องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 1028

ครั้นโคจรหลายรอบ หลี่จุ่นพลันรู้สึกสดชื่นปลอดโปร่ง ความอ่อนล้าหายไปหมด รู้สึกน่าตกใจและประหลาดใจมาก

คิดไม่ถึงจันทราพิฆาตนี้จะฝึกได้ผลลัพธ์ไม่เลว

ดูท่าวรยุทธ์ของเขาจะก้าวหน้าอีกแล้ว แต่จันทราพิฆาตนี้เขายังฝึกไม่สำเร็จ ซั่งกวนหว่านเอ๋อร์เคยบอกว่ายังขาดการฝึกพร้อมอาบแสงจันทร์อีกครั้ง

ต้องหาโอกาสกลับไป ฝึกวิชานี้ให้สำเร็จสมบูรณ์

นี่อย่างกับอาวุธวิเศษที่ขจัดความอ่อนล้าจากการทำศึกสงคราม!

หลี่จุ่นเก็บลมปราณแล้วลุกขึ้น จึงพบว่าท้องฟ้าปรากฏแสงสีขาวท้องปลาแล้ว

ที่แท้เขาก็ฝึกจนถึงรุ่งเช้า

“ไม่เกิดเรื่องอะไรกระมัง” หลี่จุ่นสอบถามกับองครักษ์ที่คุ้มกันข้างกาย

“เรียนท่านกุนซือ ไม่ ไม่เกิดเรื่องอะไรขอรับ...”

สายตาที่องครักษ์ทั้งสองมองเขาแปลกออกไปเล็กน้อย คล้ายมีความยำเกรงมากขึ้นอีกนิด

หลี่จุ่นสังเกตเห็นถึงความผิดปกติ แต่ก็ไม่ใส่ใจ

พลันลุกขึ้นแล้วเริ่มสั่งให้ทุกคนกินอาหารเช้า

ครั้นกินมื้อเช้าเสร็จ หน่วยสอดแนมคนหนึ่งก็รีบร้อนวิ่งกลับมา มาถึงตรงหน้าหลี่จุ่นและรายงานว่า

“ท่านกุนซือ เมื่อคืนค่ายทหารฝ่ายศัตรูเริ่มโยกย้ายกำลังพลแล้วขอรับ เป็นการโยกย้ายขนานใหญ่ คาดว่าต้องเคลื่อนพลแล้ว!”

ครั้นหลี่จุ่นได้ฟังก็หรี่ดวงตานิด ๆ

พยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะเอ่ย

“ดี ลำบากแล้วนะ เจ้าไปพักผ่อนก่อนเถอะ”

คงจะบุกมาแล้ว แต่ไม่รู้ว่าจะมาตอนกลางวันหรือว่ามาตอนกลางคืน

หลี่จุ่นไปดูกับดักที่หยวนเฟิงพาคนไปทำ หลังจากยืนยันว่าไม่มีปัญหาก็กลับมารออยู่บนเนินเขาอีก

พร้อมงีบครู่หนึ่ง

การงีบครั้งนี้ เขางีบไปถึงตอนกลางวันเลยทีเดียว

ดูท่าจันทราพิฆาตถึงจะทำให้เขาหายง่วงได้ แต่ก็ไม่สามารถหลอกร่างกายตัวเองได้ ที่ควรนอนก็ยังต้องนอน

“ท่านกุนซือ!”

มีคนปลุกหลี่จุ่น

“ท่านกุนซือ มีกองทัพศัตรูจำนวนมากออกจากค่ายทหาร กำลังมุ่งหน้ามาทางเราแล้วขอรับ!” หน่วยสอดแนมรายงาน

พอหลี่จุ่นได้ยินก็ทำตัวให้กระปรี้กระเปร่าขึ้นทันที และถามว่า

“ความเร็วในการเคลื่อนพลเล่า”

“ไม่เร็วไม่ช้าขอรับ...ตามความเร็วนี้ประมาณ...ตะวันตกดินก็จะถึงแล้วขอรับ!” หน่วยสอดแนมรีบตอบด้วยความเคารพ

หลี่จุ่นหรี่ดวงตา พยักหน้าน้อย ๆ และเอ่ย

จะอาศัยตอนที่ศัตรูไม่ทันระวัง แผนการไร้ข้อผิดพลาด!

เมื่อครู่มีหน่วยสอดแนมเร่งกลับมาทั้งคืน บอกว่าทัพศัตรูที่เมืองหลินซุ่นไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ ดังนั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะรู้ว่าพวกเขาจะมา

ต่อให้รู้ เกรงว่าจะยกพลไปถึงเมืองหลินซุ่นแล้วอีกฝ่ายจึงจะเห็น

แต่ว่าตัวเองจะถึงอยู่แล้ว รู้ตอนนี้จะมีประโยชน์อันใด

ต่อสู้กับเขาแบบฉุกละหุก ต้องแพ้แน่!

อีกอย่าง ถึงอีกฝ่ายรู้แล้วจะทำไม

ทัพศัตรูที่เมืองหลินซุ่นมีไม่ถึงสองหมื่นคน กระทั่งว่าบางส่วนในนั้นคล้ายยังเป็นกำลังพลของพวกกองโจรที่เพิ่งทลายมาได้ มีความรู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันน้อย แสดงศักยภาพในการรบไม่ได้แน่

อีกส่วนหนึ่งยังอยู่ที่จวนชายแดนตะวันตก เขามีความได้เปรียบที่มีจำนวนมาก สามารถเผด็จศึกได้โดยไว

ตอนนี้เอง กุนซือเจี่ยงอิงสงขี่ม้าขึ้นหน้ามา พูดด้วยสีหน้ากังวล

“ท่านจอมทัพ ข้าคิดแล้วพวกเรามิสู้เร่งการเดินทางสักหน่อย รีบไปให้ถึงแถว ๆ เมืองหลินซุ่นให้เร็วที่สุด เช่นนั้นต่อให้อีกฝ่ายเห็นพวกเรายังสามารถทำสงครามโดยไว! หากถ่วงเวลาถึงตอนกลางคืนแล้วค่อยโจมตี เกรงว่าอีกฝ่ายจะเห็นพวกเราแล้ว!”

พอองค์ชายสี่ได้ยินก็คิด ก่อนจะพยักหน้าพูดว่า

“ดี ท่านกล่าวถูกต้องยิ่งนัก! เอาละ ถ่ายทอดคำสั่งออกไป เร่งการเดินทาง!”

ครู่หนึ่งให้หลัง

ทัพใหญ่ยกขบวนเพิ่มความเร็วในการเดินทาง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน