ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 69

สรุปบท บทที่ 69 ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน

สรุปตอน บทที่ 69 ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า – จากเรื่อง ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน โดย ฝูเชิง

ตอน บทที่ 69 ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ของนิยายประวัติศาสตร์เรื่องดัง ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน โดยนักเขียน ฝูเชิง เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

การเผชิญหน้ากับคำวิงวอนจากสายตาของลู่ม่าน จ้าวหลินอ้าปาก “ลูกไหนก็คือ...ลูกไหน...”

ลู่ม่านกลอกตามองเขา นางย่อมรู้ว่าไม่ควรจะคาดหวังมากเกินไป

ในทางกลับกันจ้าวหลินกลับพูดอย่างไม่ยินดี “นี่มันเป็นผลไม้ในสมัยก่อนราชวงศ์ถัง เจ้าไม่รู้จักยังมาถามข้าอีก?”

ลู่ม่าน “…” มันเป็นผลไม้สมัยก่อนราชวงศ์ถังเหรอ” หรือว่านางจะโง่เง่าเกินไป? ในยุคปัจจุบันเหมือนไม่เคยเจอเลยนะ!

ไม่สนแล้วแหละ ไปดูเดี๋ยวก็จะรู้เอง

เมื่อถึงสถานที่นั้น แคสก็รออยู่แล้ว ข้างกายของเขายังมีคนต่างเมืองอีกคนที่เดินทางมาอย่างเหน็ดเหนื่อย มองดูแล้วลักษณะท่าทางช่างคล้ายกับแคสมาก

เมื่อแนะนำตัวตามปกติ แคสจึงช่วยแกะกล่องของเขา

ถือว่าเก็บรักษาได้ไม่เลว กระทั่งผ่านการเดินทางข้ามน้ำทางทะเลมาด้วย เก็บรักษาผลไม้ได้ดีมาก

หลังจากลู่ม่านมองเห็นแวบหนึ่งแล้ว ก็สามารถนำผลไม้มาทำผลไม้กวนได้ นางพยายามเก็บอาการอย่างกระโดดโลดโผนจึงเอ่ยถามออกไปอย่างใจเย็น “ลูกไหนคืออะไรเล่า?”

แคสจึงเปิดอีกกล่อง และหยิบผลไม้ผิวสีเขียวออกมาหนึ่งผล

“บ๊วย?” ลู่ม่านมองผลไม้ชนิดนี้อย่างตกตะลึง มองดูแล้วเหมือนบ๊วยมาก

“ไม่ใช่ ไม่ใช่บ๊วย มันคือลูกไหน...”

“ลูกไหน? แอปเปิล?” ไม่สนอีกแล้ว ยังไงเป็นผลไม้ที่กินได้ก็จบแล้ว ลู่ม่านเตรียมเอาทั้งหมดไปลอง ไม่แน่อาจได้ผลลัพธ์ที่ดีมากออกมา

“ตรงนี้ท่านมีอยู่เท่าใดกัน?” ลู่ม่านเอ่ยถาม

ผู้ชายคนนั้นอ้าปาก สุดท้ายพ่นภาษาละตินออกมาเป็นชุด ลู่ม่านฟังไม่ออกสักครึ่งคำ นางจึงรู้สึกเศร้าใจมาก

ทั้ง ๆ ที่ เป็นผู้หญิงในยุคสมัยใหม่คนหนึ่ง คิดว่าภาษาอังกฤษของตนเองถือว่ามีประโยชน์กับที่นี่

แต่ผลที่ได้คือ คิดน้อยไป ลู่ม่านอยากจะร้องไห้แต่ไร้น้ำตา

แคสรีบพูดทันควัน “เขาพูดภาษาของก่อนราชวงศ์ถังไม่ได้ เดิมทีผลไม้เหล่านี้เอามาเยอะมาก แต่การขนบรรทุกล่องเรือในทะเลมา เสียไปก็เยอะมาก ตอนนี้จึงเหลือแค่เหล่านี้เอง จำนวนมากที่สุดคือหนึ่งร้อยชั่งทุกชนิด”

นั่นก็เพียงพอแล้วแหละ!” ลู่ม่านคิด เดิมทีเป็นกล่องของขวัญ การทำแบบจำนวนจำกัดน่าจะดีมาก

เมื่อคิดได้เช่นนี้ นางจึงรับของทันที

จึงให้จ้าวหลินช่วยนางส่งกลับไปที่หมู่บ้าน ลู่ม่านรีบให้พวกนางอีกสองคนมาเริ่มทำผลิตภัณฑ์ตัวใหม่

นางอยากทำหลายกล่องออกมาก่อน แล้วเอาไปลองขาย

ในเวลานี้ ห่างจากปีใหม่อีกแค่สิบวัน ดังนั้น เวลาเร่งรัด ภารกิจหนักหนา พวกนางต้องรีบทำภายในสองวันนี้ เพื่อทำสินค้าให้แล้วเสร็จ

ยังมีขวดอยู่ทางนั้น โชคดีที่ทำไม่มาก วันที่สามก็ส่งออกไปแล้ว

เมื่อพูดสรุปโดยรวมแล้ว หากเอามารวมกับชั่งตนาการของลู่ม่าน มองดูแล้วค่อนข้างหรูหรามีระดับมาก

เนื่องจากหวังเอ้อร์หนิวเชี่ยวชาญเรื่องงานไม้ ลู่ม่านจึงหาให้เขาช่วยทำกล่องไม้จำนวนเก้าสิบเก้ากล่อง ลักษณะคล้ายกล่องของขวัญในยุคปัจจุบัน ซื้อผ้าไหมอย่างดีมาปูรองเอาไว้ จนกลายเป็นความรู้สึกกล่องเครื่องสำอางอันหรูหราแบบนั้น

หลังจากที่ทุกอย่างเตรียมไว้เข้าที่หมดแล้ว ชุดผลไม้กวนชุดแรกก็ออกมาแล้ว

ด้านในกล่อง มีขวดใหญ่หนึ่งขวด ภายในบรรจุผลไม้กวนรสส้มไว้5ตําลึงเพราะตอนนี้ผลไม้กวนรสส้มกำลังเป็นที่นิยมมากของที่นี่ในเวลานี้ จึงใช้มันเป็นตัวหลักไม่ผิดแน่นอน

จากนั้นค่อยจับคู่กับขวดเล็กๆ อีกสี่ขวด ภายในบรรจุผลไม้กวนไว้3ตําลึง ด้านในก็แยกเป็น เชอร์รี่กวน เนื้อสาลี่กวน ลูกไหนกวน และองุ่นกวน

กล่องของขวัญหีบห่อเช่นนี้ ลู่ม่านกำหนดราคาไว้แปดสิบแปดเหวิน

ถือว่าแพงมากจริงๆ แต่ภายในมีผลไม้กวนเพิ่มอีกชนิดที่ไม่มีใครเคยเห็น สำหรับคนรวยมีเงินที่ชอบของแปลกใหม่แล้ว ความจริงถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดูดีมากทีเดียว

หลังจากลองชิมแล้ว ลู่ม่านจึงเรียกให้พวกเขาทำเพิ่มอีกยี่สิบชุด เพื่อส่งไปยังร้านขายของชำบ้านจาง

เถ้าแก่จางยุ่งหัวหมุน แต่ยังดี ตอนนี้เขารับคนงานมาเพิ่มใหม่ ถือว่าปลีกเวลาได้แล้ว

ระหว่างที่พูด เถ้าแก่จางจึงหยิบเอากล่องตัวอย่างที่ลู่ม่านพูดขึ้นมา เพื่อเปิดให้ชายชราดู

กล่องแกะสลักอย่างประณีตบรรจง ภายในมีผ้าไหมปูรองอยู่ มีขวดห้าขวดจัดวางอยู่ด้านบน ขวดใหญ่สุดเป็นสีแดงหม่น ขวดอื่นเป็นสีขาว ด้านบนยังมีตัวอักษรประทับเป็นหมู่บ้านไป่ฮัว

พลันเปิดทีละขวด สีเหลือคือส้ม สีขาวคือสาลี่ ยังมีสีแดงคือเชอร์รี่ สีเขียวคือลูกไหน ขวดสีม่วงแกมแดงขวดสุดท้ายสะดุดตาเขาทันที

“นี่คืออะไร?” ชายชราถาม

เถ้าแก่จางเหลือบมอง ติดขัดกับคำถามเช่นเดียวกัน

“เป็นองุ่นเจ้าค่ะ!” ลู่ม่านที่อยู่ด้านข้างคอยมองอยู่ตลอด ในที่สุดก็เอ่ยปากพูด “เป็นผลไม้ที่นำมาจากมาแดนไกลก่อนโรมา หอมมากและอร่อยมาก! ท่านลองชิมได้เจ้าค่ะ”

ชายชราโบกมือ สายตาจับจ้องลู่ม่าน “เจ้าเป็นคนทำผลไม้กวนอันนี้หรือ?”

“ใช่เจ้าค่ะ!” ลู่ม่านยิ้มตอบ “หากท่านผู้อาวุโสชื่นชอบ ถือว่าเป็นเกียรติของข้าแล้ว”

ชายชราอมยิ้ม พลันหันไปมองทางเถ้าแก่จาง “ตรงนี้เจ้ามีทั้งหมดกี่มากน้อยกันเล่า?”

เถ้าแก่จางตะลึงทันที ถึงตระหนักถึงการซักถามของชายชรา ว่าเขามีจำนวนกี่มากน้อย “ยี่สิบ นี่เป็นชุดแรกขอรับ!”

“ข้าเหมาหมด!”

เถ้าแก่จางเบิกตาโต “ท่านพูดว่า ท่านต้องการทั้งหมดหรือขอรับ? ทว่า ท่านยังไม่ได้ถามเรื่องราคาเลย...”

“ไม่จำเป็นต้องถามแล้วแหละ!” ชายชรากล่าวออกมา พลันหยิบทองขึ้นมาหนึ่งตำลึงวางไว้บนตู้ “หากไม่พอ สามารถเพิ่มได้”

“พอแล้ว! ข้าจะทอนเงินให้ท่าน...”

“ไม่ต้องแล้ว!” ชายชราพูดจบ จึงเรียกคนรับใช้เข้ามาหา และขนย้ายสิ่งของเหล่านั้นออกไปทั้งหมดอย่างรวดเร็ว

ลู่ม่านกับเถ้าแก่จางมองหน้ากัน นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นเนี่ย?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน