ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 93

สรุปบท บทที่93 จำคนผิด: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน

อ่านสรุป บทที่93 จำคนผิด จาก ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน โดย ฝูเชิง

บทที่ บทที่93 จำคนผิด คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายประวัติศาสตร์ ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ฝูเชิง อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

เจ้าของร้านได้ยินแล้วก็เบิกตาโพลงโต คนรอบข้างต่างก็มองกันอย่างเลิกลั่ก “องุ่นคือสิ่งใดกัน?”

“นั่นสิ!” เจ้าของร้านก็พูดตาม “เจ้าคงไม่ได้สุ่มเอาเองหรอกนะ อย่าคิดหลอกข้าเชียว”

ดูแล้วเจ้าของร้านคงอยากขี้โกง!

ลู่ม่านแสยะยิ้ม “เถ้าแก่ เป็นคนต้องรักษาคำพูดนะ ทำธุรกิจก็เช่นกัน เจ้าพูดมาว่าถูกหรือไม่ถูกดีกว่า!”

“นี่……” เจ้าของร้านลังเล สุดท้ายก็พยักหน้าพูดว่า “ถูกแล้ว!”

เฉินจื่ออานยิ้มออกมาทันที ที่จริงเขาก็ไม่เคยเห็นลูกองุ่นกับเสาค้างหรอก แต่เห็นคำสุดท้าย เขาก็นึกถึงองุ่นที่ใช้ทำผลไม้กวนที่บ้านขึ้นมา

บวกกับที่ลู่ม่านให้กำลังใจเขา เขาก็ถึงเดาออกไปอย่างสบายใจ

นึกไม่ถึงว่าจะถูกจริงๆด้วย

“แต่ว่า……” สุดท้ายเจ้าของร้านก็ยังไม่พอใจอยู่ดี “ข้ายังไม่เคยเห็นองุ่นเลย หากท่านทั้งสองให้ข้าได้ชิมรสชาติขององุ่น ข้าจะเพิ่มเงินรางวัลให้อีกห้าสิบเหวินเลย”

ผู้คนโห่ร้องกันขึ้นมา ทำให้บรรยากาศของหน้าร้านคึกคักขึ้นมาก

หนึ่งร้อยห้าสิบเหวิน สำหรับลู่ม่านแล้ว ไม่ใช่เงินก้อนใหญ่อะไร แต่ถ้าหากใช้โอกาสนี้เผยแพร่ให้ผลไม้กวนโด่งดังมากขึ้นได้ล่ะ?

คิดได้เช่นนี้แล้ว นางก็ยิ้มแล้วพูดว่า “ได้สิ!”

ว่าแล้ว นางก็กระซิบพูดกับเฉินจื่ออานว่า “จื่ออาน เจ้ารอข้าก่อนนะ เดี๋ยวข้ากลับมา”

ตอนที่นางมา นางเห็นร้านขายของชำบ้านจางอยู่ไม่ไกลจากตรงนี้

เมื่อวาน ตอนที่เถ้าแก่จางส่งของขวัญมาก นางก็ให้ผลไม้กวนห้ารสกับทุกคนกลับไป เถ้าแก่จางอยู่บ้านคนเดียว ผลไม้กวนนั่นเขาคงจะยังกินไม่หมดแน่

ขอแค่ไปเอามาตอนนี้……

ลู่ม่านเดินเร็วมากขึ้น วิ่งไปทางนั้นอย่างรวดเร็ว

ความจริงเหมือนอย่างที่นางคิดไว้เลย เถ้าแก่จางยังไม่ได้แตะของขวัญที่นางให้เลย ได้ยินลู่ม่านพูดอธิบายเรื่องราวทั้งหมดแล้ว เขาก็รีบเอาของให้ลู่ม่าน

“วิธีนี้ของแม่นางดีจริงๆ ถือว่าสร้างความประทับใจแรกให้กับผลไม้กวนที่กำลังจะเปิดตัวของเรา”

ลู่ม่านยิ้มอ่อนๆ “ข้าก็เพิ่งคิดได้เหมือนกัน”

พอเอาผลไม้กวนไปแล้ว ลู่ม่านก็รีบเดินกลับไป ตอนนี้ ถึงจุดสูงสุดของงานโคมไฟแล้ว

คนมากมายที่มาจากชนบท ตอนนี้ต่างก็มารวมตัวกันที่นี่ บนถนนเต็มไปด้วยผู้คนที่เบียดกันไปหมด

ลู่ม่านเบียดเข้าไปแล้วก็ยากที่จะออกมาได้

ถึงแม้นางจะเคยเรียนเทควันโดมา แต่จะทำร้ายคนโดยไม่มีสาเหตุก็คงจะไม่ได้ จึงต้องขยับไปช้าๆ แล้วขอทางคนข้างหน้าเรื่อยๆ

ทันใดนั้น ในหมู่คนก็มีคนตะโกนขึ้นมาว่า “จับขโมย”

ต่อมา วงผู้คนที่เบียดกันก็แตกออกกระจายกันไปทั่วสารทิศ

เงยหน้าขึ้นดู ก็เห็นขโมยคนหนึ่งกำลังวิ่งมาทางนี้ คนมากมายกลับไม่กล้าเข้าไปห้าม

ลู่ม่านขมวดคิ้ว เดินเข้าไปอยากจะห้ามเขาเอาไว้ ไม่รู้ว่าใครผลักลู่ม่านจากด้านหลัง ลู่ม่านชนเข้ากับเสาข้างๆอย่างจัง

ระหว่างแสงไฟที่วิบวับ ทันใดนั้นลู่ม่านก็นึกถึงละครในโทรทัศน์ ละครโบราณที่ตัวเอกจะบินอยู่บนหลังคาแล้วใช้วิชาตัวเบา

อย่างน้อย หลังจากที่นางมาถึงก่อนราชวงศ์ถัง ก็ไม่เคยเห็นใครมีวิชาตัวเบาเลย

นางคิดได้เลยว่า ท่าทางที่นางล้มลงไปต้องขี้เหร่มากแน่ๆ

แน่นอนว่าในละครเป็นเรื่องโกหก หากตอนนี้นางมีวิชาตัวเบา ก็คงดีน่ะสิ น่าเศร้าใจยิ่งนัก ฮื่อๆ!

ลู่ม่านหลับตาลงอย่างรู้ชะตากรรม ในใจก็คิดว่า ไม่เห็นยังจะดีเสียกว่า

พอเปิดฝาออก กลิ่นหอมหวานเฉพาะขององุ่นก็โชยออกมา ทำเอาเจ้าของร้านอดไม่ได้กลืนน้ำลายเอือกๆ

“แม่นางท่านนี้ นี่ไม่ใช่องุ่นนี่”

“นี่เป็นผลไม้กวนที่ทำจากองุ่นสดๆ เก็บความหอมหวานขององุ่นเอาไว้ และรสชาติยังอร่อยเป็นพิเศษด้วย” ว่าแล้ว นางก็ยื่นให้เจ้าของร้านที่บอกว่าไม่กิน แต่ตัวกลับขยับเข้ามาใกล้แล้ว

พอขวดขยับเข้าไปใกล้ กลิ่นหอมหวานก็เข้าไปใกล้เรื่อยๆ ในที่สุดเขาก็อดไม่ได้รับช้อนที่ลู่ม่านยื่นมาแล้วตักชิมหนึ่งคำ

รสชาติหวานแต่ไม่เลี่ยน ที่สำคัญคือรสชาตินี้ เป็นรสชาติหอมหวานที่ไม่เคยลิ้มลองมาก่อนเลย

“อร่อย!” ในที่สุดเขาก็พูดความจริงออกมา

ผู้คนรอบข้างรีบพูดขึ้นว่า “เถ้าแก่ ให้พวกเราชิมบ้างสิ”

“ไม่ให้!” เจ้าของร้านพูดอย่าง ‘ขี้เหนียว’ “ข้าจะเอากลับไปให้ลูกชายข้ากินด้วย”

เห็นว่าผู้คนรอบข้างอยากกินจนน้ำลายสอ ลู่ม่านก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “นี่เป็นผลไม้กวน จะวางขายในร้านขายของชำบ้านจางสิบวันหลังจากนี้ ถึงเวลาทุกคนสามารถไปซื้อชิมกันได้!”

“ดีเลย!” ทุกคนโห่ร้องเสียงดัง แล้วก็เริ่มมีเสียงขอเงินหนึ่งร้อยห้าสิบเหวินให้กับลู่ม่าน เจ้าของร้านเห็นดังนี้ก็แอบปาดเหงื่อ แล้วยื่นเงินให้กับลู่ม่านไปแต่ด้วยดี

เขาพึมพำเสียงเบาว่า “แม่นาง ข้าคิดว่าข้าฉลาดแล้ว นึกไม่ถึงว่าเจ้าจะฉลาดกว่า……”

หลอกใช้คนอื่นในการโฆษณาสินค้าให้ตัวเอง!

ลู่ม่านพูดด้วยรอยยิ้ม “เถ้าแก่ไม่ต้องรีบร้อนไป เจ้าก็หาเงินได้ไม่น้อยหรอก การทำธุรกิจต้องมีสัจจะ เจ้าดูเองสิ ตอนนี้ร้านของเจ้าคึกคักที่สุดใช่ไหม? เจ้าแค่ต้องเอาปริศนาออกมาอีกนิด เดี๋ยวก็มีคนมาเอง”

เจ้าของร้านเห็นแล้วก็มองลู่ม่านแล้วพูดว่า “งั้นเจ้ายังจะเดาอีกไหม?”

ลู่ม่านหัวเราะเสียงดัง “ไม่เดาแล้ว!”

ยังดีหน่อย เจ้าของร้านกลับไปแขวนปริศนาใหม่อย่างดีใจ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน