ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 70

เถ้าแก่จางรู้สึกกังวลเล็กน้อย “คงไม่ใช่อาชีพเดียวกันแล้วอยากเล่นตุกติกหรอกมั้ง? ระยะนี้ เถ้าแก่ซุนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามคอยจับตามองมาทางข้าอยู่ตลอดเวลา”

ลู่ม่านส่ายหน้าไปมา “เมื่อดูจากลักษณะนิสัยของชายชราคนนี้แล้ว เถ้าแก่ซุนจ้างคนประเภทนี้ไม่ไหวหรอก วางใจเถอะ!”

“งั้นก็ดี!” เถ้าแก่จางกล่าวพูด และเรียกลู่ม่านอย่างสบายใจมาก “เพิ่งเอามาเองก็ขายหมดแล้ว นี่เป็นสิริมงคล ข้าจะไปคิดทุนให้เจ้าเดี๋ยวนี้

ลู่ม่านได้ยิน จึงยิ้มหน้าบานให้ทันที “ท่านเอาทองหนึ่งตำลึงนั้นมาให้ข้าก็พอแล้ว เงินส่วนเกิน ข้าจะชดใช้คืนให้ท่าน

นี่เป็นในยุคก่อนราชวงศ์ถัง ที่ได้เห็นทองเป็นครั้งแรกนะเนี่ย ถือว่าเป็นปรากฏการณ์ที่ดี เธอต้องเก็บรักษาเอาไว้

“ไม่ต้องชดใช้ให้ข้าแล้ว ข้าต้องการสั่งจองเดี๋ยวนี้ สั่งเพิ่มอีกห้าสิบชุด! เงินที่เกินไป ถือว่าเป็นเงินมัดจำก็แล้วกัน!”

ลู่ม่านพยักหน้าเล็กน้อย “ตกลง อีกสองวันค่อยมาส่งให้ท่าน”

หลังจากกลับออกมาแล้ว ลู่ม่านตัดสินใจนำเงินก้อนนั้นวางลงในโถภายในบ้าน และคิดอย่างหวานหยาดเยิ้มมีความสุข เงินในโถก้อนนี้นำพาความสุขมาให้กับนาง

หากพยายามเก็บรักษาเงินเอาไว้ เธอก็สามารถสร้างบ้านได้แล้ว

ตอนที่กำลังคิดอยู่นั้น พลันมีเสียงจ้าวซื่อดังหน้าประตูบ้าน “น้องเสี่ยวม่านอยู่บ้านหรือไม่?”

ลู่ม่านย่นคิ้วเข้าหากัน นางมาทำอะไร?

แม้จ้าวซื่อในเวลานี้ทำตัวดีกว่าก่อนหน้านี้เยอะแล้ว แต่ลู่ม่านยังคงระแวดระวังกับนาง ถึงอย่างไร มีประโยคหนึ่งที่พูดว่า สันดอนขุดง่าย สันดานขุดยาก

นางเป็นคนประเภทนี้ แล้วจะแก้ไขอย่างง่ายดายที่ไหนกัน?

เมื่อคิดได้เช่นนั้น จ้าวซื่อเดินตรงมายังประตูหลัก ลู่ม่านเลิกผ้าม่านประตูห้องนอนขึ้นและเดินออกมาทันควัน

“พี่สะใภ้ใหญ่ ทำไมวันนี้ถึงมีเวลาว่างแบบนี้ได้เล่า?”

ประมาณว่าบ้านเฉินใช้ชีวิตไม่ได้ดีมาก สีหน้าจ้าวซื่อซีดเซียวแก่ลงเยอะมาก โดยเฉพาะในเวลานี้ นางประจบประแจงลู่ม่านเป็นพิเศษ เมื่อยิ้มขึ้นมา ตีนกาข้างหางตาทั้งสองข้างก็เป็นเส้นลึกมาก

นางรีบเดินมาทางอย่างรวดเร็ว และมุ่งหน้ามาจับมือของลู่ม่านเอาไว้ “น้องเสี่ยวม่าน ตั้งแต่ที่เจ้าย้ายออกมาจากบ้านแล้ว สะใภ้อย่างเราไม่ได้เจอหน้ากันมานานมากแล้ว วันนี้มีเวลาว่าง ข้ากับน้องสะใภ้รองมาเยี่ยมเยียนเจ้าพร้อมกันเลย”

ลู่ม่านจึงตระหนักได้ว่า หลิวซื่อก็มาด้วย แต่ไม่ได้เข้ามาตรงๆ เหมือนจ้าวซื่อ คอยยืนอยู่ตรงลานอยู่ตลอดเวลา

เมื่อได้ยินพวกนางเอ่ยถึงชื่อของนาง นางจึงยิ้มตอบ “น้องเสี่ยวม่าน”

“พี่สะใภ้รอง” ลู่ม่านเผยรอยยิ้มจริงใจเพิ่มเล็กน้อยให้กับหลิวซื่อจากใจจริง “รีบเข้ามานั่งเถอะ!”

“ไม่ต้องหรอก ข้ารู้ว่าเจ้ายุ่งอยู่ ข้าขอยืนอยู่ตรงประตูสักพักก็พอแล้ว” หลิวซื่อบอกปัด

“จะยุ่งมากขึ้นอย่างไรก็แค่พักเดียวเอง ไม่เป็นไรหรอก เข้ามาเถอะ!” พูดจบ นางจึงลุกขึ้นเพื่อดึงนางเข้ามาทันที ทั้งสามคนนั่งอยู่ในห้อง ลู่ม่านลุกขึ้นและชงผลไม้กวนรสส้มถือออกมาให้

“ดื่มอะไรกันสักหน่อยเถอะ!”

หลิวซื่อพยักหน้าอย่างเขินอาย จ้าวซื่อกลับยินดีปรีดา

“ไอ้หยา นี่มันของดีนี่ ตอนนี้น้องเสี่ยวม่านมั่งคั่งแล้ว สะใภ้อย่างเราหน้าตาชื่นบานแล้ว”

นางก็พูดอยู่ นิสัยของจ้าวซื่อไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ในเวลาสักพัก ลู่ม่านไม่ได้ส่งเสียงตอบรับ พลันปล่อยให้นางแสดงท่าทางประดักประเดิดอยู่นั่นแหละ

หลิวซื่อดื่มหนึ่งอึกตามพิธี จึงกล่าวว่า “อร่อยมากจริงๆ น้องเสี่ยวม่าน”

“อีกสักพักเอากลับไปให้เหอฮัวเถอะ อ้อ ...ยังมีท่านพ่อท่านแม่”

ความจริงลู่ม่านไม่อยากจะเอาไปให้เฉินหลี่ซื่อสักนิด แต่เฉินหลี่ซื่อก็เป็นแม่แท้ๆ เพื่อชื่อเสียงของเฉินจื่ออาน ยังไงก็ต้องอดทนอดกลั้นแหละ? ในเมื่อ พื้นฐานของมารยาทไม่สามารถลดน้อยลงไปได้

หลิวซื่อพยักหน้า “เหอฮัวไม่ต้องหรอก ของท่านพ่อกับท่านแม่ข้าจะเอาไปให้ พวกเขาต้องดีใจมากแน่ๆ”

อาศัยจังหวะที่ทั้งสองคนกำลังพูดคุยกัน จ้าวซื่อคอยสอดส่องมองทางนี้อยู่นาน ไม่นานนัก นางจึงหาข้ออ้างลุกขึ้น “ดูเอาเถอะ ข้ามันเป็นคนยากคนจน ดื่มของดีๆ ไปหน่อยก็ทนไม่ไหวเสียแล้ว ข้าขอตัวออกไปก่อน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน