ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 72

เฉินจื่ออานเองก็เหมือนตื่นขึ้นมาจากความฝัน เมื่อตะกี้เขาแค่ตกอยู่ในภวังค์ความสัมพันธ์ของครอบครัว แต่ตอนนี้เขาตื่นจากความฝันแล้ว แน่นอนว่าเขาเองก็มองออก เฉินหลี่ซื่อดูผิดปกติเกินไปจริงๆ

ในตอนนั้นทำไมพวกเขาถึงถูกไล่ออกไป มันยังชัดเจนอยู่ในใจของเขา

เหตุผลของเรื่องในวันนี้ แค่เดาก็รู้แล้ว

“ท่านแม่ จากนี้ข้าจะกลับมาเยี่ยมท่านมากกว่านี้ วันนี้พวกข้าขอตัวกลับก่อน”

พูดจบ เฉินจื่ออานก็เพิกเฉยต่อเสียงเรียกของเฉินหลี่ซื่อ แล้วลุกขึ้นยืนพร้อมกับเปิดฉากกั้นประตูม่านฟางออกไป จากนั้นลู่ม่านก็เดินตามหลังไปอย่างรวดเร็ว ทั้งสองเดินกลับบ้านอย่างเงียบ ๆ

พอเหลือเพียงสองคนในบ้าน เฉินจื่ออานก็หัวเราะเยาะตัวเอง “เสี่ยวม่าน ข้าดูโง่มากเลยใช่ไหม”

ลู่ม่านชะงักไปเล็กน้อย ในใจรู้สึกสงสารจับใจ

เธอไม่มีญาติพี่น้องมาตั้งแต่ยังเด็ก ถึงแม้เธอจะดูเหมือนไม่สนใจความสัมพันธ์ของครอบครัว ที่จริงแล้ว ในใจเธอรู้ดี เธอปรารถนาความสัมพันธ์ของครอบครัวมากกว่าใคร

เธอไม่เสียใจต่อพวกเฉินหลี่ซื่อ เพราะเธอรู้ตั้งแต่แรกว่าพวกเขาไม่มีทางจริงใจกับตนเอง ดังนั้น เธอจึงไม่ให้ความจริงใจของเธอกับพวกเขา

แต่ว่า ถ้าจู่ๆ เฉินจื่ออานกลายเป็นเหมือนเฉินหลี่ซื่อ เธอคงจะเสียสติมากกว่าสีหน้าของเฉินจื่ออานในตอนนี้

“เจ้าไม่ได้โง่!” ลู่ม่านกล่าว “เจ้าก็แค่โหยหาความรักจากคนในครอบครัวมากเท่านั้นเอง”

แต่ว่า การโหยหาความรักจากคนในครอบครัวก็ไม่ได้หมายความว่า จะปล่อยให้ตนเองถูกหลอกซ้ำแล้วซ้ำเล่าแบบนี้ แต่ว่า ลู่ม่านกลับพูดไม่ออก ว่าให้เฉินจื่ออานระมัดระวังพวกเขาไว้ เพราะยังไงแล้ว นั่นก็คือญาติผู้ใหญ่ของเฉินจื่ออาน

เธอสามารถระแวดระวังเอง แต่เธอไม่สามารถบังคับคนอื่นทำให้ได้

ลู่ม่านหายใจเข้าลึก ก่อนจะสะบัดความคิดนี้ออกจากสมองไป ก่อนจะพูดยิ้มๆ “ข้ายังไม่ได้กินข้าวเที่ยงเลย เจ้าอยากกินอะไร ข้าจะไปทำมาให้”

เฉินจื่ออานยกมือขึ้นมากุมมือของลู่ม่าน “ข้าจะไปกับเจ้าด้วย!”

ทางบ้านเฉินที่เกลี้ยกล่อมไม่สำเร็จ จากนั้นก็ค่อย ๆ หยุดพูดไป ไม่นาน กล่องของขวัญอีกห้าสิบชุดก็ห่อเสร็จ

ลู่ม่านตื่นตั้งแต่เช้า ก่อนจะจัดคนเตรียมใส่กล่องแล้วเตรียมส่งไปในตำบล แต่คิดไม่ถึงว่า ยังไม่ทันได้ขนของขึ้นรถ รถม้าคันหนึ่งก็มาหยุดที่หน้าประตู

ผู้ดูแลร้านช่ายก็ลงมาจากรถม้า แล้วมองมาทางลู่ม่านอย่างโกรธเคือง

“แม่นางลู่ ทำไมท่านมีสินค้าใหม่ไม่บอกข้าเลยล่ะ”

ลู่ม่านตะลึงไปเล็กน้อย พอเห็นสายตาของอีกฝ่ายมองไปที่กล่องของขวัญจึงยกยิ้มแล้วกล่าว “ผู้ดูแลร้านช่ายท่านคงไม่รู้ ว่าสินค้ารสชาติใหม่ในกล่องของขวัญของเรานี้จะยังไม่ปล่อยขายอย่างเป็นทางการจนกว่ารุ่นจำกัดจำนวนนี้จะขายหมด ถึงตอนนั้น แน่นอนว่าต้องส่งให้ภัตตาคารเฟิ่งหลายเป็นแห่งแรกอยู่แล้ว”

“ข้าไม่ได้หมายถึงสิ่งนี้ แต่หมายถึงกล่องของขวัญนี้ ครั้งที่แล้วคุณชายรองของพวกเราบอกแล้วมิใช่หรือ ทางตระกูลจวงก็มีร้านของขายใช้เช่นกัน”

ลู่ม่านคิดไม่ถึงเหมือนกัน แต่ก็สามารถเข้าใจได้ ที่จริงแล้วในใยของลู่ม่านก็พอจะคิดได้ แต่คุณชายรองจวงให้ความรู้สึกกับคนอื่นเหมือนคนเย็นชาเกินไป อีกทั้ง เรื่องผลไม้กวนรสส้ม ก็ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะขายดีหรือไม่ เธอจึงยังไม่พูดเรื่องนี้ออกไป

แต่ผู้ดูแลร้านช่ายกลับโกรธมาก “แม่นางลู่ ท่านรู้หรือไม่ มีเพื่อนของคุณชายรองท่านหนึ่ง ให้กล่องของขวัญเยี่ยงนี้แก่เขา หลังจากที่เขาเห็นมัน แล้วรู้ว่ามันเป็นสิ่งที่ท่านสร้างขึ้นมา เขาก็รีบส่งคนขี่ม้าเร็วมา แล้วตำหนิติเตียนข้าถึงครึ่งชั่วยาม...”

ลู่ม่าน “…” นายทุนคนนี้ ดุร้ายจริงๆ แต่เพื่อนของจวงลี่จ้ง? คงไม่ใช่ชายชราผู้นั้นหรอกนะ?

สินค้าชุดแรกมีทั้งหมดยี่สิบกล่อง และถูกเขาซื้อไปทั้งหมดเลยไม่ใช่หรือไง

“ต้องขอโทษด้วย ข้าไม่รู้ว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้...”

“เรื่องนี้ อย่าเพิ่งพูดตอนนี้เลย ตอนนี้ท่านมีทั้งหมดกี่ชุด?

“ห้าสิบชุด!” ลู่ม่านตอบตามความจริง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน