องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 1010

เมื่อจักรพรรดินีได้ยินดังนั้น นัยน์ตาก็พลันหดตัวลงในทันใด!

รีบเรียกให้หลี่จุ่นและเฟิงอู่หังมาหาในคืนนั้นเลย

ทั้งสองคนมาถึงยังกระโจม ครั้นได้ยินคำพูดของจักรพรรดินี หลี่จุ่นก็พลันหัวเราะแล้วเอ่ยขึ้นว่า

“เยี่ยมเลย ฝ่าบาท ท่านอาวุโส ถึงเวลาที่พวกเราจะต้องไปบุกยึดศัตรูแล้ว ฝ่าบาท รีบสั่งให้เคลื่อนทัพเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”

เฟิงอู่หังเองก็เอ่ยเรียกเสียงดังด้วยความตื่นเต้น ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า

“เยี่ยมเลย! ไปฆ่าแม่มันเถอะ!”

จักรพรริดนีเองก็สัมผัสได้ว่าโอกาสมาถึงแล้ว จึงรีบให้เคาะระฆังเรียกแม่ทัพใหญ่แต่ละนายในทัพมา

เริ่มจัดแจงก่อนทำศึก โยกย้ายและจัดแจงกองกำลัง!

กลางดึก ทัพใหญ่สองแสนนายออกเดินทางด้วยความรวดเร็ว มีเฟิงอู่หังเป็นผู้นำทัพไปด้วยตนเอง พาทัพขึ้นไปบนเขา!

หลี่จุ่นเองก็ถอนหายใจเฮือกหนึ่ง

เขานั่งรอรายงานการทำศึกอยู่กับจักรพรรดินีในกระโจมกลางกองทัพ

การก่อกบฏในฐานที่มั่นบนภูเขาฉากนี้ ก็คือแผนของโจวชิงและสมาคมเทียนตี้

ก่อนหน้านี้ สมาคมเทียนตี้ภายใต้การบัญชาการของโจวชิง พยายามคิดหาวิธียัดคนเข้าไปที่ฐานที่มั่นบนภูเขาเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง สุดท้ายก็ส่งสายลับเข้าไปจำนวนหนึ่ง

เพื่อจะได้หาโอกาสก่อจลาจลภายในในภายหลัง

ครานี้เมื่อสมาคมเทียนตี้ได้รับคำสั่งของหลี่จุ่น ก็เริ่มจัดแจงในทันใด จากนั้นก็ให้กองกำลังที่เข้าไปแฝงตัวอยู่ก่อนหน้านี้ปฏิบัติการ ก่อจลาจลขึ้นมาเลย

ด้วยวิธีการของสมาคมเทียนตี้ จลาจลภายในที่สร้างขึ้นคงไม่น้อยอย่างแน่นอน!

ส่วนทางทัพแคว้นหนานเองก็คอยสังเกตการณ์ฐานที่มั่นบนภูเขาเหล่านี้อยู่ทั้งวันทั้งคืนอยู่แล้ว ในตอนนี้เมื่อเกิดจลาจลขึ้นมา ก็รีบคว้าโอกาสเอาไว้ทันที!

ให้ทัพใหญ่เคลื่อนพลไปเลย ฉวยโอกาสยึดมาตอนที่เกิดจลาจล!

“ยัดคนเข้าไปที่ฐานที่มั่นบนภูเขาเหล่านี้ไม่ง่ายเลย คุณงามความดีของอวี้เซียงกับโจวชิงไม่น้อยเลยทีเดียว ต้องจำเอาไว้ให้แม่น”

หลี่จุ่นลอบหัวเราะ เขาพอใจเป็นอย่างมาก

อืม!

จริงสิ จะให้เหล่าคนที่อยู่บนเขาเฟิงโหยวและสมาคมเทียนตี้ทำศึกกันตามลำพังอาจจะไม่ไหวอยู่เล็กน้อย ควรคิดหาวิธีให้พวกเขากลับมาอยู่ข้างตนหรือไม่?

เช่นนี้ก็จะได้จัดการเรื่องต่าง ๆ ได้ง่ายเช่นกัน

“ไม่ถูกสิ ตอนนี้ยังเร็วเกินไป อย่างน้อยก็ให้พวกเขาทำปืนใหญ่ให้เสร็จก่อน” หลี่จุ่นผุดความคิดขึ้นมา แต่ท้ายที่สุดก็ต้องสลัดมันออกไป

ปืนใหญ่ถึงจะเป็นเรื่องสำคัญในเรื่องสำคัญ นี่นับเป็นไพ่ใบสุดท้ายแบไต๋ของตัวเขาเลยนะ!

จะประวิงเวลาตามอำเภอใจไม่ได้

“กุนซือ ศึกนี้ฝ่ายเรามีโอกาสชนะหรือไม่?”

จักรพรรดินีเอ่ยปาก มีความกังวลอยู่เล็กน้อย

หลี่จุ่นมั่นคงดุจไท่ซาน เขาหัวเราะพลางเอ่ยขึ้นชืด ๆ ว่า

“ฝ่าบาทไม่ต้องเป็นกังวลไป แม่ทัพผู้เฒ่านำทัพออกไปเอง ต้องได้ชัยชนะกลับมาง่าย ๆ อย่างแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้น ทัพของเราสองแสนนาย เกรงว่าอีกฝ่ายมีแค่หนึ่งแสนกว่า ๆ หรือน้อยกว่านั้น กองกำลังทหารของทัพเราเป็นสองเท่าของทัพศัตรู ตอนนี้ยังถูกทัพของเราแอบเข้าไปทั้งฉวยโอกาส ไม่มีทางล้มเหลวอยู่แล้ว!”

เมื่อได้ยินคำพูดที่เปี่ยมล้นไปด้วยความมั่นใจของหลี่จุ่นเช่นนี้แล้ว ในตอนนี้เองจักรพรรดินีถึงได้ถอนหายใจยาวเฮือกหนึ่ง ราวกับวางใจแล้ว

“กุนซือ หาดทัพของเราได้กองกำลังกองนี้มา ขั้นต่อไปก็คงบุกโจมตียึดเมืองหลินซุ่นมา หลังจากได้เมืองหลินซุ่นมาแล้ว ควรทำเช่นไรต่อไปหรือ?”

ชะล่าใจเกินไปแล้ว!

ผู้บัญชาการของทัพเหยียนโจวนี่คือผู้ใดกัน?

ไม่ใช่คนธรรมดา ๆ สินะ!

นึกไม่ถึงเลยว่าจะบุกยึดเมืองหลินซุ่นด้วย!

ทันใดนั้นนัยน์ตาของหลี่จุ่นก็หรี่ลง รู้สึกว่าน่าสนใจมากทีเดียว

จักรพรรดินีรีบตรวจดูแผนที่ ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า

“ห้าสิบลี้...เกรงว่าพรุ่งนี้เข้าก็คงเข้าบุกยึดเมืองหลินซุ่นได้แล้ว!”

หลี่จุ่นครุ่นคิดแล้วเอ่ยขึ้นว่า

“ฝ่าบาท มิต้องร้อนพระทัยไป”

อันที่จริงจะบุกยึดเมืองหลินซุ่นได้หรือไม่ หลี่จุ่นไม่ได้สนใจเท่าไรนัก

เนื่องจากที่เขาอยากจะบุกยึดเมืองหลินซุ่นนี้เดิมทีก็เพื่อมุ่งไปที่กองกำลังหนึ่งแสนนายนั่น ตอนนี้กองกำลังกองนี้ได้ตกมาอยู่ในมือของตัวเองแล้ว เมืองหลินซุ่นนั่นใครอยากได้ก็เอาไป

แต่ว่า!

แม้จะบุกยึดที่แห่งนี้ได้หรือไม่ได้ ทว่ามีคนคิดอยากจะแย่งอาหารไปจากปากเสือ นี่มันทำให้ไม่สบอารมณ์อยู่หน่อย ๆ

จักรพรรดินีรีบมองไปที่หลี่จุ่น

หลี่จุ่นค่อย ๆ ลุกขึ้นแล้วเอ่ยขึ้นว่า

“ข้ายอมนำกองกำลังหนึ่งหมื่นนายล่วงหน้าไปชิงเมืองนี้ก่อน แล้วค่อยมากวาดล้างและรอคอยศัตรู!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน