นี่มันอะไรกัน?!
มีการซุ่มโจมตีที่นี่!
เหล่าทหารของกองทัพเหยียนโจวต่างหน้าถอดสีในทันใด
“รีบถอย มีการซุ่มโจมตี!”
ผู้บัญชาการกองทัพเหยียนโจวที่อยู่บนหลังม้าผู้นั้นก็หน้าถอดสีเช่นกัน เขารีบสั่งให้ถอนกำลังทันทีโดยไม่รอช้า
รีบเคลื่อนทัพหลังให้ไปเป็นทัพหน้า และหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
เพิ่งเสียขวัญมาหมาดๆ บาดเจ็บและตายไปไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ ตอนนี้ยังถูกซุ่มโจมตีอีก แล้วจะทำสงครามต่อไปได้อย่างไร
ขวัญกำลังใจหายหมด!
ทำได้แค่หนี
กองทัพเหยียนโจวรีบถอยหนีอย่างเร็วไว
ทว่า กลุ่มทหารม้าที่ออกมาจากด้านข้างเพื่อลอบฆ่ากลับองอาจ แม้จะมีกำลังพลเพียงสองพันนายเท่านั้น
พวกเขาเพียงมาตะโกนโห่ร้องให้เกิดความหวาดกลัวเท่านั้น ยิ่งร้องดุเดือดเท่าไหร่ยิ่งดี
ก่อนหน้านี้หลี่จุ่นสั่งให้พวกเขาซ่อนตัวอยู่ข้างทาง เพื่อรอจังหวะสำคัญขู่ขวัญกองทัพศัตรู ดูเหมือนว่าตอนนี้แผนนี้จะสำเร็จแล้ว
ทำให้กองทัพศัตรูกลัวจนหางจุกตูดไปแล้ว
เมื่อหลี่จุ่นที่อยู่บนหอสังเกตการณ์เห็นดังนั้นจึงสั่งให้คนตีระฆังเพื่อส่งสัญญาณให้ทหารกลับค่าย จากนั้นกลุ่มทหารม้าที่อยู่นอกเมืองก็รีบกลับเข้าเมืองทันที
หลี่จุ่นคิดว่ากองทัพเหยียนโจวจะส่งคนเก่งมีฝีมือมายึดเมือง แต่กลับกลายเป็นไอ้น่าโง่คนหนึ่ง
พอมาถึงก็บุ่มบ่ามบุกโจมตีเมือง
ดูเหมือนไม่เคยโจมตีเมืองมาก่อน ไม่รู้จักแม้แต่คิดหาวิธีทำให้ลูกศรของกองทัพศัตรูหมด
นี่หลี่เจิ้งแอบซ่องสุ่มพวกหัวขี้เรื่อยอะไรไว้?
ไร้ประโยชน์มาก!
แต่ก็อาจเป็นไปได้ว่ากองทัพศัตรูคิดว่าเมืองหลินซุ่นนี้ยึดครองได้ง่ายจึงสุ่มส่งคนมาเพื่อยึดครอง
“ถ่ายทอดคำสั่งออกไป อย่าประมาทโดยเด็ดขาด กองทัพศัตรูอาจกลับมาโจมตีได้ทุกเมื่อ”
ถึงแม้หลี่จุ่นจะดูถูกอีกฝ่าย แต่ก็ประมาทไม่ได้
หากอีกฝ่ายยกทัพกลับมาโจมตีอีก ด้วยกองกำลังที่มากมายขนาดนั้น ถึงแม้ผู้บัญชาการกองทัพจะโง่เขลา แต่พวกเขาก็สามารถเอาชนะได้ในชั่วข้ามคืน
เขาต้องเฝ้าอยู่จนฟ้าสาง
เฝ้าจนกว่ากองทัพใหญ่ของเฟิงอู่หังจะมาถึง
เมื่อฟ้าสว่าง การสู้รบบนภูเขาก็น่าจะสิ้นสุดลงแล้ว
หลังจากนั้น
หลี่จุ่นได้ส่งหน่วยสอดแนมออกไปอีกครั้งเพื่อสอดแนมดูว่ากองทัพศัตรูถอยทัพกลับไปจริงหรือไม่ และคอยจับตาดูกองทัพศัตรูทุกฝีก้าว
เป็นดังคาด!
เป็นดังที่หลี่จุ่นคาดการณ์ไว้จริงๆ หลังจากที่กองทัพศัตรูถอยร่นไปไกลหลายลี้ จู่ๆ พวกเขาก็หยุดอย่างกะทันหัน
ผู้บัญชาการที่ถือง้าวผู้นั้นโกรธแค้นอย่างมาก เขาสั่งให้ตั้งค่ายตรงนั้นเลย
จากนั้นให้คนรีบนำสาส์นไปส่งที่เหยียนโจวทันที
เมืองหลินซุ่นถูกกองทัพศัตรูยึดครองแล้ว เขานำทัพได้อย่างไม่ราบรื่น
องค์ชายสี่ครุ่นคิดก่อนจะพูดว่า
“มีเหล่าท่านแม่ทัพและท่านกุนซืออยู่คงไม่ขาดตกบกพร่องอันใด อย่างที่ท่านกุนซือกล่าว เพียงแค่กองทัพของเรายึดครองเมืองหลินซุ่นได้ก็เท่ากับตัดทางสำคัญของแคว้นหนาน แต่หากเขายึดเมืองอวี๋เจียง กองทัพของเราก็ฉวยโอกาสนี้ตัดทางหนีที่ไล่ของพวกเขา แผนการนี้ยอดเยี่ยมมาก”
เมื่อสิ้นเสียงนั้น เหล่าแม่ทัพก็ลอบพยักหน้าในทันที
เห็นทีองค์ชายที่ฝ่าบาททรงส่งมาผู้นี้ก็ไม่ได้ไร้ความสามารถ แถมยังพอมีความคิดความอ่านอยู่บ้าง
“อนุญาตขอรับ”
ในขณะนั้นเอง
ก็มีเสียงรายงานดังขึ้นนอกกระโจม
“เข้ามา”
ชายวัยกลางคนที่ถือพัดขนห่านรีบให้คนๆ นั้นเข้ามา
จากนั้นทหารสอดแนมก็เข้ามาอย่างเร็วไวพร้อมทำความเคารพและรายงานว่า
“เรียนท่านจอมทัพ ท่านกุนซือ กองทัพศัตรูจากจวนชายแดนตะวันตกยกทัพใหญ่ในยามค่ำคืนเข้าโจมตีค่ายเจ็ดสิบสองขอรับ”
ในกระโจมเงียบสนิททันทีที่สิ้นเสียงนี้
จากนั้นก็มีเสียงดังเอะอะตามมา
องค์ชายสี่ก็ตกตะลึง
เกิดอะไรขึ้น
เหตุใดกองทัพศัตรูจึงยกทัพปราบโจรอย่างกะทันหัน
นี่มันกลยุทธ์อะไรกัน?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน
ปลดล็อคแล้วอ่านไม่ได้...
เนื้อเรื่องสนุกคับ...แต่ก็รำคาญพระเอกอยุู่พอสมควรเจ้าชู้เกินกินพื้นที่หักเหลี่ยมเฉือนคมเยอะไปหน่อยน่าจะเป็นทุกเรื่องมั้งที่ผู้ชายเดินเรื่อง...
เชี่ยไรเนี่ย เติมเงินแต่อ่านไม่ได้สักบท...
กดปลดล็อคไม่ได้เติมเงินแล้ว แย่มาก...
737 ปลดล็อกแล้วอ่านไม่ได้...
736 ผมปลดล็อคแล้ว อ่านไม่ได้...
เขียนต่อเถอะครับ รอนานแล้ว...
ตอน 706 มีหรือยัง...
อยากอ่านต่อครับ ผู้เขียนไม่สบายหรือเปล่าครับ...
ขอบคุณมากนะคะ ที่ให้อ่านฟรี สนุกมากค่ะ สั่งซื้อกางเกงใน GQ ไป 3 ตัวแล้วค่ะ สนับสนุนโฆษณา ที่ได้อ่านค่ะ...