องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 1082

องค์ชายสี่ใช้กำลังกักกันประชาชนของเมืองเหยียนโจว เพื่อไม่ให้พวกเขาออกจากเมือง และมัดรวมประชาชนในเมืองเหยียนโจวกับทัพเหยียนโจว

เป็นผลให้ทัพแคว้นหนานไม่สามารถใช้เครื่องโยนหินโจมตีเมืองได้ ซึ่งทัพเหยียนโจวจะอยู่ในตำแหน่งที่ไม่มีใครสามารถเอาชนะได้ในช่วงเวลาอันสั้น

แต่ทัพแคว้นหนานมีเสบียงอาหารและหญ้ามากแค่ไหน

ทัพแคว้นหนานเพ่นพ่านไปทั่วทุกที่ เสบียงอาหารและหญ้าที่กองทัพขนมาจะอยู่ไปได้นานแค่ไหน

กลัวว่าจะอยู่ได้ไม่นาน!

หากเป็นแบบนั้นทัพแคว้นหนานก็จะไม่สามารถยึดเมืองเหยียนโจวได้ และทำได้เพียงเดินทัพเข้าสู่เมืองอวี๋เจียงเพื่อเติมเสบียงอาหารและหญ้า

หากเป็นเช่นนี้!

ทัพเหยียนโจวของพวกเขาก็จะสามารถยึดเมืองหลินซุ่นได้ แค่เพียงโจมตีเมืองหลินซุ่น ก็จะป้องกันการล่าถอยของทัพแคว้นหนานไปยังจวนชายแดนตะวันตก

หากมีโอกาสก็สามารถยึดจวนชายแดนตะวันตกกลับมาได้ แล้วทัพแคว้นหนานที่เพ่นพ่านไปทั่วจะยังต่อสู้กับราชวงศ์อู่ได้อย่างไร

เกรงว่าจะรนหาที่!

ต้องบอกว่าแนวคิดขององค์ชายสี่ชัดเจนมากและกลยุทธ์ของเขาก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน

หากเรื่องต่าง ๆ เป็นไปตามการขั้นตอนของเขาจริง ๆ ทัพแคว้นหนานก็จะตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากมากขึ้นอย่างแน่นอน

แต่ นี่ยังไม่ได้!

เขาต้องการที่ปิดผนึกทัพแคว้นหนานอย่างสมบูรณ์!

ทันใดนั้นเขาก็ออกคำสั่งทหารอีกครั้ง

ให้จอมพลในกองทัพนำกองกำลังทหารหนึ่งหมื่นนายไปที่เมืองอวี๋เจียงโดยทันที เพื่อนำเสบียงอาหารและหญ้าทั้งหมดที่เมืองอวี๋เจียงสามารถเก็บเกี่ยวได้ไปก่อน!

กองทหารสามหมื่นนายปราบปรามประตูทางฝั่งทิศตะวันออก กันไม่ให้ประชาชนออกจากเมือง ถูกบังคับการข่มขู่ของกองทัพ ประชาชนจึงหน้าชื่นอกตรมและทำได้เพียงกลับบ้านไปอย่างโกรธเคือง

แน่นอนว่า!

ถ้าไม่ให้คำอธิบายอะไรก็คงจะไม่ได้ องค์ชายสี่จึงมอบหมายให้เจี่ยงอิงสงทำหน้าที่สำคัญในการพูดคุยสื่อสารและปลอบขวัญชาวเมืองอีกครั้ง

เจี่ยงอิงสงรู้ความคิดขององค์ชายสี่ และรู้ว่าองค์ชายสี่ใช้ประชาชนเหล่านี้เป็นเกราะกำบังจริง ๆ และทั้งหมดที่เขาพูดก็เป็นเพียงข้ออ้าง

แต่ตอนนี้ทั้งสองต่างก็ลงเรือลำเดียวกันแล้ว ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่จำเป็นต้องทำ

โชคดีที่เจี่ยงอิงสงมีตำแหน่งเป็นกุนซือจึงมีวาจาคมคาย เขาเดินไปรอบ ๆ เมืองพร้อมกับทหารสองสามนาย และในที่สุดก็สามารถบังคับความตื่นเต้นของทุกคนให้สงบลงได้

อย่างไรก็ตามมันก็เป็นเพียงการบังคับให้สงบลง

ประชาชนยังคงต้องการออกจากเมืองอยู่ดี

ตกกลางคืน เริ่มมืดลง

ซั่งกวนหว่านเอ๋อร์เคาะประตูห้องของหลี่จุ่น เมื่อหลี่จุ่นเปิดประตูและเห็นซั่งกวนหว่านเอ๋อร์ เขาก็กล่าวด้วยความเคารพทันที

ไม่นานลูกจ้างของโรงเตี๊ยมก็มาพร้อมกับอ่างอาบน้ำไม้ขนาดใหญ่ และเทน้ำร้อนลงไป

ในที่สุดยาที่ต้มไว้ล่วงหน้าก็ถูกเทลงไป ซั่งกวนหว่านเอ๋อร์โรยกลีบดอกไม้ไว้เล็กน้อย กลีบดอกไม้เหล่านี้เมื่อก่อนอยู่ที่แคว้นหนาน หลี่จุ่นมักจะเห็นพวกมันทุกครั้งที่เขาอาบน้ำสมุนไพร

ทุกอย่างพร้อมแล้ว

ซั่งกวนหว่านเอ๋อร์กระโดดขึ้นไปบนคาน จากนั้นก็เปิดแผ่นกระเบื้องด้านบนออก ซึ่งห้องที่หลี่จุ่นอยู่นั้นอยู่บนชั้นสองพอดี

เป็นชั้นบนสุดของโรงเตี๊ยมแห่งนี้

หากยกแผ่นกระเบื้องออกก็จะสามารถเห็นท้องฟ้ายามค่ำคืนได้

จากนั้นซั่งกวนหว่านเอ๋อร์ก็วางกระจกน้ำแข็ง กระจกน้ำแข็งนั้นทำจากก้อนน้ำแข็งและผ่านการจัดการมาเป็นพิเศษ

จัดการอย่างไร

มีเพียงซั่งกวนหว่านเอ๋อร์เท่านั้นที่รู้

“เอาล่ะ รีบเข้าไปได้แล้ว”

ซั่งกวนหว่านเอ๋อร์กระโดดลงมา ปรบมือเบา ๆ และให้หลี่จุ่นเข้าไปในอ่างสมุนไพร

หลี่จุ่นถอดเสื้อผ้าทั้งหมดของเขาออกอย่างรวดเร็วและง่ายดายโดยไม่พูดอะไรสักคำ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน