ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 91

สรุปบท บทที่91 เฉินเหมยเซียง: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน

สรุปเนื้อหา บทที่91 เฉินเหมยเซียง – ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน โดย ฝูเชิง

บท บทที่91 เฉินเหมยเซียง ของ ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน ในหมวดนิยายประวัติศาสตร์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ฝูเชิง อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ตอนที่พูดคำนี้ ใบหน้าที่งดงามของเฉินหลิ่วเอ๋อก็ดุร้ายขึ้นมา เหมือนสองคนตรงหน้าไม่ใช่พี่ชายพี่สาวอีกต่อไป แต่เป็นศัตรูที่นางพร้อมจะฆ่าฟันได้ตลอดเวลา

ลู่ม่านไม่ได้คิดอะไร นางได้รังแกนางหรือยัง? นางก็แค่ทำคืนเหมือนที่นางทำกับคนอื่นก็เท่านั้นเอง

เฉินหลี่ซื่อรีบตามออกไป แม่ลูกสองคนก็ถึงเดินไกลออกไป

เฉินจื่ออานหมุนรถเข็นมองดูแผ่นหลังของทั้งสองคน สีหน้าของเขามืดมนลง ลู่ม่านรีบเข้าไปปลอบใจเขา “มันไม่ใช่อย่างที่นางพูดเลยนะ ขาของเจ้าดีขึ้นมากแล้วนี่? คำพูดนั้น พวกเราอย่าไปฟังมันเลยนะ รอวันหลังถ้าหายดีแล้ว พวกเราไปเดินที่บ้านเก่าสักรอบ ให้นางโกรธเล่นๆ!”

เฉินจื่ออานหัวเราะกับคำพูดเด็กๆของลู่ม่าน แต่ก็ต้องยอมรับว่า ถ้าไม่มีลู่ม่าน เขายังไม่รู้เลยว่าตัวเองจะกลายเป็นยังไงบ้าง?

คิดถึงตรงนี้แล้ว เขาก็หัวเราะออกมา “ไหนว่าจะกลับไปเก็บของที่บ้านไง? ไปกันเถอะ!”

ลู่ม่านพยักหน้าอย่างพึงพอใจ นางเห็นว่าตอนนี้เฉินจื่ออานปรับอารมณ์ได้เก่งขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก

คงเป็นเพราะคนในครอบครัวทำให้เขาเสียใจมาหลายครั้ง จนชินชาไปแล้ว ดังนั้นเลยไม่เสียใจขนาดนั้นแล้ว

พึ่งถึงบ้าน ก็เห็นเหยาซื่อกับหวังเอ้อร์หนิวมาถึงหน้าบ้านแล้ว

“โรงงานสร้างเสร็จแล้ว ข้าคิดว่าวันนี้ตอนบ่ายพวกเจ้าไม่มีธุระอะไร น่าจะย้ายของกัน พวกเราเลยมาช่วยนี่ไง”

ความหดหู่ใจของลู่ม่านก็ถึงสลายลงไปบ้าง “งั้นก็ไม่เกรงใจแล้วกัน เย็นนี้ไม่ต้องกลับแล้วนะ เดี๋ยวข้าทำอาหารอร่อยให้ทุกคนกิน”

“ดีเลย! ข้าอยากกินฝีมือเจ้าพอดี! วันนี้พวกเราทั้งครอบครัวห้าคน คงได้กินให้เจ้าจนแน่” เหยาซื่อพูดแล้วหัวเราะ

ลู่ม่านอดไม่ได้หัวเราะออกมา

เพิ่งพูดจบ เฉินเหมยเซียงก็มาด้วยเหมือนหัน ตอนนี้พอได้รู้จักกันแล้ว นางก็ไม่เขินอายเหมือนเมื่อก่อนอีก เข้ามาก็พูดทันทีเลยว่า “ข้ามาช่วยพวกเจ้าขนของแล้ว”

ลู่ม่านอึ้ง ปกติบ้านของเฉินเหมยเซียงยุ่งที่สุดเลยนะ ทำงานมานานขนาดนี้ ยังไม่เคยเห็นนางทำงานล่วงเวลาเลย

“พวกเรามีแค่นี้ก็พอแล้วล่ะ ถ้าที่บ้านยุ่งอยู่ก็กลับบ้านเถอะนะ?” ลู่ม่านพูด

เฉินเหมยเซียงหน้าแดงก่ำ กว่าจะกล้าแสดงออกมาได้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ตอนนี้กลับเก็บตัวอีกแล้ว เหยาซื่อรีบเข้าไปโอบไหล่เฉินเหมยเซียงเอาไว้ “เสี่ยวม่านกลัวว่าเจ้าจะเหนื่อยเอาได้ แต่ในเมื่อมาแล้ว ก็มาทำงานด้วยกันเถอะ ข้าบอกไว้ก่อนนะ วันนี้มาทำช่วยเพื่อน ไม่จ่ายเงินค่าแรงนะ!!”

เฉินเหมยเซียงหน้าแดงแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่เอาเงินค่าแรงหรอก ข้าแค่มีเวลาว่างมาช่วยเฉยๆ”

ว่าแล้ว ก็ยกไหออกไปทันที

เห็นนางเดินไปไกลแล้ว เหยาซื่อก็พูดขึ้นว่า “ช่างอาภัพจริงๆ!”

คำพูดนี้ทำเอาลู่ม่านสงสัยขึ้นมา ก่อนหน้านี้นางก็สงสัยแล้วล่ะ คนในหมู่บ้าน หากรู้ว่าทำงานล่วงเวลาได้เงินเยอะขึ้น จะไม่ยอมทำได้ยังไง

และเฉินเหมยเซียงดูแล้วก็เหมือนคนที่ขี้เกียจอะไร กลับกัน นอกจากนางจะไม่ทำงานล่วงเวลาแล้ว เวลาทำงานอย่างอื่นก็ตั้งใจมากๆด้วย

“ทำไมเหรอ?”

“เห้อ!” เหยาซื่อถอนหายใจอีกครั้ง “เหมยเซียง เพิ่งแต่งงานได้ไม่นาน สามีของนางก็ออกไปเดินเรือแล้ว ใครจะรู้ว่าไปแล้วก็ไม่ได้กลับมาอีกเลย ทิ้งลูกชายคนเดียวไว้ให้เหมยเซียง พ่อแม่สามีก็ตกใจจนป่วย ตอนนี้พ่อสามีก็นอนพิการอยู่บนเตียง ส่วนแม่สามีก็สามวันป่วย สองวันหายวนอยู่แบบนี้”

ลู่ม่านอ้าปากค้างอย่างตกตะลึง เป็นแบบนี้นี่เอง?

“แล้วที่บ้านนางไม่มีพี่น้องเลยเหรอ?” ลู่ม่านถาม ไม่งั้นจะเอาภาระทุกอย่างให้ผู้หญิงบอบบางคนนี้แบกไว้คนเดียวได้ยังไง?

“มีสิ!” เหยาซื่อพูด เบะปากอย่างไม่พอใจ “สามีของนางยังมีน้องชายคนหนึ่งชื่อเฉินเซิง อยู่ในหมู่บ้านเหมือนกัน แต่น้องสะใภ้ที่ร้ายกาจมาก เฉินเซิงไม่รู้ต้องทำยังไง จึงต้องฟังที่น้องสะใภ้พูดทุกอย่าง ไม่ว่ายังไงก็ไม่ยอมเลี้ยงคนแก่”

ถ้ามีพริกก็คงจะดี จะได้ทำของอร่อยหลายๆอย่างด้วย อาหารเสฉวนที่นางชอบกิน เกือบทุกเมนูต้องใช้พริกทั้งหมดเลย

ลู่ม่านกลืนน้ำลายเอือกๆ นางทำเมนูผัดผักกับตุ๋นเนื้อหมูเสร็จแล้วก็ถึงออกจากครัว

พวกเขาก็ขนของกันเสร็จแล้ว เห็นลู่ม่านออกมา เหยาซื่อก็รีบพุ่งเข้าไปหา “เป็นไงบ้าง? ข้าดูสิว่าวันนี้เจ้าจะทำอะไรให้พวกเรากินกัน?”

ลู่ม่านอมยิ้ม “รับรองเจ้าจะถูกใจ”

เฉินเหมยเซียงก็กลับมาพอดี ลู่ม่านทักทาย “เหมยเซียง มากินด้วยกันก่อนค่อยกลับสิ?”

เฉินเหมยเซียงส่ายหัว “ไม่ล่ะ ข้ากลับก่อนดีกว่า”

“มาเถอะน่า!” เหยาซื่อลากนางเข้ามา

ลู่ม่านก็พยักหน้าตาม ตอนนี้พระอาทิตย์ยังไม่ตกดิน นางเกรงว่าเฉินเหมยเซียงจะกลับบ้านไม่ทัน เลยตั้งใจทำอาหารเร็วๆ! เฉินเหมยเซียงลังเลสักพักก็ถึงเดินเข้ามา

ลู่ม่านพาเด็กๆสามคนของบ้านเหยาซื่อมานานแล้ว ตอนนี้กำลังนั่งอยู่ตรงนั้นอย่างเรียบร้อย รอพวกผู้ใหญ่มากินข้าว

ทุกคนแบ่งนั่งตามลำดับ เหยาซื่อคีบเต้าหู้ยัดหมูให้เด็กๆสามคน แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เสี่ยวม่านมีความคิดใหม่ๆตลอด เต้าหู้ที่เรากินกันตามปกติ นางก็ทำออกมาเป็นจานเด็ดแบบนี้ได้”

ลู่ม่านแกล้งถามว่า “ไม่อร่อยเหรอ?”

“อร่อยสิ!” เหยาซื่อพูดต่อ “เจ้าดูเจ้าลิงสามตัวของข้าสิ กินกันใหญ่เลย”

ถึงแม้เด็กสามคนนี้จะพยายามควบคุมมากแค่ไหน แต่ก็ยังกินจนคราบน้ำมันเปื้อนเต็มปาก ลู่ม่านก็คีบให้พวกเขาอีก “กินเยอะๆนะ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน