ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 76

สรุปบท บทที่ 76 ฝึกวิธีทำผลไม้กวน: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน

บทที่ 76 ฝึกวิธีทำผลไม้กวน – ตอนที่ต้องอ่านของ ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน

ตอนนี้ของ ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน โดย ฝูเชิง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายประวัติศาสตร์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 76 ฝึกวิธีทำผลไม้กวน จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

แต่ว่า พอมาถึงบ้านเฉิน ลู่ม่านถึงได้รู้ว่าตนเองคิดอะไรง่ายเกินไป บ้านหลังอื่นเริ่มกินข้าวเลี้ยงฉลองกันนานแล้ว ถึงจะฉลองกันช้าไปนิดก็ใกล้จะจบแล้ว

แต่ที่บ้านเฉิน กลับเพิ่งจะเริ่มเตรียมทำอาหาร

ดูเหมือนว่าจ้าวซื่อจะกลับมามีอำนาจอีกครั้งแล้ว ในตอนที่ลู่ม่านและคนอื่นๆ เดินเข้ามา นางยังคงยืนแทะเมล็ดแตงโมอยู่นอกครัว ตอนที่หันกลับมามอง ปิ่นปักผมสีเงินก็ปรากฏออกมา

แม้แต่เถาฮัวที่อยู่ข้าง ๆ ก็มีผ้าผูกผมลายดอกไม้ชิ้นใหม่ด้วย

ลู่ม่านขมวดคิ้ว เหอฮัวที่กำลังยุ่งอยู่กับการล้างผัก ก็ลุกขึ้นมาทักทาย “น้าสาม”

“อืม แล้วแม่ของเจ้าล่ะ” ลู่ม่านเอ่ยถาม พอดีกับที่หลิวซื่อเดินออกมา โดยที่ในมือกำลังหอบเนื้อสัตว์และผักพะรุงพะรัง ลู่ม่านรีบเดินไปช่วยเธอขนของ

“พี่สะใภ้รอง ทำไมวันนี้ถึงทำอาหารกันช้าเช่นนี้”

หลิวซื่อมองไปที่จ้าวซื่อ แล้วก้มหน้าลง จ้าวซื่อส่งเสียงฮึ ก่อนจะแสร้งพูดขึ้นมาว่า “น้องสะใภ้รอง ข้าเพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่ามีเรื่องจะคุยกับท่านแม่ เกรงว่าคงช่วยเจ้าทำอาหารไม่ได้ ข้าไปก่อนนะ”

จากนั้น นางก็เดินจากไป

หลังจากนั้น หลิวซื่อก็กระซิบบอกกับนางว่า “ช่วงเช้าน้องเล็กยังไม่กลับมา ท่านแม่จึงไม่ยอมให้พวกเราทำอาหาร เมื่อครู่พี่ใหญ่ไปพาเขากลับมาแล้ว เลยบอกให้พวกข้าเตรียมทำอาหารได้...”

ลู่ม่าน “…” ถ้าเฉินจื่อคังไม่กลับมา บ้านเฉินจะไม่ต้องฉลองปีใหม่แล้วหรือไงกัน?

“น้องสะใภ้สาม ถ้าอย่างนั้นคงต้องรบกวนเจ้า!” จ้าวซื่อหันกลับมาเรียกนาง ลู่ม่านส่ายหน้า “ข้าไม่เข้าไปแล้ว”

เฉินจื่อคังอยู่ข้างใน เฉินหลี่ซื่อจะต้องแสดงละครความรักอันลึกซึ้งระหว่างแม่ลูกแน่ๆ นางไม่อยากเข้าไปเห็นฉากจอมปลอมเช่นนั้น

“พี่สะใภ้รอง ข้าช่วยท่านทำอาหาร!” ลู่ม่านกล่าว

“เอ่อ…” หลิวซื่อรู้สึกซาบซึ้งใจมาก ในบ้านหลังนี้ นอกจากลู่ม่านแล้ว นางคิดว่าคงไม่มีใครเต็มใจจะช่วยนาง

“ไม่เป็นไร ยังไงข้าก็ไม่อยากเข้าไปอยู่แล้ว” หลังจากที่ลู่ม่านพูดจบ นางก็เริ่มเข้าไปช่วยหลิวซื่อเติมฟืน

ภายในห้องโถง บางครั้งก็มีเสียงของเฉินหลี่ซื่อที่ทั้งร้องไห้และหัวเราะดังออกมา และในบางครั้งก็มีเสียงหัวเราะของจ้าวซื่อดังออกมาด้วย จากนั้นลู่ม่านก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ จึงเอ่ยถามออกไป “ทำไมพี่สะใภ้ใหญ่กับท่านแม่ถึงกลับมาคืนดีกันเร็วเช่นนี้ล่ะ”

ทั้งที่ก่อนหน้านี้ถึงกับไล่ออกจากบ้านไปเลย?

หลิวซื่อฝืนยิ้มออกมา แล้วพูดเสียงเบา “พี่สะใภ้เป็นคนเอาอกเอาใจคนเก่ง ตอนนี้ท่านแม่ชอบนางมาก ไม่ใช่แค่ท่านแม่ แต่น้องหลิ่วเอ๋อก็ชอบนางมากด้วย”

ลู่ม่านเลิกคิ้ว เหอฮัวที่อยู่ด้านข้างก็วิ่งเข้ามา แล้วกระซิบข้างหูลู่ม่าน “เมื่อวันก่อน ข้าเห็นท่านป้าใหญ่ซื้อชุดผ้าฝ้ายให้กับอาหญิง และยังให้เงินท่านย่าด้วย”

พอได้ยินดังนั้น หลิวซื่อก็รีบตะโกนว่า “เหอฮัว ห้ามเป็นเด็กที่ปากพล่อยเช่นนี้นะ”

หลิวซื่อมักจะคาดหวังกับเหอฮัวเยอะมาก พยายามปลูกฝังให้บุตรสาว “เรียบร้อย” เหมือนนาง แต่ว่า ในโลกใบนี้ เรียบร้อยเกินไป ไม่ใช่คนโง่หรือ?

คนเราอยากจะมีจิตใจเมตตา ก็ต้องมีความสามารถที่จะปกป้องจิตใจเมตตาของตัวเองไว้ให้ได้เช่นกัน

เหอฮัวไม่กล้าพูดอะไรอีก ดังนั้นนางจึงก้มหน้าลงไปล้างผักต่อ ลู่ม่านคิดในใจ จ้าวซื่อเอาเงินมากมายขนาดนี้ได้มาจากไหน?

ในช่วงฟ้ามืด อาหารเย็นถึงได้เริ่มขึ้น

นี่เป็นครั้งแรกที่เฉินจื่อคังกลับมาหลังจากที่ตาแก่เฉินรู้ว่าเขากับเฉินหลี่ซื่อสมรู้ร่วมคิดกันเอาเงินของบ้านไปจนหมด แต่อาจเป็นเพราะไม่ได้เจอกับลูกชายมานาน ตั้งแต่เขาเห็นลูกชายของเขา ตาแก่เฉินไม่ได้พูดถึงเรื่องในอดีตอีก

มื้อนี้กินดีไม่น้อย ถึงจะไม่มีเนื้อปลา อย่างอื่นก็มีทุกอย่าง

แต่ว่า มีอีกเรื่องที่ไม่เปลี่ยนแปลงก็คือเฉินหลี่ซื่อ ความคุ้นเคยเรื่องการแบ่งอาหารก็ไม่เปลี่ยนแปลง ถึงแม้วันนี้จะเป็นวันสิ้นปี

จ้าวซื่อคีบเนื้อให้เถาฮัวหนึ่งชิ้น จากนั้นก็คีบให้ตนเองอีกหนึ่งชิ้น เฉินหลี่ซื่อคีบเนื้อให้เฉินหลิ่วเอ๋อสามถึงสี่ชิ้น จากนั้นก็ให้หลิวซื่อกับเหอฮัว วันนี้เป็นวันส่งท้ายปีเก่า ทั้งสองจึงได้หนึ่งชิ้นเต็ม

จนสุดท้ายมาถึงลู่ม่าน เฉินหลี่ซื่ออยากจะคีบให้เธอ แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร นางก็วางตะกร้าลงตรงหน้าเหมือนเดิม

“ทำเช่นนั้นไม่ได้ เจ้ากับจื่ออานเหนื่อยมากแล้ว! ตกลงตามนี้ ให้หลิ่วเอ๋อเรียนวิธีทำจากเจ้า!” หลังจากพูด เฉินหลี่ซื่อก็ดึงเฉินหลิ่วเอ๋อออกมา “เร็วเข้า ตั้งใจไปฝึกทำกับน้าสามของเจ้า”

“หลิ่วเอ๋อ เจ้าอยากเรียนจริงๆ หรือ นี่เป็นงานที่เหนื่อยมากเลยนะ!” ลู่ม่านเอ่ยถาม

เห็นได้ชัดว่าเฉินหลิ่วเอ๋อไม่ยอมเข้าครัว แต่เฉินหลี่ซื่อยังคงบังคับนางจากด้านหลัง นางไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพยักหน้ารับ “ข้าจะเรียน”

“ตกลง! ถึงแม้จะเป็นสูตรลับประจำตระกูล แต่ท่านแม่อยากจะกิน ข้าก็จะสอนให้! ไปเถอะ หลิ่วเอ๋อ ข้าจะสอนให้เดี๋ยวนี้เลย”

จ้าวซื่อที่อยู่ข้างหลังรีบเดินเข้ามา “ท่านแม่ ข้าจะไปดูด้วย ถึงเวลานั้น ข้าจะทำให้ท่านทานด้วยความกตัญญูแน่นอน”

“หยุดเดี๋ยวนี้!” เฉินหลี่ซื่อตะคอกสั่ง “เจ้าห้ามไป”

“ทำไมข้าถึงไปไม่ได้” จ้าวซื่อไม่ยอมตายใจ

“ไม่ได้ยินที่เสี่ยวม่านพูดหรือไง มันเป็นสูตรลับประจำตระกูล เจ้าจะไปทำไม กลับมาเดี๋ยวนี้!” แล้วอีกอย่าง ที่นางอยากให้เฉินหลิ่วเอ๋อไปเรียนรู้วิธีทำก็เพื่ออนาคตของลูกสาวนางและบ้านเฉิน

ถึงแม้ความสัมพันธ์ของจ้าวซื่อกับนางจะสนิทสนมกันมากแค่ไหน นางก็ไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆ ของตนเอง

จ้าวซื่อขมวดคิ้ว และสาปแช่งยายแก่ผู้นี้อยู่ในใจ ตอนที่นางให้เงินอีกฝ่าย ก็ทำท่าทางรักใคร่นางมากกว่าใคร แต่ตอนนี้ พอเห็นว่าจะได้ผลประโยชน์ นางก็จะเมินหน้าหนีทันที

นางนั่งบนเก้าอี้อย่างแค้นใจ สีหน้าของจ้าวซื่อเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง วินาทีต่อมา เธอก็หยิกเถาฮัวที่ยืนอยู่ ข้างๆ “ไปเลยนะ ไปดูน้าสามของเจ้าว่าทำอย่างไรบ้าง”

เถาฮัวที่กำลังแทะเมล็ดแตงโม รู้สึกไม่อยากจะไป แต่ถูกจ้าวซื่อหยิกจนร้องไห้ออกมา

เฉินหลี่ซื่อยิ่งไม่ชอบจ้าวซื่อมากขึ้นไปอีก “เด็กคนนี้ยืนอยู่ดีๆ เจ้าจะตีนางทำไม?”

จ้าวซื่อยกยิ้มแล้วพูดว่า “ข้าไม่ได้ตีนาง ข้าจะทำใจตีนางได้อย่างไรกัน นางเผลอกัดปากตัวเองตอนที่แทะเมล็ดแตงโม ข้าบอกให้นางไปดื่มน้ำ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน