สวีลี่แม่ทัพใหญ่แห่งกองทัพเหยียนโจวได้นำทหารสามหมื่นนายเปิดฉากโจมตีอีกครั้งก่อนฟ้าสาง
แต่น่าเสียดายมาก
เพราะเผชิญกับหลี่จุ่น สวีลี่ไม่มีโอกาสเอาชนะได้เลย มิหนำซ้ำยังบุกเข้าเมืองไม่ได้ จำต้องล่าถอยกลับไปอีกครั้งหลังจากต่อสู้กับกองทัพแคว้นหนานที่ประตูเมืองอยู่พักใหญ่
พวกเขาถูกลูกศรกระหน่ำยิงอีกครั้งจนต้องถอยร่นกลับไป
ทว่า มือธนูสามพันนายที่หลี่จุ่นตั้งใจพามาด้วยนั้นได้ยิงลูกศรจนเกือบหมดแล้ว
เพราะใช้ลูกศรจนเกือบหมด
จึงไม่สามารถกระหน่ำยิงเพื่อข่มขู่อีกฝ่ายได้แล้ว
“ท่านกุนซือ พวกเราไม่มีลูกศรเหลือใช้แล้วขอรับ”
เมื่อหัวหน้ามือธนูเห็นกองทัพศัตรูล่าถอยกลับไปจึงรีบมารายงานทันที
จากนั้นขออนุญาตออกไปนอกกำแพงเมืองเพื่อเก็บลูกศรที่ยิงพลาดและที่ยังใช้งานได้อยู่
หลี่จุ่นมองดูท้องฟ้า อีกประมาณสิบห้านาทีฟ้าก็น่าจะสว่างแล้ว
เขาจึงพยักหน้า และรีบสั่งให้ทหารออกไปเก็บลูกศรที่นอกกำแพงเมือง
ในเวลาเดียวกัน เขาก็เตรียมวางแผนขั้นตอนถัดไป
หากกองหนุนมาไม่ทันก่อนฟ้าสาง ฉะนั้นกองกำลังหนึ่งหมื่นนายของตนก็จะตกอยู่ในอันตราย
จะต้องวางแผนเตรียมพร้อมไว้ทั้งสองทาง
หลี่จุ่นจึงสั่งให้ทหารม้ากลุ่มหนึ่งลอบเข้าไปในป่าที่อยู่นอกกำแพงเมือง จากนั้นให้พวกเขาอ้อมไปทางด้านหลังของกองทัพศัตรู หากกองทัพศัตรูบุกโจมตีเมืองอีกครั้งก็ให้พวกเขาโจมตีจากด้านหลัง และฆ่าศัตรูขณะไม่ทันตั้งตัว
แต่ถ้าหากไม่โจมตีเมืองอีกก็ให้รอจนกว่ากองหนุนจะมาถึง จากนั้นค่อยกลับมาอย่างเงียบๆ
เมื่อตะเตรียมการเรียบร้อยแล้วหลี่จุ่นก็นั่งรออย่างสบายใจ
รอให้ฟ้าสว่าง รอกองหนุนมาถึง และรอกองทัพศัตรูโจมตีเมือง
โชคดีที่ ทันทีที่ฟ้าสว่างก็มีทหารกลับมารายงานว่าเฟิงอู่หังได้นำกองทัพหนึ่งแสนนายมาช่วยแล้ว
“ดี”
หลี่จุ่นโล่งใจในทันที และตะโกนว่า
หากยังมาไม่ถึง กำลังพลเท่านี้ของเขาคงต้านทานไม่ไหวแน่
หากอีกฝ่ายบุกมาอีกสองรอบจะต้องตีเมืองแตกเป็นแน่
แต่ตอนนี้เขาสบายใจแล้ว
เป็นดังคาด!
ผ่านไปไม่นานนัก เฟิงอู่หังก็ยกทัพอย่างเกรียงไกรมาถึงประตูเมืองบูรพา
“ไอ้หนุ่ม ไอ้ตาบอดคนไหนถึงกล้ามาที่นี่”
เฟิงอู่หังนั่งอยู่บนหลังม้าด้วยสีหน้าโกรธเคือง”
หลี่จุ่นส่ายหน้าก่อนจะพูดว่า “ไม่รู้ว่าเขาผู้นั้นคือใคร แต่ดูเหมือนจะเป็นไอ้น่าโง่ที่ไม่เคยรบมาก่อน”
เฟิงอู่หังได้ยินดังนั้นก็รีบพูดว่า
“ดี ข้าก็อยากจะเห็นนักว่าเป็นไอ้ตาบอดคนไหน”
เมื่อทั้งสองคนมีความเห็นตรงกันจึงสั่งให้เรียกเหล่าแม่ทัพในกองทัพมาประชุมปรึกษากัน
จากนั้น
รีบสั่งให้หน่วยสอดแนมไปสำรวจเส้นทางอีกครั้ง
หลังจากครึ่งชั่วโมงผ่านไป
เฟิงอู่หังก็ได้นำกองทัพหนึ่งแสนนายออกไปโจมตีศัตรู
ในเวลานี้ สวีลี่แม่ทัพของกองทัพเหยียนโจวยังคงมีสีหน้าโกรธแค้นอยู่
ไม่น่าเชื่อเลยว่าเมืองเล็กๆ อย่างเมืองหลินซุ่นที่ไม่จำเป็นต้องเสียกำลังคนก็สามารถเข้าไปได้ ตอนนี้กลับตีเมืองไม่แตกสักที
แล้วเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน
เรื่องง่ายๆ แค่นี้ แต่เขากลับทำมันพัง ต่อไปยิ่งจะทำให้โดนดูถูกมากขึ้น
“ไม่ได้ ข้าจะต้องยึดเมืองนี้ให้จงได้”
น้ำเสียงของสวีลี่แม่ทัพใหญ่แน่วแน่ จากนั้นโบกมือและออกคำสั่งอีกครั้ง
“ถ่ายทอดคำสั่งออกไป พักผ่อนครึ่งชั่วโมง จากนั้นบุกโจมตีอีกครั้ง”
ครั้งนี้ไม่ว่าอย่างไรก็ตามต้องบุกเข้าเมืองในจงได้!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน
ปลดล็อคแล้วอ่านไม่ได้...
เนื้อเรื่องสนุกคับ...แต่ก็รำคาญพระเอกอยุู่พอสมควรเจ้าชู้เกินกินพื้นที่หักเหลี่ยมเฉือนคมเยอะไปหน่อยน่าจะเป็นทุกเรื่องมั้งที่ผู้ชายเดินเรื่อง...
เชี่ยไรเนี่ย เติมเงินแต่อ่านไม่ได้สักบท...
กดปลดล็อคไม่ได้เติมเงินแล้ว แย่มาก...
737 ปลดล็อกแล้วอ่านไม่ได้...
736 ผมปลดล็อคแล้ว อ่านไม่ได้...
เขียนต่อเถอะครับ รอนานแล้ว...
ตอน 706 มีหรือยัง...
อยากอ่านต่อครับ ผู้เขียนไม่สบายหรือเปล่าครับ...
ขอบคุณมากนะคะ ที่ให้อ่านฟรี สนุกมากค่ะ สั่งซื้อกางเกงใน GQ ไป 3 ตัวแล้วค่ะ สนับสนุนโฆษณา ที่ได้อ่านค่ะ...