องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 1063

เฟิงอู่หังสังหารทูตที่มาส่งจดหมายแล้วโยนศีรษะไปถึงหน้าประตูเมือง เรื่องนี้รายงานถึงหูองค์ชายสี่เร็วมาก

องค์ชายสี่โมโหอย่างหาที่เปรียบมิได้!

แต่พอคิดดูอีกทีก็ไม่ยี่หระแม้แต่น้อย

เจ้าสังหารคนของข้าคนหนึ่งไม่เป็นไร ถึงอย่างไรบ้านเจ้าก็เสียไปแล้ว!

ข้าได้ผลประโยชน์ใหญ่เทียมฟ้า ให้เจ้าฆ่าคนระบายโทสะสักคนเรื่องเล็ก อย่างไรเสียทูตคนหนึ่งก็ไม่ใช่บุคคลสลักสำคัญอะไร เป็นแค่นายทหารนายเล็ก ๆ เท่านั้นเอง

จะมีหรือไม่ก็ได้

ในเมืองเหยียนโจว ชั่งขณะร่วมเฉลิมฉลองกับประชาชน

ในเมืองมีชาวบ้านไม่น้อยอยู่แล้ว ถึงกลางวันจะหนีหายเพราะรู้ว่าจะทำสงคราม อยู่ต่อไม่ได้

แต่ก็ยังมีคนรักบ้านเกิด ไม่ยอมย้ายรัง อยู่ในเมืองตลอด

พอเรื่องประกาศเรื่องที่หลี่เจิ้งจะสถาปนาราชธานีที่เมืองหลวงแคว้นหนานออกไป นั่นทำให้ประชาชนต่างยินดีปรีดา

ฝ่าบาทคือใคร

นั่นคือฮ่องเต้ของราชวงศ์อู่เชียวนะ แถมยังเป็นฮ่องเต้ผู้ปรีชาสามารถด้วย

รั้งตำแหน่งห้าสิบเอ็ดปี ไม่สิ ตอนนี้คือห้าสิบสองปีแล้ว

ไพร่ฟ้าราชวงศ์อู่อิ่มปากอิ่มท้อง ประกาศนโยบายต่าง ๆ อันเป็นผลดีต่อบ้านเมืองและประชาชนเนือง ๆ ชาวบ้านล้วนเห็นงาม ปกป้องหลี่เจิ้งจากใจจริงที่สุด

ก็อย่างที่รัชทายาทก่อกบฏชิงบัลลังก์เมื่อคราวก่อน ทำเอาประชาชนโกรธแค้นอย่างหนัก

มีคนด่าทอรัชทายาทว่าไม่รู้จักดีชั่วระยะหนึ่ง ตอนนี้ฟ้าหลังฝนสักที ฝ่าบาทจะสถาปนาแคว้นใหม่แล้ว!

ทั้งยังไปถึงเมืองหลวงของคนอื่น นี่น่ายำเกรงขนาดไหน

ฝ่าบาทก็คือฝ่าบาท สุดยอดไปเลย!

ประชาชนส่วนมากคิดอย่างนี้ แต่ย่อมมีคนที่รู้จักดูอยู่ไม่น้อย รู้ว่าเรื่องราวเป็นมาอย่างไรกันแน่

นี่เป็นแค่วิธีการหลอกประชาชนของหลี่เจิ้งเพื่อจุดประสงค์ทางการเมืองของตัวเองเท่านั้น

ฮ่องเต้ของราชวงศ์อู่ท่านนี้ แม้จะปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นราชาผู้ปรีชา แต่ในบางมุมก็ไม่เห็นประชาชนเป็นสำคัญเหมือนกัน จะเรียกว่าทรราชก็ไม่เกินไป

ก็อย่างเรื่องกบฏในเมืองหลวง ตระกูลที่ถูกโค่นล้มเหล่านั้นก็เพราะว่าหมดประโยชน์ต่อเขาแล้ว หรือไม่ก็มีเงินมากเกินไป กระทั่งว่ามีอำนาจมากเกินไปไม่อาจควบคุม ดังนั้นจึงฉวยโอกาสตัดรากถอนโคนเสีย

จักรพรรดินีอ่านจดหมายที่องค์ชายสี่ส่งมา เงียบงันอยู่ค่อนวัน คล้ายบรรเทาโทสะแล้วจึงค่อย ๆ พูด แน่นอนว่าในน้ำเสียงมีไอเย็นเฉียบแฝงอยู่

ถึงจะรู้อยู่แล้วว่าหลี่เจิ้งจะสถาปนาแคว้นที่เมืองหลวงของแคว้นหนาน แต่พอข่าวมาถึงจริง ๆ กลับทำให้จักรพรรดินียากจะทานทน

รู้สึกถึงความอัปยศอย่างใหญ่หลวง!

“ช่างเป็นความอัปยศอย่างใหญ่หลวงนัก แค้นใจนัก!”

เฟิงอู่หังที่อยู่ด้านข้างโพล่งปากด้วยความโกรธเหมือนกัน

ราวกับอยากบุกกลับไปแคว้นหนานชิงเมืองหลวงกลับมาเดี๋ยวนั้น

ถึงเขาจะไม่ยุ่งเรื่องแคว้นหนานมานานหลาย แต่ระยะนี้ทำศึก ความรู้สึกเป็นเจ้าของกลับมาแล้ว เวลานี้เมืองหลวงถูกยึด ทั้งยังถูกคนครอบครองอีก

เขาจะยอมรับได้อย่างไร

ไม่เพียงแต่พวกเขาที่รับไม่ได้ เวลานี้ซั่งกวนหว่านเอ๋อร์ที่เพิ่งถึงเมืองเหยียนโจวพอรู้ข่าวนี้

น้ำเสียงเย็นเฉียบที่สุด เอ่ยปากพูดด้วยความเย็นชา

“มันช่างเป็นความอัปยศใหญ่หลวงยิ่งนัก...ถ้าฟังข้าแต่แรกเป็นตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ได้อย่างไร ไม่ควรหารืองานใหญ่กับเขาเลย!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน