ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 550

สรุปบท บทที่ 550 ปล่อยวาง: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน

อ่านสรุป บทที่ 550 ปล่อยวาง จาก ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน โดย ฝูเชิง

บทที่ บทที่ 550 ปล่อยวาง คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายประวัติศาสตร์ ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ฝูเชิง อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

เหอฮัวหดคอ หันไปมองลู่ม่านที่อยู่ด้านหลัง

จนถึงตอนนี้แล้ว ลู่ม่านหันไปพยักหัวให้เหอฮัว ให้นางพูดความจริงออกมา

เหอฮัวจึงเล่าเรื่องในวันนี้ออกมา เล่าให้หลิวซื่อฟังทุกอย่าง

หลิวซื่อฟังแล้ว ร่างกายโอนเอน แทบจะเป็นลม

หลิวซื่อทำให้เหอฮัวตกใจ รีบร้องไห้พร้อมพูดขึ้นว่า “แม่ ล้วนเป็นความผิดของข้า ท่านไม่ต้องโกรธ จะด่าจะตีข้าก็ได้"

ฉางหวู่ก็ตกใจแทบแย่ รีบพูดขึ้นว่า “หนังสือแจ้งแต่งงานถือว่าโมฆะ ข้าจะกลับไป....”

“หนังสือแจ้งแต่งงานเป็นเรื่องจริง ถือเป็นโมฆะได้อย่างไร หากจะโทษก็ต้องโทษข้า” ลู่ม่านพูดขึ้น

ได้ยินแบบนี้ หลิวซื่อค่อยได้สติกลับมา แล้วหันไปมองลู่ม่าน

ลู่ม่านพูดขึ้นว่า “เมื่อกี้เห็นท่าทีของเจ้า ใช่ว่าในใจของเจ้าไม่มีฉางหวู่ ข้าก็ถามเหอฮัวแล้ว หนังไม่มีปัญหาอะไรกับการที่เจ้ากับฉางหวู่จะอยู่ด้วยกัน กระทั่งยังอวยพรพวกเจ้า เจ้ายังจะลังเลอะไรอีก?”

“ข้า....” หลิวซื่อยังพูดไม่จบ ก็ถูกลู่ม่านพูดแทรกขึ้นมาว่า

“ไม่ต้องบอกข้าว่าเจ้ากลัวคนอื่นหัวเราะเยาะ หรือคำพูดที่บอกว่าทำเพื่อลูก มันไม่มีความหมาย ไม่มีความหมายเลยสักนิด” ลู่ม่านพูดขึ้นมาอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “ข้านึกว่าเจ้าแยกทางจากเฉินจื่อฟู่ แล้วจะเข้าใจอะไรต่างๆขึ้นเยอะ แต่สุดท้ายเจ้าก็ยังเป็นคนเหมือนอย่างเมื่อก่อนที่ไม่กล้าทำเพื่อตนเอง ข้านึกว่าชี้แนะเจ้าแล้วเจ้าจะดีขึ้น เห็นทีข้าคงคาดหวังในตัวเจ้ามากเกินไป ช่างเถอะ หากเจ้าอยากจะถือว่าหนังสือแจ้งแต่งงานเป็นโมฆะ งั้นก็เอามาคืนข้า ข้าเป็นคนทำลายเอง ถือเสียว่าความหวังดีของข้านั้นเป็นส่วนเกิน เรื่องของเจ้าข้าจะไม่ยุ่งอีก”

เป็นครั้งแรกที่ลู่ม่านพูดกับหลิวซื่ออย่างโกรธโมโห ดังนั้นหลิวซื่อจึงตกใจพอสมควร

“เจ้ารู้ไหมว่า ข้าอิจฉาเจ้าขนาดไหน?” จู่ๆ ลู่ม่านก็พูดขึ้นมาว่า “คนที่คอยเป็นห่วงเป็นใยเจ้า กับคนที่เจ้าห่วงใยล้วนยังมีชีวิตอยู่ พวกเจ้ายังสามารถมองเห็นกันและกัน ยังมีอนาคตที่ดี ไม่เหมือนกับข้า ต่อให้ข้าเสียใจมากแค่ไหน จื่ออานก็ไม่กลับมาแล้ว”

ลู่ม่านพูดเสร็จ ทุกคนที่อยู่ในลานต่างก็เงียบ

หรูอวี่มองดูลู่ม่านอย่างเห็นใจ ช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ ลู่ม่านเอาใจใส่ดูแลลูก เริ่มหาเงินใหม่ เริ่มมีรอยยิ้มขึ้นมา

นางนึกว่า เรื่องการจากไปของนายท่าน นางสามารถปล่อยวางได้แล้ว คิดไม่ถึงว่า นางเพียงแค่แอบเก็บไว้ภายในใจ ไม่พูดออกมาง่ายๆ เท่านั้นเอง

“ฮูหยิน.....” หรูอวี่เรียกขึ้นมาอย่างห่วงใย

ลู่ม่านกลับคว้าเอาหนังสือแจ้งแต่งงานในมือหลิวซื่อคืนมา แล้วก็หันตัวจะกลับไป

“น้าสาม” เหอฮัวร้องไห้วิ่งออกมากอดลู่ม่านไว้ พร้อมพูดขึ้นว่า “น้าสาม อาสามไม่อยู่แล้ว แต่เจ้ายังมีข้า ยังมีฉางเซิงกับหว่านเอ๋อ เจ้าไม่ต้องเสียใจ ดีไหม?”

การปลอบโยนจากเด็กนั้นบริสุทธิ์ที่สุด ลู่ม่านยิ่งรู้สึกอยากร้องไห้

“เสี่ยวม่าน” หลิวซื่อเดินไปข้างหน้า พร้อมพูดขึ้นด้วยเสียงอ่อนเบาว่า “ขอโทษ ข้าอ่อนแอเกินไป”

ลู่ม่านเงียบ หลิวซื่อเห็นแบบนี้ ก็เดินไปคว้าจับมือฉางหวู่ ฉางหวู่คิดไม่ถึงว่าหลิวซื่อจะจับมือเขา จึงตกอกตกใจ เมื่อสัมผัสกันแล้วก็จะชักมือกลับ แต่ถูกหลิวซื่อคว้าจับไว้แน่น

“เสี่ยวม่าน เจ้าพูดถูก ข้าก็อายุไม่น้อยแล้ว ไม่ควรที่จะหลบๆซ่อนๆอีกต่อไป อาศัยตอนที่ยังหนุ่ม ข้าควรที่จะคว้าเอาทุกอย่างที่เป็นของตนเองไว้ ไม่รอให้สูญเสียไปแล้วค่อยมาเสียใจทีหลัง”

ลู่ม่านได้ยินแบบนี้ก็เงยหน้าขึ้น หันไปมองหลิวซื่อ

“ดังนั้น เสี่ยวม่าน เอาหนังสือแจ้งแต่งงานคืนให้ข้าได้ไหม?” หลิวซื่อพูดขึ้นมาอย่างจริงจัง

“แม่” เหอฮัวดีใจจนน้ำตาร่วงไหล เห็นฉางหวู่ยังนิ่งอึ้ง นางรีบผลักฉางหวู่ พร้อมพูดขึ้นว่า “พ่อ เจ้ายังนิ่งอึ้งอยู่ทำไม?”

ฉางหวู่ค่อยได้สติกลับมา แล้วก็รีบคว้าเอากระเป๋าตรงเอวออกมา พร้อมพูดขึ้นว่า “ให้เจ้า.....”

เหอฮัวยื่นมือไปรับ ข้างในมีเสียงดัง แล้วนางก็พูดขึ้นทันทีว่า “นี่เป็นของรับขวัญหรือ? มีใครเขาให้กันแบบนี้?”

ลู่ม่านค่อยโล่งอก เห็นทีตาหลังจากแก่เฉินกับเฉินหลี่ซื่อผ่านเรื่องราวมามากมาย ในที่สุดก็ปล่อยวางแล้ว

“เสี่ยวม่านมาแล้วหรือ?” เสียงของเฉินหลี่ซื่อดังมาจากข้างใน พร้อมพูดขึ้นว่า “ฉางเซิงกับหว่านเอ๋อก็มาด้วย”

เฉินหลี่ซื่อพูดไปด้วย พร้อมทั้งวิ่งมาทางนี้ด้วย ตาแก่เฉินที่อยู่ข้างในได้ยิน ก็เดินโซเซออกมา

“หลานชายกับหลานสาวมาแล้ว รีบมาให้ปู่ดูสิ”

ลู่ม่านเห็นแบบนี้ จึงให้เหอเย่วกับหรูอวี่อุ้มไปให้ตาแก่เฉินดู

ตอนนี้คนแก่ทั้งสองคนชอบเด็กอย่างมาก ไม่ช้าทั่วทั้งลานก็มีเสียงคึกคักขึ้นมา ลู่ม่านเห็นในครัวมีควันไฟ คิดว่าหลิวซื่อคงอยู่ที่นั่น จึงเดินไปหา

ที่ไหนได้ เพิ่งเดินไปถึงหน้าประตู ก็ได้ยินเสียงเฉินหลิ่วเอ๋อพูดขึ้นว่า

“พี่สะใภ้สอง ที่ผ่านมาข้าทำตัวไม่ดี ตอนนั้นข้าเห็นแก่ตัวเกินไป ไม่รู้เรื่องอะไร สิ่งที่ได้ล่วงเกินไป เจ้าอย่าได้ถือสา”

เฉินหลิ่วเอ๋อพูดขึ้นมาอย่างจริงจัง หลิวซื่อตกใจกับท่าทีของนางจนอึ้งไปสักพัก แล้วค่อยพูดขึ้นว่า “ล้วนเป็นเรื่องที่ผ่านไปแล้ว ข้าลืมไปนานแล้ว”

“ขอบคุณพี่สะใภ้สอง” เฉินหลิ่วเอ๋อพูดขึ้นว่า “พวกเจ้าจะแต่งงานกันเมื่อไหร่ ข้าไปเพิ่มสินสอดให้กับเจ้า”

“จะเกรงใจทำไม?” หลิวซื่อยิ้มหัวเราะพร้อมพูดขึ้นว่า “ตอนนี้เจ้าเลี้ยงลูกคนเดียวก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่ต้องสิ้นเปลืองหรอก”

“ไม่สิ้นเปลือง.....”

น้ำเสียงของทั้งสองคนเต็มไปด้วยความอบอุ่น ในใจลู่ม่านก็อบอุ่น จึงก้าวเท้าเดินเข้าไปพร้อมพูดขึ้นว่า “หลิ่วเอ๋อพูดถูก ข้าก็จะไปเพิ่มสินสอดให้เหมือนกัน”

เฉินหลิ่วเอ๋อได้ยินเช่นนี้ เงยหน้าขึ้นมามองดูลู่ม่านแล้วก็ยิ้มหัวเราะ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน