ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 60

เมื่อกินเสร็จแล้ว พวกเฉินจื่ออานยังคงทำงานที่เหลือต่อไป กระทั่งช่วงเย็นถึงเสร็จสิ้นในที่สุด แต่อย่างไรพวกเหยาซื่อก็ปฏิเสธที่จะอยู่กินข้าว ยืนยันจะกลับไป

ลู่ม่านคิดว่าถ้าพรุ่งนี้ต้องรับซื้อส้ม ต้องเตรียมเงินไว้ก่อน แต่เหยาซื่อบอกว่าพวกเขารับมาก่อนค่อยว่ากัน

ลู่ม่านจึงไม่ได้เซ้าซี้อีก ตอนกลางคืนนางกับเฉินจื่ออานจุดไฟสำหรับเตาใหม่ ทำการปรุงอาหารในที่โล่ง

หลังจากนั้นทั้งสองก็เอามะนาวออกมาจากในบ้าน รับผิดชอบโดยเฉินจื่ออาน คั้นน้ำมะนาวหนึ่งไห ถึงตอนนี้ มะนาวที่ซื้อมาคราวก่อนก็หมดเกลี้ยงแล้ว แต่ยังดีที่มันพอใช้สำหรับรอบนี้

ลู่ม่านคำนวณดูแล้วคิดว่าควรหาวันเข้าเมืองไปส่งจดหมายถึงชาวต่างชาติคนนั้นโดยเร็วที่สุด

วันรุ่งขึ้น ทันทีที่ลู่ม่านตื่นขึ้นมาก็ได้ยินเสียงดังลั่นทางจากทางฝั่งเหยาซื่อ

นางรีบอาบน้ำแล้วมาเปิดประตู สองในสามคนเมื่อวานจากครอบครัวหลักบ้านเฉินมาถึงแล้ว มีเพียงเฉินเหมยเซียงที่ยังไม่มา ลู่ม่านให้พวกเขาเข้ามาก่อน จากนั้นเริ่มด้วยการให้พวกเขาเอาเตาไปล้าง

ขณะที่ยุ่งอยู่ เฉินจื่ออานก็ออกมา “ข้าจะไปดูทางบ้านเอ้อร์หนิวนะ!”

อันที่จริงเดิมทีลู่ม่านก็อยากไปด้วย แต่คิดดูแล้วการที่บ้านตัวเองไม่มีใครอยู่เลยคงไม่ได้ และท้ายที่สุดเฉินจื่ออานก็เป็นผู้ชาย ทิ้งให้อยู่บ้านกับผู้หญิงสองคนมันก็ไม่งาม จึงให้เขาไป

ไม่นานหลังจากนั้นก็เห็นเฉินจื่ออานกลับมา ข้างหลังเขาคือหวังเอ้อร์หนิวช่วยเข็นรถมา ในนั้นมีส้มอยู่จำนวนมาก

หวังเอ้อร์หนิวดูอารมณ์ดี “วันนี้มีคนมาขายส้มเยอะมาก ดูเหมือนเมื่อวานทุกคนต่างขึ้นไปบนภูเขา”

“ดื่มน้ำหน่อยเถอะ!” ลู่ม่านรีบยื่นน้ำจากผลไม้กวนผลไม้ที่เหลือก่อนหน้านี้อยู่นิดหน่อยให้ หวังเอ้อร์หนิวรีบโบกมือ “ไม่เอาๆ ที่บ้านกำลังยุ่ง”

“น้ำนี่คือน้ำผลไม้กวนผลไม้ ท่านต้องลองดื่มดูนะ”

เฉินจื่ออานก็พยักหน้าด้วย หวังเอ้อร์หนิวจึงรับมาดื่ม “หวานๆ เปรี้ยวๆ อร่อยดีจัง มีกลิ่นของส้ม เด็กๆ ที่บ้านต้องชอบแน่!”

ลู่ม่านเม้มปากกลั้นยิ้ม บอกกับเขาว่ามันทำยังไง เขาถึงได้รีบเร่งเดินไป

มีส้มแล้ว ทุกคนก็ไม่ต้องว่างอีก หลายๆ คนแบกส้มเข้ามาแล้วใช้เกลือล้างขัดถูอยู่ตรงลานบ้าน

หลังจากนั้นจึงเริ่มปอกและหั่นเนื้อผลไม้ ขณะที่กำลังยุ่งกันอยู่ เฉินเหมยเซียงก็รีบร้อนเข้ามา

ทันทีที่เข้ามานางก็พูดขอโทษ “ขอโทษนะข้ามาสาย”

มันเป็นวันแรก ลู่ม่านไม่ได้คิดอะไรมาก แค่เรียกนางเข้ามาช่วยกันทำงาน

ยังไม่ถึงเวลาบ่ายก็เริ่มก่อไฟต้มแล้ว

เดิมทีสิ่งที่เป็นผลไม้กวนนั้นสมัยก่อนราชวงศ์ถังก็มีอยู่แล้ว ดังนั้นโดยพื้นฐานแล้วในแง่ปฏิบัติก็ไม่จำเป็นต้องปกปิด เหตุผลที่ผลไม้กวนของลู่ม่านดีเป็นพิเศษ อยู่ในส่วนของมะนาวเป็นหลัก

ดังนั้น ลู่ม่านจึงเป็นผู้รับผิดชอบในการควบคุมกระบวนการของมะนาว เมื่อต้องการเติมมะนาว นางจึงเอาชามไปใส่น้ำมะนาวถือออกมา

แม้ว่าพวกเขาจะเห็นบางอย่างเพิ่มเข้ามา แต่ต่างคิดว่านี่เป็นสูตรลับที่ลู่ม่านพูด ดังนั้นทุกคนจึงเก็บเป็นความลับอย่างมีสติ

ในวันแรกตอนที่ใกล้จะค่ำ พวกเขาทำสำเร็จไปแล้วหนึ่งร้อยสามสิบชั่ง

แต่แค่นี้ยังไม่พอ พวกเขาต้องส่งออกหนึ่งพันชั่งในเจ็ดวัน! ลู่ม่านคิดแล้วก็พูดกับทั้งสามคน

“พรุ่งนี้ทุกคนอาจต้องมาเร็วหน่อย ตอนนี้เราคิดค่าจ้างต่อคนให้สี่ชั่วยาม*ละสิบเหวินต่อวัน ถ้าพรุ่งนี้พวกเจ้าทำชั่วยามเพิ่ม จะได้รับค่าจ้างสามเหวินต่อชั่วยาม”

*หมายเหตุ: สี่ชั่วยามในสมัยโบราณเท่ากับแปดชั่วโมงในปัจจุบัน

ทั้งสามคนได้ยินดังนั้นต่างค่อนข้างประหลาดใจระคนยินดี คนที่นี่ไหนเลยจะเคยได้ยินการทำงานล่วงเวลา โดยทั่วไปแล้วการมาทำงานที่บ้านคนอื่น เมื่อทำเสร็จก็ไป เช่นนี้ไหนเลยจะมีเหตุผลที่จะไม่เต็มใจ

หลังจากตกลงกันแล้ว ลู่ม่านก็ตามทั้งสามคนออกไปด้วย

ลู่ม่านเตรียมจะไปดูทางฝั่งเหยาซื่อ เพราะถึงอย่างไรวันนี้พวกเขาก็ยุ่งกันตลอดทั้งวัน นางจึงเตรียมจะนำน้ำผลไม้กวนผลไม้ที่ตัวเองเพิ่งทำไปให้เด็กๆ ดื่ม

เพิ่งถึงปากประตูก็มีร่างหนึ่งเข้ามาหา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน