สรุปตอน บทที่ 59 รับซื้อส้ม – จากเรื่อง ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน โดย ฝูเชิง
ตอน บทที่ 59 รับซื้อส้ม ของนิยายประวัติศาสตร์เรื่องดัง ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน โดยนักเขียน ฝูเชิง เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
ผู้ใหญ่บ้านทั้งประหลาดใจทั้งยินดี “เจ้าบอกว่า พวกเจ้าต้องการให้คนในหมู่บ้านไปเก็บส้มบนภูเขา และพวกเจ้าจะใช้เงินซื้อส้มพวกนั้นเหรอ”
“ถูกต้อง!” เฉินจื่ออานพูด
“แต่พวกเจ้าต้องการผลไม้เหล่านั้นไปทำไม” ผู้ใหญ่บ้านสงสัยมาก
ลู่ม่านรู้ว่าถ้าทำเรื่องนี้ในหมู่บ้านไป่ฮัว คงเป็นไปไม่ได้ที่จะปิดบังผู้ใหญ่บ้าน จึงอธิบายความจริงครึ่งหนึ่ง
“คือแบบนี้ ท่านก็รู้ว่าหลังจากข้ากับจื่ออานแยกตัวออกมาจากบ้านใหญ่ เลยไม่มีแหล่งที่มาของรายได้ บังเอิญว่าก่อนหน้านี้ตอนข้าอยู่บ้านพอมีทักษะฝีมือ คือการใช้ผลไม้นั้นมาทำผลไม้กวน ท่านดูแลพวกเราอย่างดีมาโดยตลอด คราวนี้พอดีว่ามีโอกาสเช่นนี้ ดังนั้นเราจึงอยากบอกว่าสามารถรวบรวมชาวบ้านทั้งหมู่บ้านไป่ฮัวมาทำสิ่งนี้ได้”
แม้จะเป็นคำพูดสุภาพตามมารยาท แต่ผู้ใหญ่บ้านก็พอใจมาก
“พวกเจ้ามีความตั้งใจเช่นนี้ ข้าซาบซึ้งยิ่งนัก เรื่องนี้พวกเจ้าต้องการจะทำยังไงบ้าง ข้าจะช่วยจัดการให้พวกเจ้าเอง!”
ทั้งสองยิ้มให้กัน “แค่ท่านแจ้งคำสั่งว่าจะรับซื้อส้มก็พอ ส่วนที่เหลือพวกเราทำกันเองได้”
หลังจากตกลงกันแล้ว ทั้งสามก็คุยกันเรื่องราคารับซื้อส้ม ตอนนี้ในตลาด ราคาส้มอยู่ที่สองเหวินต่อหนึ่งชั่ง ผู้ใหญ่บ้านแนะนำพวกเขาว่าอย่าให้ต่ำกว่าราคานี้
ซึ่งลู่ม่านพิจารณาต้นทุนของพวกเขา และบอกให้เฉินจื่ออานเสนอซื้อในราคาสามเหวินต่อหนึ่งชั่ง นี่คือสิ่งที่พวกเขาได้ปรึกษากันที่บ้านเรียบร้อยแล้วก่อนหน้านี้
ผู้ใหญ่บ้านพอใจต่อสิ่งนี้มาก “จื่ออาน ลุงมองคนไม่ผิด ตอนเจ้ายังเด็ก ข้ารู้ว่าในอนาคตเจ้าจะไม่ใช่คนเนรคุณ”
ประโยคนี้เป็นสิ่งที่ลู่ม่านต้องการอย่างแท้จริง เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคต เพราะท้ายที่สุดแล้วในสมัยโบราณ การสร้างชื่อเสียงที่ดีก่อนเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
หลังจากถามสารทุกข์สุขดิบกันอีกสองสามคำ ทั้งสองถึงได้ออกมาจากบ้านผู้ใหญ่บ้าน
ยังไม่ได้กลับบ้าน ระหว่างทางพวกเขาตรงไปที่บ้านหวัง เหยาซื่อมีรายได้ที่ดีมาระยะหนึ่งแล้ว อยากให้ปีนี้เป็นปีที่ดี ช่วงนี้จึงยุ่งอยู่กับการทำเสื้อผ้าที่บ้าน
เห็นลู่ม่านมา นางรีบลุกขึ้นพร้อมกับยิ้ม “มานั่งเร็ว”
เด็กสามคนกำลังล้อมวงกินขนม เห็นลู่ม่านมาก็เรียกทักทายกันไพเราะเสียงอ่อนเสียงหวาน ลู่ม่านไม่ค่อยได้พบเจออะไรแบบนี้ ตั้งแต่มาในสมัยโบราณ เห็นว่าเด็กที่นี่ฉลาดตั้งแต่อายุยังน้อย นางจึงพบว่านางเริ่มชอบเด็กขึ้นมานิดหน่อย
เหยาซื่อพูดด้วยรอยยิ้มเต็มแก้ม “เจ้าพวกเด็กซุกซน!”
“ที่ไหนกันล่ะ พวกเขาเป็นเด็กดีมาก!” ลู่ม่านยิ้ม
เหยาซื่อเม้มริมฝีปาก “เจ้ากับจื่ออานก็เร็วๆ นี้ไหม นี่ก็หลายเดือนมาแล้ว น่าจะเริ่มมีปฏิกิริยาบ้างแล้วนะ” ลู่ม่านรู้สึกเขินอายขึ้นทันใด นางกับเฉินจื่ออานยังไม่เคยมีอะไรกันเลย แล้วเด็กจะมาจากไหนล่ะ
จึงรีบเปลี่ยนเรื่อง ลู่ม่านบอกว่าได้รับคำสั่งซื้อจำนวนมาก
เหยาซื่อดีใจมาก แต่หลังจากดีใจก็เริ่มเป็นกังวลขึ้นมา “คำสั่งซื้อมากอย่างนี้ จะทำได้ยังไง”
“ดังนั้นข้าถึงได้มาหาท่าน!” ลู่ม่านยิ้ม
เหยาซื่อรีบวางเข็มกับด้ายในมือลง “ข้าสามารถทำอะไรได้บ้างเหรอ”
“สิ่งที่ท่านสามารถทำได้มีเยอะแยะเลย!” ลู่ม่านยิ้ม “ตอนนี้ มีตำแหน่งเถ้าแก่เนี้ยที่ท่านต้องมาทำ!”
เหยาซื่อรีบโบกมือ “เสี่ยวม่าน เจ้าอย่ามาล้อข้าเล่นเลย”
ตอนเที่ยง ลู่ม่านทำอาหารอร่อยๆ ด้วยตัวเอง
ตุ๋นน้ำแกงกระดูกที่ซื้อมาก่อนหน้านี้ ถึงไม่ได้ใส่เห็ดก็ยังกลิ่นหอมมาก แล้วทอดเนื้อและผัดกะหล่ำปลี
หลังจากทำเสร็จแล้ว ลู่ม่านบอกให้เหยาซื่อกลับไปรับเด็กทั้งสามคนมา ตอนแรกเด็กทั้งสามยังค่อนข้างชั่งใจ ลู่ม่านจึงหยิบกระดูกสองสามชิ้นให้พวกเขาแทะ พวกเขาถึงได้ค่อยๆ ผ่อนคลาย
เหยาซื่อเห็นเช่นนี้ก็ยิ้มและพูดว่า “ข้าว่าในสมัยก่อนเมื่อมีเงินทุกคนรู้จักแต่การไปซื้อเนื้อติดมัน คิดไม่ถึงว่าเจ้าเอากระดูกมาทำแบบนี้แล้วจะอร่อยมาก”
ลู่ม่านยิ้มทันที “กระดูกนี่สามารถเสริมแคลเซียมได้ กินแล้วดีต่อเด็ก”
“เสริมแคลเซียม? มันคืออะไร”
ลู่ม่านชะงักไป สะเพร่าพูดจาไร้สาระแบบนี้อีกแล้ว นางแอบแลบลิ้นและพูดยิ้มๆ ว่า “ไม่มีอะไร ความหมายของข้าคือสามารถเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรงได้”
“จริงเหรอ มีประโยชน์อย่างนี้เหรอ งั้นเดี๋ยวต่อไปข้าจะซื้อให้เด็กๆ กินเยอะๆ ดูสิพวกเขาผอมไปแล้ว!”
“ยังเด็กอยู่ไม่ต้องกลัวหรอก อนาคตจะดีขึ้น สามารถชดเชยได้!” ลู่ม่านพูดจบก็นำจานอาหารออกไป
เหยาซื่อชื่นชมกะหล่ำปลีผัดน้ำส้มสายชูของลู่ม่านอย่างมาก พวกเขาไม่เคยกินแบบนี้มาก่อน เหตุผลหลักคือชาวนาไม่ซื้อเครื่องปรุงรสมากนัก และน้ำส้มสายชูมีรสเปรี้ยว กินแล้วจะหิวง่าย
ลู่ม่านยิ้มและพูดว่า “ข้าแค่ทำไปเรื่อยเปื่อย ถ้าท่านชอบ คราวหน้าข้าจะสอนท่าน”
“ตกลง!” เหยาซื่อยิ้ม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน
เป็นพอ.ที่กลับกรอก เป็นที่พึ่งไม่ได้เลย ยอกจะออกจากครอบครัวเลวๆนี่ไม่จริงอีก ภาระของนางเอก ถ่วงแข้งถ่วงขาจริงๆ...
เด็กไม่ตายเพราะแม่คลอดยากจะตายเพราะคนรับใช้ป้อนโจ๊กข้าวจนอิ่มตื้อ รอดได้คือดวงแข็งเว่อ...
อ่านไป งงไป ตัดสินประหาร หรืออภัยโทษ?...
หม่อมข้า? ใช้ MS Word ไม่ระวังเลย...
ตั้งแต่ต้นจนถึงตอน 337 แล้ว โดยภาพรวมพระเอกไม่ค่อยมีเสน่ห์ ไม่เฉียบแหลมเลย...
อะไรจะมีปมขนาดนั้น วุ่นวายตอกย้ำเหลือเกินเกี่ยวกับระบบศักดินา ทั้งที่มันเป็นคนละยุคสมัยกัน...
ตอน285-287 หายทำไงดี...
ตอนหายค่ะ 284แล้วกระโดดไป288เลยค่ะ...
บท 285-287 หายค่ะ 284แล้ว288เลย รบกวนด้วยค่ะ...
281-311 รบกวนด้วยค่ะ...