องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 1044

“เพียงแต่ ทำไมมีคนขโมยร่างของเขาไป”

เมื่อองค์ชายสี่นึกถึงการตายของหลี่จุ่น ทันใดนั้นเขาก็คิดถึงปัญหาที่กวนใจเขาอยู่ตลอด และเอาแต่ขมวดคิ้ว

ศพของหลี่จุ่นถูกขโมยอยู่นอกเมือง และไม่มีใครหาพบ

แม้แต่หน่วยข่าวลับของเสิ่นคั่วก็ไม่ได้รับข้อมูลอะไรเลย

ไหนจะการตายของเสิ่นคั่วอีก ไม่แน่อาจจะมาจากฝีมือของขั้วอำนาจนักฆ่าเดียวกัน

ที่แน่ ๆ

เรื่องของเสิ่นคั่วนั้นลึกลับเกินไป และเขาก็ไม่กล้าที่จะแตะต้อง!

ไม่ว่าจะตายอย่างไรมีแต่ฟ้าเท่านั้นที่รู้

หากเขาเข้าไปยุ่งกับเรื่องนี้ ก็ยากที่จะรับประกันว่าจะไม่เป็นการหาเหาใส่หัว

ในขณะเดียวกัน!

หลี่จุ่นและคนอื่น ๆ ลอยไปไกลขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็นเพียงแสงไฟบนท้องฟ้าจุดเดียว

หลี่จุ่นยังคงควบคุมทิศทางด้วยไม้พาย ตราบใดที่ทิศทางลมยังไม่เปลี่ยนแปลง พวกเขาก็สามารถลอยไปข้างหน้าได้

แต่ถ้าลมเปลี่ยนทิศขึ้นมาก็จบเห่

ผลก็คือกลัวสิ่งใดก็ได้สิ่งนั้น

ทั้งสามลอยต่อไปได้อีกไม่นาน ทิศทางลมก็ค่อย ๆ เปลี่ยน

กลายเป็นลมพัดไปทางเหนือ!

“กุนซือ แย่แล้ว ทิศทางลมเปลี่ยนแล้ว!” ซือคงซั่วเป็นคนแรกที่สังเกตเห็นและตะโกนทันที

จ้าวกว่ายจื่อก็ตกใจเช่นกัน เลยรีบคว้าขอบกระเช้าไว้

หลี่จุ่นขมวดคิ้วทันที

บริเวณใกล้ ๆ นี้มีภูเขาก้อนใหญ่อยู่หลายลูก ซึ่งเป็นตัวแปรที่ทำให้ทิศทางลมเปลี่ยนได้โดยตรง

แมร่งเอ๊ย!

ในขณะนี้ด้านล่างยังคงมืด มองไม่เห็นร่องรอยที่ตั้งของกองทัพศัตรูที่คุ้มกันเสบียงอาหารเลย

เป็นเช่นนี้จะทำอย่างไรดี

หลี่จุ่นควบคุมลูกโป่งร้อนอย่างกระเสือกกระสน และลอยออกไปอีกระยะหนึ่ง แต่ผลที่ได้คือมันค่อย ๆ หลุดออกจากเส้นทาง แถมยังถูกพัดไปยังภูเขาลูกใหญ่ที่อยู่ด้านข้าง

หลี่จุ่นเห็นสถานการณ์ก็เผลอสบถออกมา

“กุนซือ ดูสิ!”

ในขณะนั้นเอง จู่ ๆ จ้าวกว่ายจื่อก็ชี้ลงไปด้านล่างและตะโกน

หลี่จุ่นมองตาม และทันใดนั้นก็เห็นคบเพลิงจำนวนหนึ่งทอดยาวเป็นสายตามถนนบนภูเขา ซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก และดูเหมือนว่าจะเป็นกลุ่มทหารจำนวนมาก

เงาตะคุ่ม ๆ!

“ต้องเป็นเสบียงของศัตรูแน่ ๆ!”

ซือคงซั่วตะโกนทันที

แต่ระยะทางนั้นไม่ใกล้กันเลย แถมยังลอยไปทางเหนือซึ่งตรงข้ามกับอีกฝ่ายด้วยซ้ำ

คราวนี้จะทำอย่างไรดี

ทั้งสองมองไปที่หลี่จุ่นตาปริบ ๆ โดยไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร

ซือคงซั่วถามทันที

“กุนซือ แล้วท่านล่ะ”

หลี่จุ่นตอบ “ข้ากำลังจะบินไปเผาเสบียงอาหารของศัตรู!”

ทั้งสองตกตะลึงทันที

ทว่า

ในเวลาต่อมา!

หลี่จุ่นไม่พูดพร่ำทำเพลง คว้าถุงหนังใส่น้ำห้าหกถุงที่เต็มไปด้วยน้ำมันผูกเชือกแล้วมัดไว้ด้วยกัน แล้วแขวนไว้บนตัวของเขา จากนั้นเขาก็หยิบเครื่องร่อนขึ้นมา ก่อนจะกระโดดไปบนขอบกระเช้าแล้วลอยออกไป

ชั่วพริบตาก็หายไปอย่างไร้เงา

ที่หลี่จุ่นไม่พาทั้งสองคนไปด้วยก็เพราะพวกเขาไม่เคยได้รับการฝึก จึงใช้เครื่องร่อนไม่เป็น หากตามเขาไปก็เหมือนลงไปตาย!

ดังนั้นเขาก็เลยต้องลุยเดี่ยว!

“กุนซือ!”

ทั้งสองตะโกนด้วยความตกตะลึง

กุนซือลอยออกไปแล้วจริง ๆ!

“กุนซือคงไม่ตกลงไปตายใช่ไหม” จ้าวกว่ายจื่อผวาอยู่ในใจจนหลุดพูดออกมา

ซือคงซั่วอยู่ในอาการตกตะลึงเช่นกัน ไม่กล้าตอบอะไร

ทว่า

กลับไปพวกเขาคงได้ไปงานสำคัญแน่เลย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน