สรุปตอน บทที่ 74 สอบชิ่วไฉ – จากเรื่อง ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน โดย ฝูเชิง
ตอน บทที่ 74 สอบชิ่วไฉ ของนิยายประวัติศาสตร์เรื่องดัง ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน โดยนักเขียน ฝูเชิง เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
เถ้าแก่จางเป็นบัณฑิต ในเวลานี้เขากำลังควบคุมอารมณ์โกรธของตัวเองไว้ แต่ลู่ม่านยังคงรู้สึกถึงความผิดหวังในสายตาของเขา
ลู่ม่านเองก็รู้สึกงุนงง “ข้าไม่ได้ขายให้ร้านตรงข้ามนี่นา”
นางจะขายให้อีกฝ่ายได้อย่างไร? เถ้าแก่ซุนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเคยดูถูกพวกนางแบบนั้น พวกนางไม่ใช่คนโง่ที่เคยโดนทำร้าย แล้วยังยกโทษให้อีกฝ่าย
“ในเรื่องนี้ต้องมีอะไรเข้าใจผิดแน่ๆ” เฉินจื่ออานพูด
“แต่ร้านตรงข้ามก็ขายกล่องของขวัญของเจ้าเหมือนกัน! ถึงแม้กล่องจะไม่เหมือนกันเล็กน้อย แต่ก็ใช้ชื่อหมู่บ้านไป่ฮัวเช่นเดียวกัน!” เถ้าแก่จางกล่าว
ลู่ม่านขมวดคิ้ว “เราไปดูกันเถอะ”
เธอพูด ก่อนจะเดินตรงไปที่ร้านฝั่งตรงข้าม เฉินจื่ออานรีบเลื่อนล้อรถเข็นตามไป “เสี่ยวม่าน อย่ารีบร้อนไป”
ที่ประตูฝั่งตรงข้ามมี “ป้ายประกาศ” ขนาดใหญ่แขวนไว้ ดูเหมือนว่าจะเลียนแบบป้ายประกาศที่เถ้าแก่จางวาดเองนั้น บนป้ายได้วาดกล่องของขวัญไว้
เถ้าแก่จางพูดถูก นอกจากลวดลายที่แตกต่างกันด้านบน อย่างอื่นก็เหมือนกันหมด
พอเห็นสิ่งนี้ สีหน้าของลู่ม่านกับเฉินจื่ออานก็เปลี่ยนไปทันที วินาทีต่อมา ทั้งสองก็รีบเข้าไปในร้าน
ข้างในมีคนยืนเข้าแถวยาว ตรงหน้าแถว เถ้าแก่ซุนพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “ทุกท่านวางใจได้ เรามีกล่องของขวัญมากพอ รับประกันว่าทุกคนที่มาจะซื้อได้ทุกคน”
ผู้ที่ซื้อกล่องของขวัญแล้วเอ่ยถามอย่างสงสัย “นี่คือผลไม้กวนจากหมู่บ้านไป่ฮัวจริงหรือ ทำไมกล่องถึงไม่เหมือนกันเลย...”
“นี่คือกล่องรุ่นใหม่ สินค้าของร้านเราต้องเป็นผลไม้กวนจากหมู่บ้านไป่ฮัวแน่นอนอยู่แล้ว ถ้าไม่เชื่อก็ซื้อกลับไปลองชิมดู...”
ในที่สุด ลู่ม่านก็อดที่จะพูดเยาะเย้ยไม่ได้ “ขอถามเจ้าของร้าน ท่านมีหลักฐานอะไรมาพิสูจน์ ว่านี่เป็นผลไม้กวนที่มาจากหมู่บ้านไป่ฮัวของพวกเราจริงๆ”
ทันทีที่เสียงของลู่ม่านดังขึ้นมา เถ้าแก่ซุนเห็นหน้านาง สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที
“เสี่ยวเอ้อ ทำไมถึงปล่อยให้คนไม่เกี่ยวข้องเข้ามาได้หมด ยังไม่รีบไล่ออกไปอีก”
ทันทีที่พูดจบ เสี่ยวเอ้อสองสามคนก็ออกมาจากด้านใน แล้วยืนล้อมทั้งสองคนไว้
เฉินจื่ออานในเวลานี้ก็ไม่สนใจอะไรแล้ว เขาเลื่อนล้อรถเข็นไปขวางหน้าอย่างรวดเร็ว และดึงลู่มานไปปกป้องไว้ข้างหลังเขา พอเถ้าแก่ซุนเห็นสถานการณ์เช่นนี้ เขาก็หรี่ตาลง
ลู่ม่านไม่ได้กลัวเลย นางได้สายดำกีฬาเทควันโดเลยนะ จะกลัวเสี่ยวเอ้อที่ตัวแห้งแรงน้อยแบบนี้ได้เยี่ยงใด?
แต่ว่า การถูกเฉินจื่ออานปกป้องแบบนี้ก็รู้สึกดีไม่น้อย
แต่ว่า ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมารู้สึกดี ลู่ม่านปรับอารมณ์ของนางอย่างรวดเร็ว และมองไปยังกลุ่มคนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามที่ยังมที่ยังเข้าแถวอยู่
“พวกเจ้าถูกหลอกแล้ว ผลไม้กวนของร้านนี้ไม่ได้มาจากหมู่บ้านไป่ฮัว”
“ทำไมถึงจะไม่ใช่ของหมู่บ้านไป่ฮัว?” เถ้าแก่ซุนยกยิ้มมุมปากอย่างดุร้าย “สินค้าของร้านข้าไม่มีปัญหา หรือจะมีแต่พวกเจ้าที่สามารถใช้ชื่อหมู่บ้านไป๋ฮัว พวกข้าจะใช้ชื่อหมู่บ้านไป่ฮัวไม่ได้หรือไง?”
หลายคนที่เพิ่งซื้อผลไม้กวน รีบเปิดกล่องทันที มันเขียนไว้ว่าหมู่บ้านไป๋ฮัวจริงๆ! และพอลองชิมดู มันก็มีรสชาติคล้ายกัน
ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขายังขายในราคาเพียงห้าสิบแปดเหวินเท่านั้น
คนที่ได้ชิมแล้วพูดขึ้นมาทันที “ใช่ เถ้าแก่ซุนพูดถูก มีแต่พวกเจ้าที่สามารถใช้ชื่อหมู่บ้านไป๋ฮัว คนอื่นจะใช้ชื่อหมู่บ้านไป่ฮัวไม่ได้หรือไง มีคนมากมายที่มาจากหมู่บ้านไป่ฮัว ทุกคนสามารถทำผลไม้กวนได้เช่นกัน..”
ลู่ม่านโกรธจนหัวเราะออกมา “มันคือตราสินค้า”
“ตราสินค้าบ้าบออะไรกัน! แน่จริง เจ้าก็ไปแจ้งทางการสิ?” เถ้าแก่ซุนยกยิ้มอย่างชั่วร้าย ลู่ม่านรู้สึกเจ็บใจมาก
ต้องมาเจอกับคนหน้าด้านไร้ยางอายเช่นนี้ นางทำอะไรไม่ได้เลยจริง ๆ เพราะเขาพูดถูก ใครก็สามารถใช้ชื่อหมู่บ้านไป่ฮัวได้ ในยุคสมัยนี้ไม่มีกฎหมายคุ้มครองเครื่องหมายการค้า...
“ผู้ดูแลร้านช่าย สิ่งที่ท่านพูดครั้งที่แล้วมันก็ถูก การค้าขายมิใช่เรื่องผิดแต่การครอบครองสิ่งล้ำค่าจะไปกระตุ้นความริษยาของผู้อื่น จะเอาแต่รบกวนคุณชายจวงก็ไม่ดี พอดีเลย ถือโอกาสในครั้งนี้ ถ้าท่านได้เจอกับคุญชายจวงช่วยบอกเขาว่า บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่เคยคุยกันครั้งที่แล้วข้าทำการทดลองมาแล้ว คุณชายจวงมีเวลา ก็ให้เขามาคุยรายละเอียดความร่วมมือกันหลังช่วงปีใหม่”
ผู้ดูแลร้านช่ายยกยิ้มพึงพอใจออกมาทันที “แม่นางลู่คิดได้ก็ดีแล้ว ข้าจะนำไปรายงานคุณชายรองแน่นอน”
ระหว่างทางกลับบ้าน ลู่ม่านนิ่งเงียบไม่ได้พูดอะไร หลังจากที่เฉินจื่ออานเหลือบมองด้วยความกังวลหลายครั้ง ในที่สุดเธอก็เงยหน้าขึ้น แล้วพูดว่า “จื่ออาน เจ้าอยากสอบชิ่วไฉไหม?”
เฉินจื่ออานตกตะลึง “ข้าเหรอ?”
“ใช่แล้ว ช่วงนี้เจ้ากำลังฝึกอ่านคัมภีร์พันอักษรอยู่มิใช่หรือ ท่านจำตัวอักษรได้เยอะมากแล้ว หรือว่า ท่านจะลองไปเข้าเรียนดู...”
แต่ว่า ทันทีที่พูดจบ ลู่ม่านก็ส่ายหน้าขึ้นมาอีกครั้ง “ช่างเถอะ เป็นข้าที่คิดมากเกินไปเอง”
เฉินจื่ออานอายุมากแล้ว อ่านและเขียนยังพอได้ ถ้าให้ไปเรียนไปสอบ เขาที่เป็นผู้ใหญ่ต้องไปนั่งเรียนกับเด็ก เขาคงลำบากใจเกินไป
วันนี้นางถูกเถ้าแก่ซุนทำให้โมโหมาก ทำให้นางกระวนกระวายใจจนคิดอะไรสับสนไปหมด
“ข้าอยากจะลองดู...” เฉินจื่ออานพูดขึ้นมากะทันหัน
ลู่ม่านตกตะลึง “เจ้าพูดว่าอะไรนะ”
“ข้าบอกว่าข้าอยากจะลองดู” เฉินจื่ออานคิดทบทวนคำถามนี้มาได้สักพักแล้ว ก่อนหน้านี้ ลู่ม่านกล่าวว่าที่ที่เธอจากมาถึงแม้คนที่อายุหกสิบกว่ายังสามารถเข้าเรียนได้ ทำให้เขารู้สึกอิจฉามาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาต่อมา เขาได้เห็นกับตาตัวเองว่าลู่ม่านที่เป็นแค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่ง อยากจะทำอะไรด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง แต่มักจะถูกกดขี่ข่มเหงอยู่เสมอ ในฐานะสามีของเธอ เฉินจื่ออานรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก
“ไม่ใช่แค่สำหรับเจ้าเท่านั้น แต่ข้ายังอยากพิสูจน์ตัวเองด้วย”
“ตกลง!” ในที่สุดลู่ม่านก็ยกยิ้มกว้างครั้งแรกของเขาวันนี้ออกมา “รอหลังปีใหม่ พวกเรามาคิดหาวิธีกันอีกที”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน
เป็นพอ.ที่กลับกรอก เป็นที่พึ่งไม่ได้เลย ยอกจะออกจากครอบครัวเลวๆนี่ไม่จริงอีก ภาระของนางเอก ถ่วงแข้งถ่วงขาจริงๆ...
เด็กไม่ตายเพราะแม่คลอดยากจะตายเพราะคนรับใช้ป้อนโจ๊กข้าวจนอิ่มตื้อ รอดได้คือดวงแข็งเว่อ...
อ่านไป งงไป ตัดสินประหาร หรืออภัยโทษ?...
หม่อมข้า? ใช้ MS Word ไม่ระวังเลย...
ตั้งแต่ต้นจนถึงตอน 337 แล้ว โดยภาพรวมพระเอกไม่ค่อยมีเสน่ห์ ไม่เฉียบแหลมเลย...
อะไรจะมีปมขนาดนั้น วุ่นวายตอกย้ำเหลือเกินเกี่ยวกับระบบศักดินา ทั้งที่มันเป็นคนละยุคสมัยกัน...
ตอน285-287 หายทำไงดี...
ตอนหายค่ะ 284แล้วกระโดดไป288เลยค่ะ...
บท 285-287 หายค่ะ 284แล้ว288เลย รบกวนด้วยค่ะ...
281-311 รบกวนด้วยค่ะ...