องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 1014

นี่มันอะไรกัน?!

มีการซุ่มโจมตีที่นี่!

เหล่าทหารของกองทัพเหยียนโจวต่างหน้าถอดสีในทันใด

“รีบถอย มีการซุ่มโจมตี!”

ผู้บัญชาการกองทัพเหยียนโจวที่อยู่บนหลังม้าผู้นั้นก็หน้าถอดสีเช่นกัน เขารีบสั่งให้ถอนกำลังทันทีโดยไม่รอช้า

รีบเคลื่อนทัพหลังให้ไปเป็นทัพหน้า และหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

เพิ่งเสียขวัญมาหมาดๆ บาดเจ็บและตายไปไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ ตอนนี้ยังถูกซุ่มโจมตีอีก แล้วจะทำสงครามต่อไปได้อย่างไร

ขวัญกำลังใจหายหมด!

ทำได้แค่หนี

กองทัพเหยียนโจวรีบถอยหนีอย่างเร็วไว

ทว่า กลุ่มทหารม้าที่ออกมาจากด้านข้างเพื่อลอบฆ่ากลับองอาจ แม้จะมีกำลังพลเพียงสองพันนายเท่านั้น

พวกเขาเพียงมาตะโกนโห่ร้องให้เกิดความหวาดกลัวเท่านั้น ยิ่งร้องดุเดือดเท่าไหร่ยิ่งดี

ก่อนหน้านี้หลี่จุ่นสั่งให้พวกเขาซ่อนตัวอยู่ข้างทาง เพื่อรอจังหวะสำคัญขู่ขวัญกองทัพศัตรู ดูเหมือนว่าตอนนี้แผนนี้จะสำเร็จแล้ว

ทำให้กองทัพศัตรูกลัวจนหางจุกตูดไปแล้ว

เมื่อหลี่จุ่นที่อยู่บนหอสังเกตการณ์เห็นดังนั้นจึงสั่งให้คนตีระฆังเพื่อส่งสัญญาณให้ทหารกลับค่าย จากนั้นกลุ่มทหารม้าที่อยู่นอกเมืองก็รีบกลับเข้าเมืองทันที

หลี่จุ่นคิดว่ากองทัพเหยียนโจวจะส่งคนเก่งมีฝีมือมายึดเมือง แต่กลับกลายเป็นไอ้น่าโง่คนหนึ่ง

พอมาถึงก็บุ่มบ่ามบุกโจมตีเมือง

ดูเหมือนไม่เคยโจมตีเมืองมาก่อน ไม่รู้จักแม้แต่คิดหาวิธีทำให้ลูกศรของกองทัพศัตรูหมด

นี่หลี่เจิ้งแอบซ่องสุ่มพวกหัวขี้เรื่อยอะไรไว้?

ไร้ประโยชน์มาก!

แต่ก็อาจเป็นไปได้ว่ากองทัพศัตรูคิดว่าเมืองหลินซุ่นนี้ยึดครองได้ง่ายจึงสุ่มส่งคนมาเพื่อยึดครอง

“ถ่ายทอดคำสั่งออกไป อย่าประมาทโดยเด็ดขาด กองทัพศัตรูอาจกลับมาโจมตีได้ทุกเมื่อ”

ถึงแม้หลี่จุ่นจะดูถูกอีกฝ่าย แต่ก็ประมาทไม่ได้

หากอีกฝ่ายยกทัพกลับมาโจมตีอีก ด้วยกองกำลังที่มากมายขนาดนั้น ถึงแม้ผู้บัญชาการกองทัพจะโง่เขลา แต่พวกเขาก็สามารถเอาชนะได้ในชั่วข้ามคืน

เขาต้องเฝ้าอยู่จนฟ้าสาง

เฝ้าจนกว่ากองทัพใหญ่ของเฟิงอู่หังจะมาถึง

เมื่อฟ้าสว่าง การสู้รบบนภูเขาก็น่าจะสิ้นสุดลงแล้ว

หลังจากนั้น

หลี่จุ่นได้ส่งหน่วยสอดแนมออกไปอีกครั้งเพื่อสอดแนมดูว่ากองทัพศัตรูถอยทัพกลับไปจริงหรือไม่ และคอยจับตาดูกองทัพศัตรูทุกฝีก้าว

เป็นดังคาด!

เป็นดังที่หลี่จุ่นคาดการณ์ไว้จริงๆ หลังจากที่กองทัพศัตรูถอยร่นไปไกลหลายลี้ จู่ๆ พวกเขาก็หยุดอย่างกะทันหัน

ผู้บัญชาการที่ถือง้าวผู้นั้นโกรธแค้นอย่างมาก เขาสั่งให้ตั้งค่ายตรงนั้นเลย

จากนั้นให้คนรีบนำสาส์นไปส่งที่เหยียนโจวทันที

เมืองหลินซุ่นถูกกองทัพศัตรูยึดครองแล้ว เขานำทัพได้อย่างไม่ราบรื่น

องค์ชายสี่ครุ่นคิดก่อนจะพูดว่า

“มีเหล่าท่านแม่ทัพและท่านกุนซืออยู่คงไม่ขาดตกบกพร่องอันใด อย่างที่ท่านกุนซือกล่าว เพียงแค่กองทัพของเรายึดครองเมืองหลินซุ่นได้ก็เท่ากับตัดทางสำคัญของแคว้นหนาน แต่หากเขายึดเมืองอวี๋เจียง กองทัพของเราก็ฉวยโอกาสนี้ตัดทางหนีที่ไล่ของพวกเขา แผนการนี้ยอดเยี่ยมมาก”

เมื่อสิ้นเสียงนั้น เหล่าแม่ทัพก็ลอบพยักหน้าในทันที

เห็นทีองค์ชายที่ฝ่าบาททรงส่งมาผู้นี้ก็ไม่ได้ไร้ความสามารถ แถมยังพอมีความคิดความอ่านอยู่บ้าง

“อนุญาตขอรับ”

ในขณะนั้นเอง

ก็มีเสียงรายงานดังขึ้นนอกกระโจม

“เข้ามา”

ชายวัยกลางคนที่ถือพัดขนห่านรีบให้คนๆ นั้นเข้ามา

จากนั้นทหารสอดแนมก็เข้ามาอย่างเร็วไวพร้อมทำความเคารพและรายงานว่า

“เรียนท่านจอมทัพ ท่านกุนซือ กองทัพศัตรูจากจวนชายแดนตะวันตกยกทัพใหญ่ในยามค่ำคืนเข้าโจมตีค่ายเจ็ดสิบสองขอรับ”

ในกระโจมเงียบสนิททันทีที่สิ้นเสียงนี้

จากนั้นก็มีเสียงดังเอะอะตามมา

องค์ชายสี่ก็ตกตะลึง

เกิดอะไรขึ้น

เหตุใดกองทัพศัตรูจึงยกทัพปราบโจรอย่างกะทันหัน

นี่มันกลยุทธ์อะไรกัน?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน