ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 92

สรุปบท บทที่92 ปริศนาโคมไฟ: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน

สรุปตอน บทที่92 ปริศนาโคมไฟ – จากเรื่อง ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน โดย ฝูเชิง

ตอน บทที่92 ปริศนาโคมไฟ ของนิยายประวัติศาสตร์เรื่องดัง ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน โดยนักเขียน ฝูเชิง เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

เฉินเหมยเซียงที่เห็นแล้วก็มองดูเด็กๆทั้งสามคนอย่างอิจฉา ลู่ม่านเห็นสายตาของนาง ทันใดนั้นก็นึกถึงสิ่งที่เหยาซื่อพูดเมื่อตอนบ่าย เฉินเหมยเซียงก็มีลูกเหมือนกัน

“เหมยเซียง เจ้าไปพาลูกมากินด้วยกันสิ?”

เฉินเหมยเซียงรีบส่ายหัว “ไม่ล่ะ ลูกคอยดูแลปู่อยู่ที่บ้าน ข้าก็ต้องกลับไปแล้วล่ะ!” ว่าแล้ว นางก็ลุกขึ้นจะเดินออกไปทันที

ลู่ม่านคิดแล้ว ก็เรียกนางเอาไว้ ในครัวยังมีอาหารที่ใส่ในจานไม่พอเหลืออยู่ นางจึงตักใส่ถ้วยยื่นให้นาง “เอากลับไปให้เด็กกินเถอะ”

“นี่……” เฉินเหมยเซียงอยากปฏิเสธ แต่พอนึกถึงลูกตัวเอง นางก็ยื่นมือรับไว้ “ขอบใจเจ้ามากนะ เสี่ยวม่าน”

“ไม่เป็นไร!” ลู่ม่านยิ้มแล้วพูดว่า “เจ้ามาช่วยข้าขนของ ข้าต้องขอบใจเจ้าสิถึงจะถูก!”

เฉินเหมยเซียงดูท่าทางเชื่องช้านิดหน่อย ไม่รู้ว่าจะตอบยังไง

นานมากถึงตอบว่า “เดี๋ยวข้าค่อยมาคืนถ้วยให้เจ้านะ”

“ไม่ต้องรีบหรอก พรุ่งนี้ตอนทำงานค่อยมาคืนก็ได้”

เฉินเหมยเซียงไม่พูดอะไรอีก รีบเดินกลับไปทันที

ถึงจะพูดแบบนี้ แต่ตอนฟ้าใกล้มืด นางก็ยังส่งถ้วยกลับมาอยู่ดี ไม่เพียงแต่ล้างสะอาดแล้ว นางยังถือผักกาดขาวมาหนึ่งตะกร้าอีก

“ข้าปลูกเองที่บ้าน ข้าเห็นว่าปีนี้พวกเจ้าไม่ได้ปลูกผัก ไม่มีราคาอะไรหรอก……”

“ใครว่าไม่มีราคาล่ะ?” ลู่ม่านพูด “ข้าชอบกินผักกาดขาวอยู่แล้ว!”

เฉินเหมยเซียงก็ถึงยิ้มออกมา จับมือเด็กโค้งคำนับให้นาง “ชิงซาน ขอบคุณน้าสิลูก”

ลู่ม่านก็ถึงเห็นเด็กชายที่ผอมแห้งด้านหลังของนาง ดูท่าเหมือนอายุสี่ห้าขวบแล้ว บนตัวสวมชุดผ้าฝ้ายที่มีรอยเย็บ แต่กลับล้างจนสะอาดสะอ้าน

ตอนนี้เขาเงยหน้ามองลู่ม่าน นัยน์ตาดำคู่นั้น บริสุทธิ์และไร้เดียงสาเหมือนเด็กน้อย

“ขอบคุณขอรับท่านน้า”

ลู่ม่านยื่นมือไปลูบหัวของเขา “ไม่ต้องเกรงใจจ้ะ ถ้าชอบครั้งหน้าก็มาที่บ้านน้าบ่อยๆนะ”

“ไม่ดีหรอก” เฉินเหมยเซียงส่ายหัวอย่างเด็ดเดี่ยว แล้ววางผักกาดขาวลง “ฟ้ามืดแล้ว พวกเรากลับก่อนนะ”

ลู่ม่านพยักหน้า มองดูพวกนางเดินจากไป

พอผ่านเรื่องนี้ไป ความรู้สึกที่ลู่ม่านมีต่อเฉินเหมยเซียงก็เปลี่ยนไปไม่น้อย เฉินเหมยเซียงดูไม่ชอบพูดไม่ชอบจา แต่กลับรักในศักดิ์ศรีมาก สอนลูกออกมาได้ดีด้วย น่านับถือจริงๆ

อนาคตเฉินเหมยเซียงอาจจะช่วยนางได้เยอะเลย นางชอบผู้หญิงที่เข้มแข็งแบบนี้

พริบตาเดียวก็มาถึงเทศกาลโคมไฟแล้ว เทศกาลโคมไฟสำคัญมากสำหรับคนโบราณ ถือว่าเป็นจุดสิ้นสุดของวันตรุษจีน พอผ่านวันนี้ไป ถือว่าได้เริ่มต้นปีใหม่อย่างจริงจัง

ในตำบลมีงานโคมไฟ เหยาซื่อเชิญพวกลู่ม่านไปด้วย

ลู่ม่านยังไม่เคยไปงานโคมไฟเลย ในยุคปัจจุบันไม่มีใครให้ความสนใจกับเทศกาลโคมไฟเท่าไหร่ ไม่ว่าจะเทศกาลไหน สิ่งที่อยู่ข้างกายกันและกันก็มีแค่โทรศัพท์

ความสนุกสนานแบบโบราณน้อยลงทุกวัน

“ไปสิ!” ลู่ม่านพยักหน้า

“งั้นดีเลย เดี๋ยวเย็นๆข้ามาเรียกเจ้านะ!” เหยาซื่อพูด

เหยาซื่อไปแล้ว ลู่ม่านก็ไปค้นหาเสื้อผ้าในตู้ เอาเสื้อก่อนหน้านั้นที่เฉินจื่ออานทำให้นางมาใส่ ด้านในก็ใส่ชุดผ้าฝ้ายบางๆ ถือว่าใช้ได้เหมือนกัน

เฉินจื่ออานก็เปลี่ยนเสื้อที่นางซื่อให้เขา ไม่เหมือนกับผู้ชายชาวนาทั่วไป เป็นชุดที่มีความเป็นคุณชายที่เคยเห็นในโทรทัศน์เมื่อก่อน

เฉินจื่ออานตอนแรกยังไม่ยอมใส่ ภายใต้การบังคับของลู่ม่าน เขาถึงยอมใส่

ชุดคลุมสีดำเหมาะกับผิวสีแทนที่มีสุขภาพดีของเฉินจื่ออานมาก ทำให้โครงหน้าที่หล่อเหลาของเขาโดดเด่นมากขึ้น ลู่ม่านตาเป็นประกาย “จื่ออาน เจ้าหล่อขนาดนี้เชียวเหรอ!”

ลู่ม่านยื่นมือไปจะหยิบ เจ้าของร้านนั้นก็พูดว่า “แม่นาง ข้อนี้เป็นปริศนาที่ยากที่สุดในร้านเรา หากแม่นางเดาถูก จะได้เงินรางวัลหนึ่งร้อยเหวิน หากเดาผิด งั้นแม่นางก็ต้องซื้อโคมไฟของข้าไป โคมละสิบเหวิน”

โคมไฟสิบเหวิน ถือว่าแพงพอสมควรเลยนะ

แต่วิธีการค้าขายนี้ก็ถือว่าไม่เลวเลย ใครว่าคนโบราณโง่กัน? หากคนโบราณโง่ล่ะก็ ยังจะมีการพัฒนาในอนาคตเหรอ?

จ่ายเงินเล่นเกม ลู่ม่านรู้สึกคุ้มดี

“ได้!” ลู่ม่านว่าแล้วก็เอาปริศนาลงมาทันที ยื่นให้เฉินจื่ออานที่อยู่ข้างๆ

การกระทำของทั้งสองดึงดูดสายตาของผู้คนรอบข้าง ปริศนาข้อนี้กลายเป็นประเด็นร้อนในคืนนี้ มีนักเรียนและแขกมากมายมา ก็ยังเดาไม่ถูกเลย

ลู่ม่านเปิดปริศนาออก แล้วยื่นให้เฉินจื่ออาน

เฉินจื่ออานดูตัวหนังสือ แล้วอ่านออกมาเสียงเบา

——ม่านสีเขียว ค้างสีเขียว ลูกปัดห้อยเป็นพวงๆ

ปริศนานี้……ในที่สุดลู่ม่านก็รู้แล้วว่าทำไมถึงไม่มีใครเดาถูกเลย ถึงแม้จะง่าย แต่คนส่วนมากยังไม่เคยเห็นมัน จะทายถูกได้ยังไงกัน?

เฉินจื่ออานอ่านจบแล้ว ไม่เพียงแค่เขา คนที่อยู่ข้างๆก็เริ่มคิดกันขึ้นมา

ลู่ม่านมองเฉินจื่ออาน “ทำไมเหรอ?”

เฉินจื่ออานมองดลู่ม่านอย่างลำบากใจ “ข้านึกออกอันหนึ่ง แต่ไม่แน่ใจว่าใช่หรือเปล่า”

ลู่ม่านยิ้มให้เขาแล้วพูดว่า “ไม่เป็นไร ถือไม่ถูกก็ไม่เป็นไร ข้าว่าโคมไฟนั่นก็สวยดีออก อันละสิบเหวิน คิดเสียว่ามอบเป็นของขวัญเทศกาลโคมไฟให้ข้าก็ได้”

เฉินจื่ออานก็ถึงโล่งอก แล้วพูดว่า “ข้าเดาว่าเป็น……องุ่น!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน