หลังจากลอยไปได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ในที่สุดทั้งสามคนก็มองเห็นค่ายของศัตรู
แสงไฟระยิบระยับกระจัดกระจาย
เมื่อมองจากบนท้องฟ้ายามค่ำคืนมันช่างงดงามยิ่งนัก
แทบสุดลูกหูลูกตา
ซือคงซั่วและจ้าวกว่ายจื่อมองลงไปด้วยความกล้า ก่อนจะอุทานออกมาทันที
“นี่ นี่กองกำลังศัตรูมีมากมายขนาดนี้...เราจะชนะได้ไหม”
“นั่นสิ มองไปเห็นกองทหารศัตรูมากมายขนาดนี้ น่ากลัวจริง ๆ...”
หลี่จุ่นได้ยินทั้งสองคนพึมพำและอุทาน จึงเตะเข้าไปหนึ่งทีและพูดว่า
“มันน่ากลัวตรงไหนเนี่ย กองทัพของเราก็มีทหารมากเช่นนี้ เราเห็นว่าอีกฝ่ายมีทหารจำนวนมาก อีกฝ่ายก็เห็นกองทัพของเราแบบเดียวกัน!”
“ใช่ ๆ ๆ กุนซือท่านพูดถูก!”
ซือคงซั่วเป็นคนที่แล่นเรือไปตามทางลม จึงพยักหน้าเห็นด้วยทันที
โดยพื้นฐานแล้วจ้าวกว่ายจื่อและซือคงซั่วเป็นคนจำพวกเดียวกัน ดังนั้นจึงรีบพยักหน้าเห็นด้วย
กุนซือว่าอย่างไรก็ว่าอย่างนั้น!
“เอาล่ะ เตรียมพร้อมต่อสู้กันเถอะ! รีบหาที่ตั้งเสบียงของศัตรูโดยเร็ว!” หลี่จุ่นพูด
“รับทราบ!”
ทั้งสองมองลงไปด้านล่างทันที
ค่อย ๆ ลอยผ่านไปเหนือกองทัพศัตรู ชั่วขณะนั้นเองด้านล่างก็มีเสียงเอะอะ
กองทัพเหยียนโจวสังเกตเห็นลูกโป่งร้อนขนาดใหญ่ติดไฟลอยมาอยู่บนท้องฟ้า รู้สึกประหลาดใจมาก จึงพากันเงยหน้าขึ้นมอง
ทว่ามันลอยค่อนข้างสูงและทัศนวิสัยในการมองเห็นไม่ค่อยดีในตอนกลางคืน จึงไม่เห็นว่ามีคนอยู่บนนั้น
เมื่อมีการรายงานข่าวไปยังกระโจมกลางกองทัพ กลุ่มทหารที่นำโดยองค์ชายสี่ก็วิ่งออกจากกระโจมกลางกองทัพทันทีและเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ทันใดนั้นก็เห็นลูกโป่งขนาดใหญ่กำลังลอยช้า ๆ บนท้องฟ้ายามค่ำคืน
ดูเหมือนจะมีไฟอยู่ข้างใต้!
ส่องแสงเป็นประกาย!
“นี่มันอะไรกัน”
“มีอะไรลอยอยู่บนท้องฟ้า”
“ลูกใหญ่มาก...”
“นี่มันอะไรเนี่ย!”
“…”
ทุกคนต่างส่งเสียงโหวกเหวกโวยวาย รู้สึกประหลาดใจอย่างมาก
องค์ชายสี่และกุนซือเจี่ยงอิงสงที่ตกหลุมพรางจนแขนซ้ายหักโดยไม่ได้ตั้งใจเมื่อตอนกลางวันก็รู้สึกประหลาดใจเช่นกัน
นี่มันอะไรกันเนี่ย
“นี่คืออะไร” กุนซือเจี่ยงอิงสงครุ่นคิดอย่างหนักจนอดไม่ได้ที่จะพูดออกมา
องค์ชายสี่ส่ายหน้า ดวงตาพลางหรี่ลงเล็กน้อย
สิ่งนี้...เหมือนจะคุ้น ๆ นะ
นอกจากนี้ ต้องมีทหารจำนวนมากคอยเฝ้าอยู่บริเวณนั้น
เพราะท้ายที่สุดแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดในการเคลื่อนทัพไปทำสงครามนั่นก็คือเสบียงอาหาร ซึ่งเป็นอุปกรณ์รบที่สำคัญที่สุดทางการทหาร!
หากสูญเสียเสบียงอาหารไป สงครามก็จะไม่สามารถดำเนินต่อไปได้
แน่นอนว่าโดยทั่วไปแล้วไม่ควรขนเสบียงมามากจนเกินไป เพราะการนำมามากเกินไปจะเป็นการถ่วงกองทัพ
“กุนซือ ไม่เจอเลย เสบียงของกองทัพเราตั้งอยู่ใกล้กระโจมกลางกองทัพ แต่ของกองทัพศัตรูไม่มีเลย!”
ซือคงซั่วจ้องดูอยู่นานแต่ไม่พบสิ่งใดเลย ทันใดนั้นสีหน้าก็ดูสับสน
จ้าวกว่ายจื่อก็หาสุดความสามารถแต่ก็ไม่พบ
หลี่จุ่นเริ่มสงสัยทันที
หรือว่าเสบียงของกองทัพศัตรูทั้งหมดจะให้พวกทหารคอยพกติดตัวเอาไว้
อันที่จริงเสบียงอาหารเพียงหนึ่งหรือสองวันก็ไม่ได้มากนัก
มันเป็นไปได้จริง ๆ!
นี่คือปรัชญาการรบแบบสายฟ้าแลบของเขา องค์ชายสี่ผู้นี้อาจจะเคยศึกษาสงครามชายแดนทางตอนเหนือ
บางทีไอ้หมอนี่อาจเลียนแบบเขาจริง ๆ โดยให้พวกทหารขนเสบียงสำหรับแค่วันสองวันเท่านั้น และยกเลิกการจัดเตรียมเสบียงให้กับกองทัพ
อันที่จริงแล้ว
การคุ้มกันเสบียงขนทีทั้งหมดนั้น มันไม่สะดวกต่อการเดินทาง
แต่การแยกกันพกพาไว้แทบจะไม่ส่งผลกระทบต่อการทำสงครามเลย!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน
ปลดล็อคแล้วอ่านไม่ได้...
เนื้อเรื่องสนุกคับ...แต่ก็รำคาญพระเอกอยุู่พอสมควรเจ้าชู้เกินกินพื้นที่หักเหลี่ยมเฉือนคมเยอะไปหน่อยน่าจะเป็นทุกเรื่องมั้งที่ผู้ชายเดินเรื่อง...
เชี่ยไรเนี่ย เติมเงินแต่อ่านไม่ได้สักบท...
กดปลดล็อคไม่ได้เติมเงินแล้ว แย่มาก...
737 ปลดล็อกแล้วอ่านไม่ได้...
736 ผมปลดล็อคแล้ว อ่านไม่ได้...
เขียนต่อเถอะครับ รอนานแล้ว...
ตอน 706 มีหรือยัง...
อยากอ่านต่อครับ ผู้เขียนไม่สบายหรือเปล่าครับ...
ขอบคุณมากนะคะ ที่ให้อ่านฟรี สนุกมากค่ะ สั่งซื้อกางเกงใน GQ ไป 3 ตัวแล้วค่ะ สนับสนุนโฆษณา ที่ได้อ่านค่ะ...