“ถือเป็นเรื่องดี” ลู่ม่านพูดขึ้น
ที่ไหนได้ เพิ่งเข้าไปข้างใน ด้านนอกก็มีเสียงเด็กร้องไห้ดังขึ้น นางตกใจ รอเมื่อนางวิ่งกลับมา ก็เห็นเหอเย่วกับเฉินจูชิงก็ตกอกตกใจเหมือนกัน
ลู่ม่านเห็นแล้วก็ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี
เจ้าฉางเซิงน้อย เอามือของเฉินเยว่จุนยัดเข้าไปในปาก แล้วก็ใช้ฟันบดกัดอย่างแรง
ฉางเซิงไม่มีฟัน ยังไงก็เจ็บไม่มากอยู่แล้ว เพียงแต่เสี่ยวเยว่จุนตกใจ ร้องไห้เสียใจอย่างมาก ลู่ม่านรีบไปแยกทั้งสองคน แล้วเอาสิ่งของในมือยื่นให้กับเฉินเยว่จุน
“เยว่จุนไม่ต้องกลัว”
เวลาต่อมา ก็มีเสียงร้องไห้ดังขึ้นอีก ครั้งนี้เป็นเสียงร้องไห้ของฉางเซิง ราวกับมีคนแย่งของเล่นสุดที่รักของเขาไป
ลู่ม่านพูดขึ้นอย่างจนใจว่า “เจ้าคนนี้ ยังมีหน้าร้องไห้?”
ยายอิงได้ยินแล้วก็เข้ามาเห็นภาพนี้ก็ไม่รู้จะร้องไห้หรือหัวเราะดี พร้อมพูดขึ้นว่า “เห็นที คุณชายน้อยของเราชอบเสี่ยวเยว่จุน อยากฝากสัญลักษณ์ไว้ให้กับเสี่ยวเยว่จุน รอเมื่อโตแล้วจะได้รู้จักจำกันได้”
ลู่ม่านไม่เชื่อเรื่องพวกนี้หรอก แต่การพูดแบบนี้ฟังดูแล้วก็น่าสนใจดี จึงยิ้มหัวเราะไม่พูดว่าอะไร
ในขณะที่กำลังพูดคุยกันอยู่ หลิวซื่อเดินเข้ามาจากด้านนอก พร้อมพูดขึ้นว่า “เสี่ยวม่าน ที่บ้านเจ้านี้คึกคักดีจัง ข้าได้ยินเสียงหัวเราะมาแต่ไกลแล้ว”
“พี่หลิวรีบมานั่ง” ลู่ม่านพูดขึ้น เหอเย่วเห็นแล้วก็พูดกับเฉินจูชิงว่า “พาเยว่จุนกลับไปเถอะ”
“พวกเจ้ากลับไปพร้อมกันเถอะ ที่นี่ไม่มีอะไรแล้ว” ลู่ม่านพูดขึ้น เหอเย่วเห็นแบบนี้แล้วก็ค่อยอุ้มเสี่ยวเยว่จุนขึ้นมา แล้วทั้งสามคนก็กลับไปด้วยกัน
หลิวซื่อมองดูเงาหลังของทั้งสามคน แววตาเต็มไปด้วยความอิจฉา พร้อมพูดขึ้นว่า “คิดไม่ถึงว่า สุดท้ายแล้ว เหอเย่วถือว่าเป็นคนที่มีความสุขที่สุด หากอนาคตเหอฮัวก็ได้มีชีวิตแบบนี้ ข้าก็พอใจแล้ว”
ลู่ม่านคิดถึงคำพูดเหอเย่วที่พูดเมื่อกี้ จึงพูดทีเล่นขึ้นมาว่า “เหอฮัวยังเร็วไป ตัวเจ้าสิ ไม่พิจารณาเรื่องของตนเองบ้างหรือ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน
เป็นพอ.ที่กลับกรอก เป็นที่พึ่งไม่ได้เลย ยอกจะออกจากครอบครัวเลวๆนี่ไม่จริงอีก ภาระของนางเอก ถ่วงแข้งถ่วงขาจริงๆ...
เด็กไม่ตายเพราะแม่คลอดยากจะตายเพราะคนรับใช้ป้อนโจ๊กข้าวจนอิ่มตื้อ รอดได้คือดวงแข็งเว่อ...
อ่านไป งงไป ตัดสินประหาร หรืออภัยโทษ?...
หม่อมข้า? ใช้ MS Word ไม่ระวังเลย...
ตั้งแต่ต้นจนถึงตอน 337 แล้ว โดยภาพรวมพระเอกไม่ค่อยมีเสน่ห์ ไม่เฉียบแหลมเลย...
อะไรจะมีปมขนาดนั้น วุ่นวายตอกย้ำเหลือเกินเกี่ยวกับระบบศักดินา ทั้งที่มันเป็นคนละยุคสมัยกัน...
ตอน285-287 หายทำไงดี...
ตอนหายค่ะ 284แล้วกระโดดไป288เลยค่ะ...
บท 285-287 หายค่ะ 284แล้ว288เลย รบกวนด้วยค่ะ...
281-311 รบกวนด้วยค่ะ...