ทุกคนมองกันไปมองกันมา
จากนั้นก็พากันเห็นด้วยกับข้อเสนอของกุนซือเจี่ยงอิงสง
ขนาดกุนซือยังว่าได้แล้ว แล้วพวกเขาที่เป็นคนหยาบกระด้างทำงานตามคำสั่งจะมีความเห็นอะไรที่ดีกว่าได้
ก็ต้องไม่มีอยู่แล้ว
ไม่ต้องเสนอไปเป็นพิธีหรอก
องค์ชายสี่พยักหน้าพอใจเอ่ย
“ในเมื่อเป็นเช่นนั้น พรุ่งนี้ก็ส่งหน่วยสอดแนมออกไปตรวจสอบสถานการณ์ของศัตรูให้ชัดเจน วันมะรืนยกทัพไปเมืองหลินซุ่น!”
ศึกแรกของเขาจะต้องเกริกก้อง เขาต้องทำศึกนี้ให้สวยงาม!
ต้องโจมตีไม่ให้อีกฝ่ายไหวตัวทัน!
องค์ชายสี่คิดอย่างนี้อยู่ในใจ อดรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาไม่ได้
เขาไม่คิดว่าเสด็จพ่อจะให้เขาเริ่มรับหน้าที่ดูแลกองทัพเร็วอย่างนี้ ทีแรกเขายังนึกว่าถ้าเป็นไปตามคาด ตัวเองจะได้เป็นท่านอ๋องอีกสักสองปีแล้วค่อยถูกส่งไปอยู่ชายแดนตะวันตก
แต่คิดไม่ถึง
มาถึงก็ให้เขาลองคุมทหารสามแสนนาย ทำให้เขาคิดไม่ถึงจริง ๆ
เพราะเขาไม่เคยไปค่ายทหารมาก่อน ยิ่งไม่เคยคลุกคลีกับการควบคุมทหาร
เขาไม่ค่อยเข้าใจจุดประสงค์ของเสด็จพ่อ
แต่
พอคิดในเชิงลึก คล้ายว่าเขาจะรู้จุดประสงค์ของเสด็จพ่อแล้ว
เวลานี้
เมืองหลวงราชวงศ์อู่
เจิ้นเป่ยอ๋องและอัครมหาเสนาบดีเฒ่าแคว้นฉีกำลังนั่งอยู่ที่หน้าประตูเมืองทางเหนือ ต่างฝ่ายต่างมีกองทัพ ทว่าพวกเขากำลังเดินหมากอย่างผ่อนคลายอยู่หน้าทัพทั้งสอง
พลางเจรจา
“ท่านอ๋องยังองอาจเหมือนเดินเลยนะ นึกถึงตอนที่จากกันเมื่อยี่สิบปีก่อน ข้ากลับแก่ตัวไปทัพวัน สวรรค์กลับโปรดปรานท่านอย่างยิ่ง ใบหน้าของท่านเหมือนยังหยุดอยู่เมื่อยี่สิบปีก่อน”
อัครมหาเสนาบดีเฒ่าหวังฉวนเหวินแห่งแคว้นฉีพูดกลั้วหัวเราะ มือถือหมากสีดำอยู่ในมือ
เจิ้นเป่ยอ๋องสายตาอยู่กับกระดานหมาก มือถือหมากสีขาว พอได้ยินคำพูดของอัครมหาเสนาบดีเฒ่าแล้วก็พูดเรียบ ๆ ว่า
“ท่านคิดมากแล้ว ใช่ว่าสวรรค์โปรดปรานข้า ท่านเองก็ยังหน้าตาเหมือนเมื่อยี่สิบปีก่อน ผิวพรรณจะแก่ชรากว่าข้าเป็นเรื่องธรรมดา”
ว่าแล้วก็วางหมาก
อัครมหาเสนาบดีเฒ่าหัวเราะฮา ๆ มองกระดานหมากและพูด
“ความสามารถในการเดินหมากของท่านอ๋องก้าวหน้ากว่าเมื่อยี่สิบปีก่อนนะ บัดนี้ข้าสู้ไม่ได้แล้ว”
ว่าแล้วก็วางหมากตัวหนึ่ง พอวางลงเจิ้นเป่ยอ๋องก็ขมวดคิ้วทันที อยู่นานก็ยังวางหมากไม่ได้
อัครมหาเสนาบดีเฒ่าหัวเราะฮ่า ๆ เอ่ย
“ท่านอ๋อง เป็นอย่างไร เรื่องที่ข้าพูดในจดหมาย ท่านพิจารณาไปถึงไหนแล้ว บัดนี้ราชวงศ์อู่เจอกับการร่วมมือของแคว้นต่าง ๆ กองทัพล้านคน ความน่าเกรงขามของราชวงศ์อู่ผ่านพ้นไปแล้ว หากท่านร่วมมือกับข้า ต้องโค่นราชวงศ์อู่สถาปนาแคว้นใหม่ได้ในเร็ววันแน่!”
ดังนั้น
จะต้องสู้จนทหารคนสุดท้ายตายจึงจะจบ!
ซึ่งเป็นความสูญเสียที่ไม่สมควรของแคว้นฉี!
อาจเพลี่ยงพล้ำหนักได้ทุกเมื่อ
หวังฉวนเหวินหมุนตัวกลับเข้าค่ายทหารแคว้นฉีเหมือนกัน อู๋อี๋หลิงเดินมาหาและถามทันที
“อัครมหาเสนาบดี เป็นอย่างไรบ้าง”
หวังฉวนเหวินส่ายหน้า
อู๋อี๋หลิงรู้สึกผิดหวังอย่างยิ่ง
“อัครมหาเสนาบดี เช่นนั้นพวกเราควร...”
หวังฉวนเหวินคิดแล้วจึงเอ่ย
“เจิ้นเป่ยอ๋องให้สัจจะเอง ถ้าไม่ผ่านเมืองหลวง เขาจะไม่ขัดขวาง กลับเหมือนกับที่ข้าคิดไว้เมื่อก่อนหน้านี้ เจิ้นเป่ยอ๋องกับหลี่เจิ้งไม่ได้เป็นพวกเดียวกัน นี่ยังนับว่าเป็นข่าวดี”
“อัครมหาเสนาบดี ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เช่นนั้นทัพเรา...”
หวังฉวนเหวินสีหน้าไม่แน่นอน แต่ก็พูดในท้ายที่สุด
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ไปชิงโจวเถอะ แล้วไปทางอิงโจวและเมืองหลวงแคว้นหนานต่อ ”
ถ้าหลี่เจิ้งจะสถาปนาราชวงศ์อู่ที่แคว้นหนาน จะไม่ง่ายอย่างนั้น!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน
ปลดล็อคแล้วอ่านไม่ได้...
เนื้อเรื่องสนุกคับ...แต่ก็รำคาญพระเอกอยุู่พอสมควรเจ้าชู้เกินกินพื้นที่หักเหลี่ยมเฉือนคมเยอะไปหน่อยน่าจะเป็นทุกเรื่องมั้งที่ผู้ชายเดินเรื่อง...
เชี่ยไรเนี่ย เติมเงินแต่อ่านไม่ได้สักบท...
กดปลดล็อคไม่ได้เติมเงินแล้ว แย่มาก...
737 ปลดล็อกแล้วอ่านไม่ได้...
736 ผมปลดล็อคแล้ว อ่านไม่ได้...
เขียนต่อเถอะครับ รอนานแล้ว...
ตอน 706 มีหรือยัง...
อยากอ่านต่อครับ ผู้เขียนไม่สบายหรือเปล่าครับ...
ขอบคุณมากนะคะ ที่ให้อ่านฟรี สนุกมากค่ะ สั่งซื้อกางเกงใน GQ ไป 3 ตัวแล้วค่ะ สนับสนุนโฆษณา ที่ได้อ่านค่ะ...