องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 1052

หลี่จุ่นถอนตัวออกมาราบรื่นมาก

เพราะค่ายทหารกำลังชุลมุนวุ่นวาย ยุ่งอยู่กับการทำม้าศึกที่วิ่งพล่านให้สงบและดับไฟ ไม่มีเวลาจะสนใจแล้ว

ไหนเลยจะมีใจสังเกตเขาอีก

แน่นอนว่าไม่ แต่ยังมีอีกคนหนึ่งที่สังเกตเห็นเขาจริง ๆ

ใครกัน

จักรพรรดินี!

ถูกต้อง คนที่เผากระโจมกองทัพศัตรูก็คือจักรพรรดินีนั่นเอง!

พอจักรพรรดินีมาถึงก็หาหลี่จุ่นไปทั่ว ออกมาจากกองทัพนางก็สันนิษฐานแล้ว คิดว่าโดยมากหลี่จุ่นปลอดภัย

เพราะนับว่ารู้จักหลี่จุ่นดีพอควร รู้ว่าถึงหลี่จุ่นจะใจกล้า มีความคิดมาก แต่ก็ระมัดระวังตัวมากเหมือนกัน

และต้องยอมรับว่าเจ้าเล่ห์มากอุบายด้วย

ดังนั้นจะเกิดเรื่องง่าย ๆ ได้อย่างไร

เขาไม่รีบร้อนเผาเสบียงของทัพศัตรู อาจเพราะเขายังหาโอกาสไม่ได้ เวลานี้ไม่แน่ว่าจะปะปนอยู่ในค่ายศัตรู

เมื่อคิดเช่นนี้ นางจึงเสี่ยงโชค

หาอยู่ค่อนวันก็หาหลี่จุ่นไม่พบ จักรพรรดินีเริ่มร้อนใจแล้ว

แต่ไม่คิดว่าจู่ ๆ ม้าศึกของทัพศัตรูจะควบคุมไม่อยู่ จักรพรรดินีตะลึงงัน มาหาทันที

ผลคือไม่นานนัก คลังเก็บเสบียงของทัพศัตรูก็ไฟไหม้

พอเห็นภาพนี้ นางยืนยันการสันนิษฐานของตัวเองแล้ว!

หลี่จุ่นปะปนเข้ามาดังคาด และสบโอกาสเผาเสบียงของทัพศัตรูแล้วในที่สุด

ม้าศึกเหล่านั้นก็เป็นเขาที่ปล่อย เจ้าหมอนี่ต้องพูดเลยว่ามีอุบายจริง ๆ ความคิดโลดแล่น ร้ายมาก!

นางกำลังมองเสบียงของทัพศัตรูกำลังมอดไหม้อย่างยินดีพลันเกิดความคิด หันไปจุดไฟกระโจมที่อยู่ด้านข้างด้วย

ฉวยโอกาสตอนที่ชุลมุนจุดทีละหลัง ๆ

ในกองทัพวุ่นวายมากพออยู่แล้ว ตอนนี้นางจะเพิ่มไฟอีกหนึ่ง นั่นคือทำให้สถานการณ์โดยรวมวุ่นวายไปหมด!

ด้วยวรยุทธ์ของนางที่ปราดเปรียว จุดทีละหนึ่ง ระหว่างฤดูใบไม้ร่วงนี้ ย่อมติดไฟง่าย

นางจุดไปจุดมา เข้าใกล้กับกระโจมกลางกองทัพ

เตรียมจะเผากระโจมกลางกองทัพ ผลคือจู่ ๆ ก็มีท่อนไม้ที่มีไฟติดอยู่ลอยมาและเข้าข้างในโดยตรง!

จักรพรรดินีหันไปมองตามทิศทางนั้น เห็นหลี่จุ่นที่ใส่ชุดทหารของอีกฝ่าย

ในสถานการณ์นี้เอง นางจึงสังเกตเห็นหลี่จุ่น เห็นหลี่จุ่นเผากระโจมนั้นแล้วก็หันหัววิ่ง เมื่อนั้นนางจึงตามไป

ขณะเดียวกันนางโล่งอก

แต่แล้วจู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคย

อีกฝ่ายยังไม่ทันถึงตรงหน้าตนก็พูดขึ้นว่า

“กุนซือ ท่านไม่เป็นไรกระมัง”

“ฝ่าบาท ทำไมถึงเป็นพระองค์ล่ะพ่ะย่ะค่ะ” หลี่จุ่นโพล่งปากถาม ตะลึงเล็กน้อย!

จักรพรรดินีอยู่ในชุดสีดำ เข้ามาใกล้ช้า ๆ

ใบหน้าปิดผ้าสีดำเอาไว

เผยให้เห็นเพียงดวงตาคู่หนึ่ง

ทั้งยังเป็นช่วงกลางคืน ย่อมไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงทางสีหน้าของนาง

แต่ถึงจะเป็นกลางคืนก็ยากจะปกปิดสรีระอันงดงามของจักรพรรดินี

“แม่ทัพผู้เฒ่าเฟิงบอกกับข้าว่าท่านเข้าค่ายศัตรูเพียงลำพัง ข้าไม่วางใจก็เลยมาตามหา!” จักรพรรดินีพูดตามตรง

หลี่จุ่นรู้สึกประหลาดใจแบบเหนือคาด รีบพูดว่า

“ขอบพระทัยฝ่าบาท!”

จักรพรรดินีส่ายหน้าและถอนหายใจเฮือกหนึ่ง คล้ายจนปัญญาเล็กน้อย

“ท่านทำเช่นนี้เสี่ยงเกินไปแล้ว ต่อไปท่านจะทำอะไรต้องปรึกษากับข้าก่อน”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน