ตอน บทที่ 62 ชดใช้คืน จาก ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 62 ชดใช้คืน คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายประวัติศาสตร์ ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน ที่เขียนโดย ฝูเชิง เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
ยังไงเขาก็ใจร้ายใส่ไม่ได้ เพราะนั่นก็เป็นแม่ของเขา
ลู่ม่านก็ไม่ได้ห้ามปรามอีก นางปลอบใจเหยาซื่อเล็กน้อย และเริ่มกลับไปทำงานดังเดิม
หลังจากเฉินจื่ออานออกไปแล้ว ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วยามเห็นจะได้ก็กลับมาแล้ว เมื่อเห็นลู่ม่านกำลังทำผลไม้กวน เขาเข็นรถเข้ามาทำงานต่ออย่างเงียบๆ
เนื่องจากวันนี้ทำกันตั้งแต่เช้าตรู่ บวกกับลู่ม่านและคนอื่นๆ ต่างมีหม้อกระทะเป็นของตนเอง หลังจากทำเสร็จสิ้นในช่วงกลางคืนแล้ว พวกเขาทำได้กว่า 250 ชั่ง เมื่อดูจากความคืบหน้าเช่นนี้ สามารถบรรลุเป้าหมายอย่างแน่นอน
เหนื่อยมาทั้งวัน ลู่ม่านอาบน้ำเสร็จจึงเข้านอนทันที ตอนที่กำลังสะลึมสะลืออยู่นั้น เฉินจื่ออานก็เขย่าตัวนาง “เสี่ยวม่าน...”
ลู่ม่านลืมตา จึงมองเห็นเฉินจื่ออานแสดงท่าทางอึกอัก นางฉุกคิดเรื่องถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่าย นางยังคิดว่าเขากลืนลงท้องไปเสียแล้ว ดูจากสภาพเขาในเวลานี้ต้องการจะอธิบายให้ฟังแล้วงั้นสิ?
ลู่ม่านรู้อยู่แก่ใจ แต่ยังไม่ได้ถามไถ่ ทำได้แต่รอคอยอย่างช้าๆ
ผ่านไปชั่วครู่ เฉินจื่ออานถึงได้พูดโพล่งออกมาประโยคหนึ่ง “ตอนบ่ายข้าจ่ายให้ท่านแม่ไปห้าสิบเหวิน”
“อ้อ!” ลู่ม่านพยักหน้าเล็กน้อย
เฉินจื่ออานเงียบงันลงอีกครั้งแล้ว “เสี่ยวม่าน เจ้าโกรธข้าใช่หรือไม่?”
“เปล่า!” ลู่ม่านส่ายหน้า นางไม่ได้โกรธจากใจจริง นางแค่เป็นห่วง การที่เฉินจื่ออานทำเช่นนี้ สำหรับเฉินหลี่ซื่อแล้ว อาจจะไม่ใช่เรื่องดีอะไร เมื่อคิดถึงจุดนี้ นางจึงพลิกตัวหันมาถาม
“จื่ออาน ท่านเคยคิดหรือไม่? จู่ๆ ทำไมท่านแม่ถึงขึ้นไปเก็บส้มบนภูเขาได้อย่างไรกัน ท่านเป็นคนทำตัวผู้รากมากดีเช่นนั้น อีกอย่างยังมีพี่ใหญ่ พี่รอง และบรรดาพี่สะใภ้ใหญ่อยู่ในบ้าน...”
เฉินจื่ออานถูกจี้จุดประกายแบบนี้ พลันเงียบงันลง แสดงให้เห็นอย่างชัดเจน เขาก็ค้นพบว่ามันผิดปกติ
ทว่า ไร้เหตุผลนี่?
เมื่อเห็นว่าอารมณ์ไม่ดี ลู่ม่านก็ไม่อยากให้เฉินจื่ออานมีเรื่องคิดอยู่ในใจจึงเริ่มปลอบใจทันที
“หรือว่าข้าคิดมากเกินไป ท่านแม่น่าจะเบื่อหน่ายที่จะอยู่ในบ้าน จึงออกไปทำธุระนิดหน่อย อย่าคิดต่อเลย แม้ว่าท่านแม่ต้องการเงินทอง ตอนบ่ายท่านก็ให้ท่านแม่ไปแล้วไม่ใช่หรือ? คงไม่มีเรื่องอีกแล้ว”
เฉินจื่ออานจึงได้พยักหน้า “อืม นอนเถอะ”
……
เมื่อผ่านกระบวนการหมักมาสองวัน กลุ่มคนบางกลุ่มในหมู่บ้านที่เดิมทีคิดว่าการเก็บส้มลักษณะนี้ไม่น่าเชื่อถือ แต่ก็เข้าร่วมทั้งหมด
ผ่านมาช้าๆ จำนวนการรับซื้อส้มในแต่ละวันก็เพิ่มขึ้นเรื่อย เหยาซื่อมาสอบถามลู่ม่าน “เราต้องการแค่หนึ่งพันชั่งไม่ใช่หรือ? การได้ส้มมามากมายเช่นนี้ ข้ากลัวว่าถึงเวลานั้นจะมากเกินควร”
“ไม่หรอก!” ลู่ม่านยิ้มตอบ “ส้มที่อยู่ตามภูเขามีมากเพียงเท่านั้นแหละ หลังจากเก็บเสร็จย่อมหายไปตามธรรมชาติ อีกอย่าง ใกล้จะสิ้นปีแล้ว ทางเราไม่เพียงแต่ส่งสินค้า จำต้องทำให้มากกว่านิดหน่อย ถึงเวลานั้น...ข้ามีความคิดดีๆ ของข้าไว้แล้ว!”
ลู่ม่านพูดไว้เช่นนี้ คล้ายว่าเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับเหยาซื่อ นางพับแขนเสื้อขึ้น และกลับบ้านไปทำงานต่อ
ขวดของลู่ม่านก็มาแล้ว ขวดขนาดเล็กใหญ่ในรูปแบบต่างๆ ก็ส่งมาได้ครึ่งหนึ่งแล้ว
ประมาณว่ามีประสบการณ์จากครั้งที่แล้วมั้ง? ครั้งนี้พวกเขาจึงทำขวดออกมาได้สวยงามกว่าครั้งที่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวโลโก้ที่แปะทับคำว่าหมู่บ้านไป่ฮัว เวลาลู่ม่านมองรู้สึกดีใจเป็นพลุแตกทุกครั้งอย่างอดเสียไม่ได้
สมบูรณ์แบบ!
เมื่อหลายวันก่อนก็ทำออกมาได้ไม่น้อย ช่วงบ่ายของวันนี้ ลู่ม่านได้จัดให้คนหลายคนที่ได้ตระเตรียมไหที่บรรจุได้สิบชั่งไว้ก่อนหน้านี้แล้ว และใส่ลงในไหทันที
จากนั้นตนเองจึงนำขวดห้าสิบขวดที่เตรียมเอาไว้ก่อนล่วงหน้าบรรจุให้แล้วเสร็จ พลันเรียกหวังเอ้อร์หนิวให้ไปในตำบลเป็นเพื่อนกับเฉินจื่ออานให้ที
เดิมที ตอนนี้คือเวลาช่วงบ่าย พวกเขาเดินทางไปกลับอย่างมากที่สุดท้องฟ้ามืดครึ้มก็สามารถกลับมาได้แล้ว
แต่ผลที่ได้ ลู่ม่านทำอาหารเย็นเสร็จแล้ว รอจนดึกดื่นก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของเฉินจื่ออาน
ผู้ดูแลร้านช่ายหัวเราะทันที “อ้อ เจ้าพูดถึงหลายคนนั้นเหรอ จื่ออาน ถ้าเจ้าต้องการจะเข้าร่วมสอบช่วงฤดูใบไม้ผลิ ข้าสามารถแนะนำให้เจ้าได้นะ”
พูดมาถึงขั้นนี้แล้ว บวกกับลางสังหรณ์ก่อนหน้านี้ มีอะไรที่ไม่เข้าใจอีกหรือ? เฉินจื่ออานกำหมัดแน่น เวลานั้นเขาอยากพุ่งขึ้นไปและไปลากตัวเฉินจื่อคังออกมาจริงๆ
ทว่า เขายังคงอดกลั้นเอาไว้
เมื่อเห็นว่าเขาไม่ยอมเดินออก หวังเอ้อร์หนิวถามเขาว่าเกิดอะไรขึ้นเขาก็ไม่พูด ได้แต่รออยู่ตรงนั้นเป็นเพื่อนเขา
กระทั่งถึงท้องฟ้ามืดครึ้ม กลุ่มคนเหล่านั้นอิ่มหนำสำราญกันอิ่มหมีพีมันและกลับออกไปแล้ว เฉินจื่ออานถึงได้บุกเข้าไป พลันต่อยเฉินจื่อคังที่ดื่มอย่างเมามายอย่างโหดเหี้ยมไปหมัดหนึ่ง
หมัดนี้ปลุกเฉินจื่อคังให้ตื่นทันที พี่น้องสองคนทะเลาะกันอยู่ตรงนั้น สุดท้ายแล้วเฉินจื่อคังก็พูดทิ้งท้ายออกมาประโยคหนึ่ง ไม่ต้องให้เจ้ามาสนใจ จากนั้นก็เดินออกไป
เดิมทีเฉินจื่ออานยังอยากจะไล่ตามไป หวังเอ้อร์หนิวเกลี้ยกล่อมบอกว่าที่บ้านกำลังรอเขาอยู่ ถ้าขืนยังไม่กลับพวกเขาต้องเป็นห่วงแน่ เฉินจื่ออานถึงได้กลับมาก่อน
ถ้าพูดว่าก่อนหน้าเฉินจื่อคังทำให้เฉินจื่ออานผิดหวังมาก เช่นนั้นในครั้งนี้ไม่เพียงแต่ผิดหวังแบบง่ายดายเช่นนั้นอีกแล้ว
ลู่ม่านย่นคิ้วหากัน “ก่อนหน้านี้ท่านพ่อพูดไว้แล้ว ไม่ให้เขาเข้าไปยุ่งกับเรื่องพรรค์นั้นอีกไม่ใช่หรือคะ?”
แม้ว่าตาแก่เฉินจะมีกลอุบายมาก และลำเอียงมากเช่นกัน แต่ซื่อสัตย์ที่ฝังอยู่ในกระดูกของเขา ยังคงมีอยู่
เฉินจื่ออานตระหนักทันที “มิน่าเล่า ท่านแม่ถึงได้ขึ้นไปเก็บส้มบนภูเขา”
ต้องเป็นเพราะเฉินหลี่ซื่อนำเงินส่วนตัวที่อยู่ในมือให้เฉินจื่อคังไปหมด เงินเหล่านั้นถูกพวกเขาเอาเงินออกมาสองพวง ตอนนี้เฉินหลี่ซื่อมีเงินอยู่ในมือไม่พอ ดังนั้นจึงอยากจะหาวิธีหาเงินเพื่อเป็นการทดแทนเข้าไป
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เฉินจื่ออานยิ่งโกรธเพิ่มขึ้น ไม่เพียงแต่โกรธ เขายังเสียใจมาก
ตอนที่ขาของเขาจวนจะหัก แม่ของเขาไม่ยอมออกเงินให้เขาสักแดงเดียว แต่ตอนนี้ กลับยินยอมแอบย่องมาระดมเงินด้วยตนเองเพื่อเอาไปให้เฉินจื่อคังติดสินบนในการสอบ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน
เป็นพอ.ที่กลับกรอก เป็นที่พึ่งไม่ได้เลย ยอกจะออกจากครอบครัวเลวๆนี่ไม่จริงอีก ภาระของนางเอก ถ่วงแข้งถ่วงขาจริงๆ...
เด็กไม่ตายเพราะแม่คลอดยากจะตายเพราะคนรับใช้ป้อนโจ๊กข้าวจนอิ่มตื้อ รอดได้คือดวงแข็งเว่อ...
อ่านไป งงไป ตัดสินประหาร หรืออภัยโทษ?...
หม่อมข้า? ใช้ MS Word ไม่ระวังเลย...
ตั้งแต่ต้นจนถึงตอน 337 แล้ว โดยภาพรวมพระเอกไม่ค่อยมีเสน่ห์ ไม่เฉียบแหลมเลย...
อะไรจะมีปมขนาดนั้น วุ่นวายตอกย้ำเหลือเกินเกี่ยวกับระบบศักดินา ทั้งที่มันเป็นคนละยุคสมัยกัน...
ตอน285-287 หายทำไงดี...
ตอนหายค่ะ 284แล้วกระโดดไป288เลยค่ะ...
บท 285-287 หายค่ะ 284แล้ว288เลย รบกวนด้วยค่ะ...
281-311 รบกวนด้วยค่ะ...