ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 65

หลังจากนั้นสองวัน ส้มที่นำมาขายก็ร่อยหรอลงเรื่อย ๆ

ทางเหยาซื่อก็เริ่มไม่ค่อยยุ่งแล้ว ถ้าปกติไม่มีธุระอะไรนางก็จะมาช่วยงานทางลู่ม่านทำผลไม้กวนด้วยกัน ให้หวังเอ้อร์หนิวอยู่เฝ้าบ้านคนเดียว

ครั้งนี้ พวกนางซื้อส้มมาจวนจะถึงสามพันชั่งแล้ว ลบหนึ่งพันกว่าชั่งที่ต้องเอาไปส่งภัตตาคารเฟิ่งหลายออก ยังเหลือส้มอีกสองพันกว่าชั่ง

ในช่วงระยะนี้ การนำเข้าสินค้าของร้านขายของชำบ้านจางเพิ่มขึ้นมาก ผลไม้กวนของหมู่บ้านไป่ฮัวมีชื่อเสียงมาก ลู่ม่านจึงอยากทำจำนวนหนึ่งออกมา และจะนำไปขายในเมืองในไม่กี่วันนี้

อีกส่วนหนึ่ง นางเตรียมทำกล่องของขวัญโดยอาศัยช่วงเวลาก่อนตรุษจีน

แต่ สิ่งที่ขาดหายไปที่สุด ยังไม่มาสักที

ตั้งแต่ช่วงก่อนหน้านี้ได้ส่งจดหมายฉบับนั้นออกไป ลู่ม่านก็คอยรอการตอบกลับอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน แต่ ก็ไม่มีมาตลอด

ทว่าเมื่อครุ่นคิดแล้ว ในยุคสมัยโบราณการติดต่อสื่อสารไม่ได้รวดเร็วเหมือนยุคปัจจุบันขนาดนั้น การส่งจากที่นี่ต้องเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลไปยังก่อนโรมา อย่างน้อยต้องใช้เวลาหลายเดือนแหละมั้ง?

ทว่า นางไม่มีมะนาวแล้วจะทำอย่างไรดี?

ในที่สุด หลังจากใช้มะนาวที่เหลือเพียงเศษเสี้ยวไปแล้ว ลู่ม่านก็จ่ายเงินเดือนก่อนเวลาให้พวกเขา

ระยะเวลาสิบวัน ทุกวันสิบเหวิน บวกกับพวกเขาตรากตรำทำงานล่วงเวลามาเจ็ดวัน ทุกชั่วยามสามเหวิน ทำงานเพิ่มอีกหนึ่งชั่วยามทุกวัน

ดังนั้น หวังชุ่ยฮวากับหลี่หรูจวี๋จึงได้รับเงินหนึ่งร้อยยี่สิบเอ็ดเหวิน เฉินเหมยเซียงไม่ได้ทำงานล่วงเวลา ดังนั้นจึงได้แค่หนึ่งร้อยเหวิน

ถึงกระนั้น เงินจากการทำงานมาสิบวันยังได้เงินสูงกว่าการนั่งปักผ้าเช็ดหน้าก่อนหน้านี้ตลอดทั้งสามเดือน

เมื่อทั้งสามคนได้ยินเงินจำนวนมาก ต่างยินดีมาก แต่พริบตาเดียว ก็ผิดหวังไปตามๆ กัน

“เสี่ยวม่าน ต่อไปยังทำอยู่หรือไม่?”

งานดีๆ เช่นนี้ ไม่รู้ว่ามีคนในหมู่บ้านจำนวนกี่มากน้อยที่อยากจะทำ

“ทำแน่!” ลู่ม่านพยักหน้า ทั้งสามคนนี้ถือว่าไม่เลวจริงๆ ลู่ม่านไม่อยากเปลี่ยนตัวพวกนาง “แค่สองวันนี้มีธุระนิดหน่อย ดังนั้นจึงให้พักสองวันก่อน รอวันที่ข้าเตรียมตัวพร้อมแล้ว จะเรียกพี่สาวเหยาให้ไปแจ้งกับพวกท่าน”

ทั้งสามคนได้รับคำตอบเป็นที่แน่ชัด จึงเดินกลับไปอย่างสบายใจ

ลู่ม่านกลับเครียดจนทนไม่ไหว ในบ้านยังมีส้มอยู่อีกสองพันกว่าชั่ง นางจำต้องรีบออกไปหามะนาวเสียแล้ว

พูดแล้วก็ทำตามที่พูด ลู่ม่านกลับเข้ามาในห้องและหยิบเงินสี่ร้อยเหวินเพื่อเดินไปทางเหยาซื่อทางนั้น เหยาซื่อกับหวังเอ้อร์หนิวกำลังยุ่งวุ่นวาย ลู่ม่านคิดแล้วคิดอีกจึงเอาเงินค่าจ้างทำงานแก่พวกเขาคนละยี่สิบเหวินต่อวัน

เดิมทีเหยาซื่อไม่คิดจะรับเอาไว้ แถมพูดว่าเคยพูดไว้แล้วว่าสิ้นเดือนค่อยมาคิดเงินกัน แต่ลู่ม่านคิดว่า คนอื่นให้ไปหมดแล้ว จะข้ามผ่านพวกเขาไม่ได้ พูดเกลี้ยกล่อมต่างๆ นานา เหยาซื่อก็ยอมรับเอาไว้

จากนั้น ลู่ม่านก็ได้พูดคุยกับนางเรื่องความคิดบางอย่างหลังจากนี้

ส้มทางนี้ไม่ต้องรับแล้ว ตอนนี้ในหมู่บ้านไม่มีคนขึ้นไปเก็บแล้ว แม้ว่าครั้งนี้ใช้เวลาสิบวัน แต่ทุกครัวเรือนในหมู่บ้านก็ได้เงินไปจำนวนไม่น้อย

ตัดพวกนั้นที่ไม่ได้เข้าร่วมออก ทุกครัวเรือนก็มีประมาณหนึ่งร้อยเหวินแล้ว หากเอามาซื้อเนื้อสัตว์ ก็สามารถเพียงพอในวันปีใหม่ได้อย่างดีมาก

ความคิดหลังจากนั้นของลู่ม่านคือจะฉวยจังหวะที่ใช้เวลาวันปีใหม่ในเวลาสิบกว่าวัน เหยาซื่อกับหวังเอ้อร์หนิวสามารถนำเอาผลไม้กวนที่เตรียมไว้ก่อนหน้าออกมาขายปลีกได้ การค้าขายในเวลานี้ก็น่าจะไม่เลวทีเดียว

เธอคิดแล้วคิดอีก รู้สึกว่าการจ่ายเงินค่าจ้างให้กับพวกเขาถือว่าจำกัดเกินไปหน่อย จึงแจ้งเอาไว้ก่อน ให้เงินเดือนพื้นฐานและเพิ่มเงินค่านายหน้าให้กับพวกนางด้วย

เหยาซื่อได้ยินคำศัพท์ใหม่ครั้งนี้เป็นครั้งแรก แปลกใจมากทีเดียว

ลู่ม่านจึงค่อยๆ อธิบายให้นางเข้าใจรอบหนึ่ง เหยาซื่อเห็นด้วยเป็นอย่างมาก หวังเอ้อร์หนิวกระตือรือร้นอยากจะลองด้วย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน