องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 1015

สวีลี่แม่ทัพใหญ่แห่งกองทัพเหยียนโจวได้นำทหารสามหมื่นนายเปิดฉากโจมตีอีกครั้งก่อนฟ้าสาง

แต่น่าเสียดายมาก

เพราะเผชิญกับหลี่จุ่น สวีลี่ไม่มีโอกาสเอาชนะได้เลย มิหนำซ้ำยังบุกเข้าเมืองไม่ได้ จำต้องล่าถอยกลับไปอีกครั้งหลังจากต่อสู้กับกองทัพแคว้นหนานที่ประตูเมืองอยู่พักใหญ่

พวกเขาถูกลูกศรกระหน่ำยิงอีกครั้งจนต้องถอยร่นกลับไป

ทว่า มือธนูสามพันนายที่หลี่จุ่นตั้งใจพามาด้วยนั้นได้ยิงลูกศรจนเกือบหมดแล้ว

เพราะใช้ลูกศรจนเกือบหมด

จึงไม่สามารถกระหน่ำยิงเพื่อข่มขู่อีกฝ่ายได้แล้ว

“ท่านกุนซือ พวกเราไม่มีลูกศรเหลือใช้แล้วขอรับ”

เมื่อหัวหน้ามือธนูเห็นกองทัพศัตรูล่าถอยกลับไปจึงรีบมารายงานทันที

จากนั้นขออนุญาตออกไปนอกกำแพงเมืองเพื่อเก็บลูกศรที่ยิงพลาดและที่ยังใช้งานได้อยู่

หลี่จุ่นมองดูท้องฟ้า อีกประมาณสิบห้านาทีฟ้าก็น่าจะสว่างแล้ว

เขาจึงพยักหน้า และรีบสั่งให้ทหารออกไปเก็บลูกศรที่นอกกำแพงเมือง

ในเวลาเดียวกัน เขาก็เตรียมวางแผนขั้นตอนถัดไป

หากกองหนุนมาไม่ทันก่อนฟ้าสาง ฉะนั้นกองกำลังหนึ่งหมื่นนายของตนก็จะตกอยู่ในอันตราย

จะต้องวางแผนเตรียมพร้อมไว้ทั้งสองทาง

หลี่จุ่นจึงสั่งให้ทหารม้ากลุ่มหนึ่งลอบเข้าไปในป่าที่อยู่นอกกำแพงเมือง จากนั้นให้พวกเขาอ้อมไปทางด้านหลังของกองทัพศัตรู หากกองทัพศัตรูบุกโจมตีเมืองอีกครั้งก็ให้พวกเขาโจมตีจากด้านหลัง และฆ่าศัตรูขณะไม่ทันตั้งตัว

แต่ถ้าหากไม่โจมตีเมืองอีกก็ให้รอจนกว่ากองหนุนจะมาถึง จากนั้นค่อยกลับมาอย่างเงียบๆ

เมื่อตะเตรียมการเรียบร้อยแล้วหลี่จุ่นก็นั่งรออย่างสบายใจ

รอให้ฟ้าสว่าง รอกองหนุนมาถึง และรอกองทัพศัตรูโจมตีเมือง

โชคดีที่ ทันทีที่ฟ้าสว่างก็มีทหารกลับมารายงานว่าเฟิงอู่หังได้นำกองทัพหนึ่งแสนนายมาช่วยแล้ว

“ดี”

หลี่จุ่นโล่งใจในทันที และตะโกนว่า

หากยังมาไม่ถึง กำลังพลเท่านี้ของเขาคงต้านทานไม่ไหวแน่

หากอีกฝ่ายบุกมาอีกสองรอบจะต้องตีเมืองแตกเป็นแน่

แต่ตอนนี้เขาสบายใจแล้ว

เป็นดังคาด!

ผ่านไปไม่นานนัก เฟิงอู่หังก็ยกทัพอย่างเกรียงไกรมาถึงประตูเมืองบูรพา

“ไอ้หนุ่ม ไอ้ตาบอดคนไหนถึงกล้ามาที่นี่”

เฟิงอู่หังนั่งอยู่บนหลังม้าด้วยสีหน้าโกรธเคือง”

หลี่จุ่นส่ายหน้าก่อนจะพูดว่า “ไม่รู้ว่าเขาผู้นั้นคือใคร แต่ดูเหมือนจะเป็นไอ้น่าโง่ที่ไม่เคยรบมาก่อน”

เฟิงอู่หังได้ยินดังนั้นก็รีบพูดว่า

“ดี ข้าก็อยากจะเห็นนักว่าเป็นไอ้ตาบอดคนไหน”

เมื่อทั้งสองคนมีความเห็นตรงกันจึงสั่งให้เรียกเหล่าแม่ทัพในกองทัพมาประชุมปรึกษากัน

จากนั้น

รีบสั่งให้หน่วยสอดแนมไปสำรวจเส้นทางอีกครั้ง

หลังจากครึ่งชั่วโมงผ่านไป

เฟิงอู่หังก็ได้นำกองทัพหนึ่งแสนนายออกไปโจมตีศัตรู

ในเวลานี้ สวีลี่แม่ทัพของกองทัพเหยียนโจวยังคงมีสีหน้าโกรธแค้นอยู่

ไม่น่าเชื่อเลยว่าเมืองเล็กๆ อย่างเมืองหลินซุ่นที่ไม่จำเป็นต้องเสียกำลังคนก็สามารถเข้าไปได้ ตอนนี้กลับตีเมืองไม่แตกสักที

แล้วเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน

เรื่องง่ายๆ แค่นี้ แต่เขากลับทำมันพัง ต่อไปยิ่งจะทำให้โดนดูถูกมากขึ้น

“ไม่ได้ ข้าจะต้องยึดเมืองนี้ให้จงได้”

น้ำเสียงของสวีลี่แม่ทัพใหญ่แน่วแน่ จากนั้นโบกมือและออกคำสั่งอีกครั้ง

“ถ่ายทอดคำสั่งออกไป พักผ่อนครึ่งชั่วโมง จากนั้นบุกโจมตีอีกครั้ง”

ครั้งนี้ไม่ว่าอย่างไรก็ตามต้องบุกเข้าเมืองในจงได้!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน