ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 61

ลู่ม่านรีบร้อนเดินออกจากห้อง พลันดึงร่างกายเล็กโอบเข้ามาอยู่ในอ้อมอก “มีอะไรหรือ?”

“ท่านย่าของบ้านเฉินมาถึงแล้ว กำลังโหวกเหวกโวยวายอยู่หน้าประตูบ้านของข้า ท่านแม่ของข้าบอกว่า ท่านน้าต้องระวังตัวไว้ด้วย...” ยังไม่ทันขาดคำ พลันมีเสียงของเฉินจื่ออานดังมาจากด้านหลัง “ข้าไปดูด้วย”

ลู่ม่าน “…จื่ออาน”

“ไม่ลำบากเลย ข้าไปดูสักหน่อยก็หมดเรื่องแล้ว”

ถึงอย่างไรก็ยังไม่วางใจอยู่ดี ลู่ม่านรีบเดินตามไป “ข้าจะไปดูเป็นเพื่อนเจ้าเอง!”

เพิ่งเดินออกถึงประตูใหญ่ พลันได้ยินเสียงทะเลาะกันแสบแก้วหู ดูเถอะ ในที่สุดมีคำพูดหนึ่งที่พูดได้ดี สันดอนขุดง่าย สันดานขุดยาก

ลู่ม่านเข็นเฉินจื่ออานที่ยังเดินทางไม่เข้าใกล้สักเท่าไหร่ พลันมองเห็นเฉินหลี่ซื่อกระโดดโหยงเหยงด่าสาดเสียเทเสียหน้าประตูของบ้านหวัง

“ส้มที่ปลูกบนภูเขาลูกเดียวกันทั้งนั้น แล้วของบ้านข้ามันแย่ตรงไหนเหรอ?”

เหยาซื่อไร้ความเกรงใจ ด้วยสถานการณ์ดังนี้ ตัวนางก็ไม่ได้รู้สึกดีกับเฉินหลี่ซื่ออยู่แล้ว

“ท่านป้า ท่านป้าก็ดูเอาเองเถิดว่ามันแย่ตรงไหนดีไหมเล่า? ส้มของพวกท่าน โดนพวกท่านกระแทกจนแตก มีน้ำไหลหยดออกมาอยู่แล้ว...”

“แล้วมันจะยังไงเล่า? นี่เป็นส้มที่ลูกชายของข้าต้องการรับซื้อ เจ้ามีสิทธิ์พูดด้วยเหรอ?”

คำพูดนี้กระทบกระเทียบเหยาซื่อเล็กน้อย แต่เหยาซื่อไม่ยอมลดละ “ข้าไม่สนว่าที่นี่เป็นบ้านของใคร ยังไงตอนนี้ข้าเป็นคนรับซื้อ ข้าพูดว่าไม่เอาก็คือไม่เอาสิ!”

“เจ้ากล้า!” เฉินหลี่ซื่อถลึงตาโตทันที “เจ้ามันคนนอก ยังจะคิดทำตัวแข็งข้อในหมู่บ้านไป่ฮัวอีกหรือ?”

หวังเอ้อร์หนิวอดใจไม่ไหว ไม่มีสิ่งใดที่สามารถนำมาเทียบเคียงกับการถูกขับไสไล่ส่งต่อหน้าสาธารณชนที่ย่ำแย่มากที่สุดเช่นนี้อีกแล้ว

“ท่านป้า ข้าเติบโตอยู่ในหมู่บ้านไป่ฮัวตั้งแต่เด็ก ที่นี่เป็นบ้านของข้า แม้ว่าผู้ใหญ่บ้านจะมา ก็ไม่กล้าจะปากพล่อยพูดว่าข้าเป็นคนนอกเช่นนี้!”

“เจ้าเป็นคนนอกทำไมยังไม่ให้คนอื่นพูดอีก? คนอย่างเจ้ามันคือคนนอก!”

“ท่าน...” หวังเอ้อร์หนิวโมโหจนตาแดงก่ำ

เฉินจื่ออานแทรกตัวผ่านกลุ่มคนเข้ามาอย่างรวดเร็ว “ท่านแม่ เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

“จื่ออาน เจ้ามาเสียที เจ้าพูดกับผู้หญิงคนนี้ให้ที รับซื้อส้มของแม่เสียทีสิ”

เฉินจื่ออานย่นคิ้วหากัน พลันแหงนมองดูส้มครึ่งกระบุงแวบหนึ่ง ดูเหมือนน้ำหนักสิบชั่งขึ้นไป ไม่รู้ว่าใครไปเก็บมา เปลือกนอกถลอกปอกเปิก มีจำนวนหนึ่งที่เละตุ้มเปะจนหมดสภาพ

แต่เหลือบตามองแวบหนึ่ง เฉินจื่ออานจึงพูดอย่างหนักแน่นไร้การลังเล “รับซื้อไว้ไม่ได้!

“ทำไม?” เฉินหลี่ซื่อทำเสียงสูง “มีสิทธิ์อะไรที่จะไม่รับซื้อ?”

“เมื่อครู่ทางบ้านเอ้อร์หนิวได้พูดกับท่านแล้ว ท่านลองมองแล้วเอาไปเปรียบเทียบของคนอื่นดู ท่านก็จะรู้แล้ว”

“เฉินจื่ออาน!” เฉินหลี่ซื่อพูดเสียงดัง “ตกลงว่าเจ้าจะรับซื้อหรือไม่?”

คนทางด้านนอกก็ยิ่งคึกคักมากขึ้นเรื่อย เฉินจื่ออานได้แต่ส่ายหน้า แต่ก็เบาเสียงลง “พวกเรากลับบ้านไปก่อนแล้วค่อยว่ากันใหม่เถอะ”

“ข้าไม่กลับ! เจ้าพูดกับข้ามา ตกลงว่าเจ้าจะรับหรือไม่รับซื้อ?”

เฉินจื่ออานยังคงพูดอย่างพูดแน่วแน่เหมือนเดิม “ไม่รับ!” มีคนมากมายคอยมองอยู่ ถ้ารับไว้จะกลายเป็นการเริ่มต้นที่ไม่ดีอย่างหนึ่ง ต่อไป ถ้าเป็นสถานการณ์คล้ายคลึงกัน แล้วตกลงว่าเขาจะจัดการอย่างไร?

“ดีจริง! เจ้ามันเสียข้าวสุก เนรคุณจริงๆ ตอนที่เจ้าเพิ่งเกิดมา ข้าก็น่าจะบีบคอเจ้าให้ตายไปเสีย!” เฉินหลี่ซื่อเริ่มร้องไห้โหยหวน

เฉินจื่ออานย่นคิ้วอย่างหมดอารมณ์ ลู่ม่านกระซิบพูดกับหวังเอ้อร์หนิว “ไปเรียกลุงผู้ใหญ่บ้านมา!”

จากนั้นจึงก้าวย่างไปด้านหน้าเพื่อพยายามดึงเฉินหลี่ซื่อ “ท่านแม่ ตรงนี้พื้นมันเย็นท่านอย่าก่อความวุ่นวายอยู่ที่นี่เลย มีเรื่องอะไร เรากลับไปคุยกันที่บ้านกันเถอะ”

“เจ้าไสหัวไป!” เฉินหลี่ซื่อผลักลู่ม่านออกทันที “เพราะว่าเจ้า เจ้ามันเป็นนางจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ ถ้าไม่ใช่เจ้า จื่ออานของข้าคงไม่ตกอยู่ในสภาพนี้หรอก?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน