ว่าแล้ว เขาก็ลุกขึ้นเดินเข้าไปในห้อง เพราะปีใหม่ เขาก็เอาหนังสือราชการบางอย่างกลับมาบ้านด้วย หากเกิดเรื่องด่วนขึ้นมาจะได้หาง่าย
ค้นหาอยู่สักพัก เขาก็เงยหน้าพูดว่า “เป็นพื้นที่ไม่มีเจ้าของ ทำไมเหรอ พวกเจ้าอยากทำการเพาะปลูกเหรอ?”
“ไม่ พวกเราอยากจะซื้อไว้!” เฉินจื่ออานพูด
ผู้ใหญ่บ้านได้ยินแล้วก็พูดเตือนด้วยความหวังดีว่า “พื้นที่ตรงนั้นไม่มีเจ้าของ หากพวกเจ้าต้องการเพาะปลูก ข้าก็ยินดีจะสนับสนุน ไม่จำเป็นต้องซื้อไว้หรอก!”
ลู่ม่านรู้อยู่แล้วว่า ตอนนี้ที่นั่นเป็นที่ไร้เจ้าของ ไม่มีใครมาแย่งแน่นอน แต่ว่า หากสักวันหนึ่งพื้นที่ตรงนั้นกลายเป็นพื้นที่ที่มีราคาขึ้นมาล่ะ ยากที่จะไม่มีคนอยากได้
ดังนั้น เฉินจื่ออานยังคงพูดอย่างเด็ดขาดว่า “พวกเราต้องการซื้อไว้”
“ได้!” ผู้ใหญ่บ้านเกรงว่าพวกเขาคงกลัวว่าเพาะปลูกขึ้นมาจะโดนแย่งไป? จึงอยากซื้อเอาไว้ นั่นก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอก
เพราะเป็นคนรู้จัก เขาเลยไม่ได้คิดราคาที่สูงมาก พื้นที่ผืนใหญ่ขายออกไปแค่เงินสามพวง! ลู่ม่านคิดแล้วก็ตกลง
ในช่วงบ่ายของวันนั้น พวกเขายังกลับไปทำโฉนดที่ดินสีขาวในสำนักงาน ต้องรอให้เจ้าหน้าที่มาทำงานก่อนถึงจะทำการปั้มโฉนดที่ดินสีแดงได้
หลังจากที่จัดการเสร็จแล้ว ลู่ม่านก็เอาเงินให้ผู้ใหญ่บ้าน เรื่องนี้ก็ถือว่าเสร็จสมบูรณ์แล้ว
หลิวซื่อเรียกทั้งสองไว้อย่างเป็นมิตร “วันนี้กินข้าวเย็นที่นี่เถอะ!”
ลู่ม่านก็พูดเกรงใจกับนางสักพักใหญ่ ถึงเอาโฉนดที่ดินสีขาวเก็บไว้แล้วกลับบ้านไปพร้อมกับเฉินจื่ออาน
ตอนที่ผ่านหน้าประตูบ้านเฉิน ทันใดนั้นลู่ม่านก็ได้ยินเสียงกรีดร้องและร้องไห้ดังออกมา ต่อมาก็มีเสียงขอร้องของเด็กดังขึ้น “ท่านย่า ช่วยแม่ของข้าด้วยเถอะ?”
เป็นเสียงของเถาฮัวและสือซ่วน
ลู่ม่านมองหน้าเฉินจื่ออาน ต่างก็เห็นความคิดของซึ่งกันและกัน
วันนี้จ้าวซื่อกลับบ้านแม่ ทางฝังผู้ดูแลร้านช่ายจะต้องลงมือแล้วแน่ๆ
ด้านในมีเสียงก่นด่าของเฉินหลี่ซื่อดังขึ้น “นางทำตัวของนางเอง ตอนนี้มาหาข้าจะมีประโยชน์อะไร? ไหนว่าแม่ของเจ้าปลอมผลไม้กวนของน้าสามเจ้าไง? พวกเจ้าก็ไปหาน้าสามเองสิ!”
เฉินหลี่ซื่อพูดจบ ลู่ม่านก็ใจสั่น รีบเข็นรถเข็นของเฉินจื่ออานออกไปโดยเร็ว
แต่ช้าไปแล้ว เถาฮัวกับเฉินสือซ่วนเดินออกมาจากประตูแล้ว พอเห็นพวกเขา เด็กสองคนก็วิ่งเข้ามากอดขาของพวกเขาเอาไว้
“น้าสาม! ขอร้องล่ะ ปล่อยแม่ของข้าไปเถอะนะ!”
ลู่ม่านขมวดคิ้ว “เรื่องนี้มันไม่ง่ายเหมือนที่เจ้าคิดนะ”
“แต่ตอนนั้นบ้านตากับยายส่งคนมาบอกว่าแม่ถูกจับตัวไปแล้ว แม่ทำผลไม้กวนของน้าถึงโดนจับตัวไป!” เถาฮัวพูดอย่างมั่นอกมั่นใจเหมือนทำแบบนี้แล้วไม่ผิด เฉินสือซ่วนรีบดึงมือนางไว้
“เถาฮัว อย่าพูดไร้สาระ” ต่อมา เฉินสือซ่วนก็เงยหน้าขึ้น มองลู่ม่านด้วยสีหน้าที่ใสซื่อเหมือนเฉินจื่อฉายและดวงตาที่คาดหวัง
“น้าสาม ขอโทษด้วย ที่แม่ของข้าทำให้น้าต้องลำบากใจ” ว่าแล้ว เขาก็โค้งคำนับ พอลุกขึ้นมาแล้ว เขาก็ถึงถามอย่างระมัดระวังว่า “ต่อไปแม่ของข้าจะไม่ทำผิดอีกแน่นอน น้าบอกให้คนปล่อยแม่ของข้าได้หรือไม่?”
หากเด็กคนนี้เข้ามาพูดจาไร้สาระและหาเรื่องล่ะก็ ลู่ม่านอาจจะใจแข็งไม่สนใจเขาก็ได้ แต่ว่า เด็กคนนี้เป็นเด็กดีจริงๆ
เขาไม่เหมือนจ้าวซื่อ กลับเหมือนกับพ่อของเขาเฉินจื่อฉาย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน
เด็กไม่ตายเพราะแม่คลอดยากจะตายเพราะคนรับใช้ป้อนโจ๊กข้าวจนอิ่มตื้อ รอดได้คือดวงแข็งเว่อ...
อ่านไป งงไป ตัดสินประหาร หรืออภัยโทษ?...
หม่อมข้า? ใช้ MS Word ไม่ระวังเลย...
ตั้งแต่ต้นจนถึงตอน 337 แล้ว โดยภาพรวมพระเอกไม่ค่อยมีเสน่ห์ ไม่เฉียบแหลมเลย...
อะไรจะมีปมขนาดนั้น วุ่นวายตอกย้ำเหลือเกินเกี่ยวกับระบบศักดินา ทั้งที่มันเป็นคนละยุคสมัยกัน...
ตอน285-287 หายทำไงดี...
ตอนหายค่ะ 284แล้วกระโดดไป288เลยค่ะ...
บท 285-287 หายค่ะ 284แล้ว288เลย รบกวนด้วยค่ะ...
281-311 รบกวนด้วยค่ะ...
บทที่241-311 หายค่ะ...